สธ.ร่วมภาคีเครือข่ายจัดมหกรรม 100 ปี การสาธารณสุขไทย

762 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวการจัดงาน “ประชุมวิชาการและมหกรรมการแสดงผลงาน 100 ปี การสาธารณสุขไทย” เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี การสาธารณสุขไทย ภายใต้แนวคิด “เพื่อประชาชนสุขภาพดี 100 ปี แห่งการพัฒนา” และงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 15 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 -21 กรกฎาคม 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกลกล่าวว่า ในปีนี้ เป็นวาระครบรอบ 100 ปีของระบบการสาธารณสุขประเทศไทย ซึ่งเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงดำริให้ก่อตั้ง “กรมสาธารณสุข” ขึ้น เพื่อมุ่งเน้นการป้องกันโรค และส่งเสริมสุขอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะการต่อสู้กับโรคระบาดและโรคติดต่อที่คร่าชีวิตของประชาชนไทย สร้างความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ และการให้สุขศึกษาด้านสุขาภิบาลและอนามัยแก่ประชาชน ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุข จึงได้รวบรวมผลสัมฤทธิ์และผลการดำเนินงานด้านพัฒนาการของระบบสาธารณสุขที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มาจัดแสดงเผยแพร่ประชาชนได้รับความรู้ และจัดการประชุมวิชาการ ให้บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข ทุกสาขาวิชาชีพ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้มีโอกาสนำองค์ความรู้ จากการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และการปฏิบัติ มาเผยแพร่สู่เวทีสาธารณะ แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็น และประสบการณ์ นำไปต่อยอดสู่องค์ความรู้และนวัตกรรม ที่เป็นประโยชน์ต่อวงการสาธารณสุขต่อไปในอนาคต

“ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ได้วางรากฐานระบบสาธารณสุขของประเทศ มีการผลิตแพทย์ พยาบาล และสหวิชาชีพ พัฒนาระบบการเฝ้าระวังโรคและการสร้างเสริมสุขภาพ การพัฒนาทั้งด้านจำนวน คุณภาพและการกระจายของหน่วยบริการสาธารณสุขทุกระดับ รวมทั้งเทคโนโลยีทางการแพทย์ ระบบบริการสุขภาพ ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและสุขภาวะของประชาชน ซึ่งจากนี้ไป เราจะมองไปอีก 100 ปีข้างหน้าว่าระบบสาธารณสุขไทยจะต้องเดินไปทิศทางใด เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ การเปลี่ยนแปลงสู่สังคมดิจิทัล 4.0 สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีโรคและความเจ็บป่วยที่เกิดจากความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เพิ่มมากขึ้น โรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำที่เกิดจากโลกไร้พรมแดน ซึ่งระบบสาธารณสุขไทยจะต้องปรับบทบาทการทำงานรองรับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เช่นการปรับระบบบริการลงสู่ระบบปฐมภูมิ การสร้างความเข้มแข็งทีมหมอครอบครัว ทำให้ประชาชนมีสุขภาพดี มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ และสามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้อย่างถูกต้อง”  ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกลกล่าว

นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือของหน่วยงาน องค์กร และบุคลากรทางการแพทย์ และหน่วยงานสาธารณสุขจากทุกสังกัด และทุกภาคส่วน ที่พร้อมใจกันจัดกิจกรรมให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา มุ่งหวังให้บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข รวมถึงประชาชน ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์อันยาวนาน เข้าใจพัฒนาการระบบสาธารณสุขไทย ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย 

ในวันพุธที่ 18 กรกฎาคม 2561 เวลา 09.00น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ อิมแพค เมืองทองธานี และปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อสุขภาพคนไทย” ภายในงานแบ่งเป็น 3 กิจกรรม ได้แก่

1. มหกรรมแสดงผลงาน 100 ปี การสาธารณสุขไทย

2. งานประกวดผลงานวิชาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจำนวน 2,142 เรื่อง แบ่งเป็น การนำเสนอผลงานด้วยวาจา 745 เรื่อง การนำเสนอด้วยโปสเตอร์ 1,038 เรื่อง และผลงานนวัตกรรมสิงประดิษฐ์ 359 เรื่อง

3. งานประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2561 การเสวนาจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข

นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 15 ขึ้นพร้อมกัน รวมทั้งมีโซนนิทรรศการของหน่วยงาน  ภาคีเครือข่าย  และสภาวิชาชีพ  จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมงาน ติดตามข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ www.moph.go.th

ด้านนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า งาน 100 ปีการสาธารณสุขไทยปีนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 15 ภายใต้หัวข้อการจัดงาน “โลกมั่นใจ สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย” โดยมีการประชุมวิชาการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ตลาดความรู้ในเวทีกลาง และการอบรมหลักสูตรระยะสั้น ภายในงานจะจัดแบ่งพื้นที่ให้ประชาขนได้เดินศึกษาแบบง่ายๆ เป็น 3 โซน ได้แก่

1. โซนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย(Wisdom Zone) จัดแสดงภูมิปัญญาพื้นบ้าน 4 ภาคและนำมาให้บริการ

2. โซนบริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก( Service Zone) ให้บริการตรวจรักษาโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ยาไทย และศาสตร์การแพทย์แผนจีนด้วย การแมะ การฝังเข็ม สรุปโซนนี้จะได้พบ หมอดี ยาดี และบริการที่ดี         

3. โซนผลิตภัณฑ์ (Product Zone) การใช้นวตกรรมมาพัฒนาพืชสมุนไพรสู่การใช้ประโยชน์ จาก 100 หม้อยาไทย และสมุนไพรต่าง ๆ มีการวิจัยและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ใช้ประโยชน์ในรูปยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง เครื่องดื่มแปรรูป สามารถสร้างรายได้ปีละกว่า 2 แสนล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องสำอางมีมูลค่าประมาณ 192,600 ล้านบาท อาหารเสริม 51,848 ล้านบาท และยาสมุนไพร 7,548 ล้านบาท

ด้านองค์การเภสัชกรรม ได้ร่วมจัดนิทรรศการภายใต้แนวคิด “องค์การเภสัชกรรม เสาหลัก ความมั่นคงยั่งยืน ด้านยาวัคซีนและเวชภัณฑ์ของประเทศ ” แสดงประวัติ ผลงาน และแผนงานในอนาคต พร้อมจัดจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ราคาพิเศษ รวมถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ลด 25เปอร์เซ็นต์ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ผลิตภัณฑ์ยาสามัญประจำบ้าน และผลิตภัณฑ์อื่นที่ไม่ใช่ยา นอกจากนี้บริเวณบูธมีการจัดบรรยายให้ความรู้เรื่องการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล ความรู้เรืองการผลิตยาคุณภาพ ความรู้เรื่องสมุนไพรต่างๆ

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้