849 จำนวนผู้เข้าชม |
เรื่อง : อัฐฒา นายเรือ
มาสด้า ซีเอกซ์ 3 เดินทางมาถึงช่วงกลางของวงจรชีวิต จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง ปรับลุค เพิ่มอุปกรณต่างๆ เข้าไปเพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายให้แข่งขันในตลาดครอสโอเวอร์ได้ในช่วงต่อไปก่อนจะเปลี่ยนโฉมกันไปเลย ซีเอกซ์3 ใหม่ยังคงมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล ทั้งหมด 5 รุ่นด้วยกัน โดยมีสีใหม่เพิ่มมา 2 สี คือ เทาแมชชีน เกรย์ และ แดง โซลเรด คริสตัล
ภายนอกได้รับการตกแต่งใหม่ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือในส่วนของกระจังหน้าที่แลดูทันสมัยขึ้น ล้อแม็คลวดลายใหม่ขนาด 16-18 นิ้ว ไฟท้ายสไตล์ ซีเอกซ์5 ผู้พี่ ในรุ่นทอพทั้งเบนซินและดีเซลติดตั้งซันรูฟไฟฟ้าและแป้นแพดเดิลชิฟท์มาให้พร้อม ฯลฯ ในส่วนภายในแลดูหรูหราในมาดขรึมต่างจากโฉมก่อนหน้านี้ที่ออกแนววัยรุ่นสดใส ในช่วงคอนโซลกลางเรียบมากขึ้น มีที่ท้าวแขนเพิ่มขึ้นมา เบรคมือถูกเปลี่ยนเป็นแบบกดปุ่มควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า แผงหน้าปัด มาตรวัดแลดูสปอร์ทมากขึ้น คอนโซลกลางติดตั้งจอแสดงผลอัจฉริยะ MZD เช่นเดิม ชุดระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ทุกรุ่นติดตั้ง Advanced Blind Spot Monitoring แจ้งเตือนจุดบอดเมื่อผู้ขับทำการเปลี่ยนเลน และระบบ Rear Cross Traffic Alert ตรวจจับรถจากด้านข้างและด้านหลังขณะถอยหลัง
ส่วนรุ่นสูงสุดเพิ่มระบบ Lane Departure Warning System เตือนเมื่อตัวรถเบี่ยงออกนอกเลน, ระบบ Adaptive LED Headlamps ปรับระดับไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบ Mazda Radar Cruise Control ปรับความเร็วพร้อมรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าโดยอัตโนมัติ, ระบบ Driver Attention Alert เตือนผู้ขับเมื่อตรวจพบอาการเหนื่อยล้า, , ระบบ 360 View Monitor แสดงผลพื้นที่รอบตัวรถแบบรอบคัน, ระบบ Smart City Brake Support (SCBS) & Smart City Brake Support-Reverse (SCBS-R) ช่วยหลีกเลี่ยงการชนโดยตรวจจับระยะห่างระหว่างรถ พร้อมแจ้งเตือนและเบรคโดยอัตโนมัติ ช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากการชนในความเร็วช่วงกลางไปจนถึงความเร็วสูง
หลังจากที่ได้รับฟังคำบรรยายข้อมูลซีเอกซ์3 ใหม่เป็นที่เรียบร้อย ในวันแรกนี้เราได้ขับรุ่นทอพที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล วิ่งจากโชว์รูมมาสด้า J.P เลียบทางด่วนลาดพร้าวที่ใหม่และทันสมัยมาก เราออกเดินทางกันในช่วง 10 โมงเศษ วิ่งขึ้นทางด่วนที่สภาพการจราจรพอจะไหลลื่นอยู่บ้างมาลง ถ.พระราม2 ที่เริ่มจอแจและมีการก่อสร้างทางยกระดับทำให้บางช่วงค่อนข้างติดขัด จนวิ่งพ้นช่วงมหาชัยไปแล้วจึงพอจะใช้ความเร็วกันได้บ้าง เครื่องยนต์ดีเซล ไดเรคอินเจคชัน เป็นตัวเดียวกับที่วางอยู่ใน มาสด้า 2 มีความจุ 1.5 ลิตร 105 แรงม้า กับแรงบิดขนาด 270 นิวตัน-ม. ที่ 1,600 – 2,500 รตน. ถือว่าขับสนุก การเร่งแซงทำได้อย่างเร้าใจมีอารมณ์หลังติดเบาะให้ได้สัมผัสกันอยู่บ้าง วิ่งที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ใช้รอบอยู่แค่ 1,750 รตน. ถือว่าค่อนข้างต่ำทีเดียว
ในช่วงถนนโล่งๆ เราใช้ความเร็วส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 90-130 กม./ชม. อัตราเร่งของเครื่องยนต์ดีเซลจะดีในช่วงต้นไปจนถึงรอบกลางๆ ส่วนตีนปลายจะขึ้นค่อนข้างช้าหน่อย เสียงลมและเสียงเครื่องยนต์ดีเซลเข้ามารบกวนในห้องโดยสารค่อนข้างน้อย เครื่องยนต์และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด จากสกายแอคทีฟทำงานได้เข้าขากันดีจริงๆ ไหลลื่น อัตราทดเกียร์มีความต่อเนื่องและเหมาะสม ให้อารมณ์การขับที่สนุกกว่าเกียร์แบบซีวีทีแม้ในเรื่องความประหยัดเชื้อเพลิงจะเป็นรองก็ตาม แต่โดยส่วนตัวผมก็ยังชอบเกียร์อัตโนมัติแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์อยู่ครับ น้ำหนักตัวของรถรุ่นดีเซลจะมากกว่าเบนซินอยู่แค่ 30 กก. เท่านั้นเอง ระบบรองรับและยางใน ซีเอกซ์3 ใหม่นี้ทั้งตัวเบนซินและดีเซลจะถูกเซทให้มีความนุ่มนวลมากกว่ารุ่นที่แล้ว นั่งสบายขึ้น การขับขี่ในเมืองถือว่าดีและเหมาะสม แต่ในยามที่ขับขี่อยู่ในย่านความเร็วสูงๆ โดยเฉพาะเมื่อวิ่งเกิน 130 กม./ชม. อาจให้ความรู้สึกที่ขาดความมั่นคงไปบ้างในขณะที่เจอพื้นถนนเป็นลอนหรือคอสะพานที่ไม่เรียบจะมีการโยนตัวอยู่พอสมควรเพื่อแลกกับความสบายในการนั่งโดยสาร
โดยส่วนตัวผมยังชอบช่วงล่างที่เซทมาแบบตัวที่แล้วออกแนวสปอร์ทหน่อย การควบคุมบังคับ เฉียบคมและมั่นใจได้ แต่บางคนโดยเฉพาะสุภาพสตรีอาจจะรู้สึกว่ามันออกแนวกระด้าง ซีเอกซ์3 ใหม่ จึงได้ปรับมาเพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังผู้ที่รักความนุ่มนวล สะดวกสบาย มากกว่าจะเน้นการขับขี่แบบสปอร์ทพันธุ์แท้ แต่รถรุ่นใหม่นี้ก็ยังพออาศัยไปซิ่งได้บ้าง เพียงแต่อาจจะต้องเผื่อกันไว้นิดนึงเมื่อใช้ความเร็วสูงๆ ครับ
หลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันแถวสมุทรสงครามกันเป็นที่เรียบร้อยเราก็เดินทางกันต่อโดยมีจุดหมายปลายทางในช่วงนี้อยู่ที่แหลมผักเบี้ย สภาพเส้นทางรองที่มีรถสวน ช่วงนี้มีโค้งหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงสะพาน ให้ได้ลองประสิทธิภาพของระบบรองรับ การขับขี่ในสภาพถนนเช่นนี้ ซีเอกซ์3 ได้แสดงสมรรถนะและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์รวมไปถึงระบบรองรับออกมาได้อย่างเต็มที่ ตัวรถขนาดเล็กให้ความคล่องตัวในขณะเข้าโค้งบนทางแคบๆ ในช่วงนี้มีโค้งเอสต่อเนื่องให้ได้ลองเยอะทีเดียว สนุกมากครับกับซีเอกซ์3 ขับกันแป๊ปเดียวก็มาถึงโครงการวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
หลังจากที่ได้รับฟังคำบรรยาย นั่งรถชมบริเวณโดยรอบ เราก็ออกเดินทางต่ออีกราว 30 กม. ก็มาถึงที่พักด้วยความเรียบร้อย ก่อนถึงที่พักสัก 10 กม. มีถนน 4 เลนเรียบๆ ให้ลองใช้ความเร็วกันเป็นช่วงสุดท้ายสำหรับรุ่นดีเซลคันนี้ครับ พูดได้เลย ประทับใจครับ เหลือบมาดูที่มาตรวัดเชคอัตราการสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยทั้งวันที่เราขับมาในวันนี้โดยนั่งกันมา 4 คนรวมรวมสัมภาระแล้วน่าจะมีน้ำหนักบรรทุกเกิน 300 กก. แต่ซีเอกซ์3 ดีเซลได้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 17.5 กม./ลิตร ซึ่งเป็นค่าที่ดีและน่าประทับใจมาก เป็นการขับช้าสลับเร็วตามสภาพเส้นทางรูปแบบต่างๆ ในระยะทางรวมทั้งสิ้นกว่า 200 กม. ถังน้ำมันจุ 48 ลิตร ประมาณว่า น้ำมัน 1 ถังจะมีรัศมีการเดินทางได้ไกลกว่า 800 กม. ยอดเยี่ยมครับ ......
เช้าวันรุ่งขึ้น เราออกเดินทางกลับ กทม. กันในช่วงสายๆ ด้วย ซีเอกซ์3 รุ่นเบนซิน 2.0 ลิตร กัน เรายังคงนั่งกัน 4 คนเช่นเดิม เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ตัวนี้เป็นเครื่องเดียวกับที่วางอยู่ในมาสด้า ซีเอกซ์ 5 และ มาสด้า 3 สามารถใช้น้ำมันได้ตั้งแต่ แกสโซฮอลล์ 95 ไปจนถึง อี85 กันเลยทีเดียว ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า 204 นิวตัน-ม. ที่ 2,800 รตน. แรงม้ามากกว่าตัวดีเซลอยู่ราว 100 ตัว แต่แรงบิดเป็นรองดีเซลเกือบ 70 นิวตัน-ม. ระบบถ่ายทอดกำลังยังคงเป็นเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ที่มีอัตราทดเท่ากันกับรุ่นดีเซลทุกประการ แต่มีอัตราทดเฟืองท้ายที่แตกต่างกัน รุ่นเบนซินอยู่ที่ 4.325 ส่วนดีเซล 3.591 อัตราเร่งตอบสนองได้รวดเร็วกว่ารุ่นดีเซล ไม่มีอาการรอรอบ กดปุ๊บมาเลย การตอบสนองของเครื่องยนต์ค่อนข้างราบรื่น สุภาพนุ่มนวล ไม่ดึงแรงเท่าตัวดีเซลที่แรงบิดมีมากกว่าอยู่พอสมควร อัตราเร่งช่วงตีนต้นมาเรื่อยๆ จะไหลลื่นในกลางและตีนปลาย การขับขี่จะนุ่มนวล ต่อเนื่อง ระบบรองรับและยางได้ถูกเซทเพิ่มความนุ่มนวลเช่นเดียวกับรุ่นดีเซลที่เราขับเมื่อวานนี้
ในช่วงสายๆ ขาเข้าจากหัวหิน รถค่อนข้างโล่ง เราใช้ความเร็วส่วนใหญ่อยู่แถวๆ 130 กม./ชม. การขับขี่ยังคงเป็นไปด้วยดี ไม่รู้สึกว่ารถวิ่งเร็ว คิดว่าขับอยู่แค่ 100-110 กม./ชม.เอง ผมลองสอบถามผู้นั่งก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ตัวรถค่อนข้างนิ่ง ควบคุมง่าย คล่องตัว อัตราเร่งแซงเป็นไปด้วยดี ทันใจ ทัศนวิสัยรอบคันทำได้ดี ขากลับเราใช้ความเร็วสูงกว่าเมื่อวานนี้จากการที่ขาเข้ากทม. รถค่อนข้างโล่ง เราได้วัดอัตราความสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 13-14 กม./ลิตร ถ้าขับแบบสบายๆ ไปเรื่อยๆ ตัวเลขสัก 16 กม./ชม. มีให้เห็นอย่างไม่ยากเย็นครับ
ซีเอกซ์3 มีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระที่อาจเป็นรองคู่แข่งเจ้าตลาด แต่ก็สามารถพับเบาะนั่งได้หลายรูปแบบเพื่อตอบสนองการใช้งานที่อเนกประสงค์ รถคันเราไปกัน 4 คน เป้และกระเป๋าเดินทางรวม 4 ใบก็เต็มห้องเก็บสัมภาระพอดี เหมาะสำหรับวัยรุ่น คนโสดหรือครอบครัวเล็ก ส่วนใหญ่นั่งกันแค่ 2-3 คน ไม่เน้นมีสัมภาระที่ต้องบรรทุกเยอะๆ เป็นรถที่ขับสนุก เร้าใจ คุณภาพภายนอก ภายใน อุปกรณ์ต่างๆ ถือว่ามีมาตรฐานสูง ข้อติมีเพียงแค่ในเรื่องเนื้อที่ในห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถมีค่อนข้างจำกัด ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นปัญหา ซีเอกซ์3 ก็น่าจะเป็นรถที่เหมาะสำหรับคุณได้ไม่ยากเย็น ในราคาเริ่มต้นที่ 879,000 – 1,189,000 บาท