เครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์สำหรับประชาชน แถลงข่าวเรียกร้องแก้ไขกฎหมายปลดล็อกกัญชา

787 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์สำหรับประชาชน ร่วมแถลงข่าวเรียกร้องแก้ไขกฎหมายปลดล็อกกัญชา ให้เห็นแก่ประโยชน์ของผู้ป่วยและประชาชน หยุดการผูกขาดเพื่อเอื้อประโยชน์ของกลุ่มทุน

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ผ่านความเห็นชอบร่างแก้ไขประมวลกฎหมายยาเสพติดซึ่งเสนอโดยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และในเวลาต่อมาสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจำนวน ๔๔ คน ได้ร่วมกันเข้าชื่อเพื่อเสนอร่างแก้ไข พรบ. ยาเสพติดให้โทษ เพื่อเปิดโอกาสให้นำกัญชาและกระท่อมสามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งกฎหมายทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าวสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบรับหลักการในวาระที่ ๑ แล้ว และทราบว่าขณะนี้อยู่ในระหว่างการแปรญัตติในวาระที่ ๒ ของคณะกรรมาธิการพิจารณากฎหมายทั้ง ๒ ฉบับ ซึ่งใกล้เสร็จสิ้นหรืออาจจะเสร็จสิ้นไปแล้ว และอาจจะกำลังดำเนินการเพื่อเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบในวาระที่ ๓ เพื่อบังคับใช้กฎหมายก่อนการเลือกตั้งต่อไปนั้น

เครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์สำหรับประชาชน ได้จัดการประชุมในวันนี้ โดยมีมหาวิทยาลัยรังสิต สภาการแพทย์แผนไทย  มูลนิธิสุขภาพไทย และภาคประชาสังคมและนักวิชาการ มีความเห็นว่าร่างกฎหมายทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าวซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้มีปัญหา ๔ ประการสำคัญกล่าวคือ

  • ประการแรก มีบริษัทยาต่างชาติได้ยื่นคำขอจดสิทธิบัตรสารสกัดกัญชาหรือการประดิษฐ์อื่นที่มีสารจากกัญชาเป็นส่วนประกอบเพื่อใช้ในทางการแพทย์ โดยที่กรมทรัพย์สินทางปัญญากระทรวงพาณิชย์ได้รับคำขอจดสิทธิบัตรพิจารณาเบื้องต้นและได้ประกาศโฆษณาคำขอหลายฉบับ “ดักหน้า” ก่อนที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้ง ๒ ฉบับจะผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติและประกาศบังคับใช้
  • ประการที่สอง ร่างแก้ไขประมวลกฎหมายยาเสพติด และร่างแก้ไข พรบ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ....  ยังคงกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๕ ทั้งๆ  ที่ผลงานวิจัยจำนวนมากในต่างประเทศพบว่า กัญชาเสพติดยากกว่ามากเมื่อเทียบกับเหล้าและบุหรี่  แต่เหล้าและบุหรี่กลับไม่เคยอยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษแต่ประการใด ในขณะที่เหล้าและบุหรี่มีไว้เพื่อสันทนาการเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากกัญชาที่เป็นพืชสมุนไพรซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลกแล้วว่า มีประโยชน์ในทางการแพทย์อย่างมหาศาล
  • ประการที่สาม ร่างแก้ไขประมวลกฎหมายยาเสพติด และร่างแก้ไข พรบ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... กำหนดเพิ่มเติมโดยนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ว่า ในช่วงเวลา ๕ ปีนับแต่วันที่กฎหมายบังคับใช้ การเพาะปลูกหรือผลิตทั้งหมดจะต้องกระทำโดยรัฐซึ่งเป็นองค์กรทางการแพทย์หรือเภสัชกรรม หรือเอกชนที่รัฐอนุญาตให้ร่วมกับรัฐซึ่งเป็นองค์กรทางการแพทย์หรือเภสัชกรรมเท่านั้น ซึ่งจะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการชุดใหญ่ชุดหนึ่งซึ่งมีหลายหน่วยราชการเข้ามาเป็นองค์ประกอบ
  • ประการที่สี่ ร่างแก้ไขประมวลกฎหมายยาเสพติด และร่างแก้ไข พรบ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ....  ทั้ง ๒ ฉบับนี้ ยังไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยที่มีใบรับรองหรือใบสั่งยาจากแพทย์ หรือผู้ดูแลผู้ป่วยในครัวเรือนสามารถเพาะปลูกกัญชาในจำนวนจำกัดเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ของตัวเองได้ ในขณะที่แพทย์แผนไทยหรือแพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ่งมีวิธีการปรุงยาโดยใช้หลายส่วนจากต้นกัญชา มีช่วงเวลาเพาะปลูก มีช่วงเวลาเก็บเกี่ยว ตลอดจนมีการกำหนดพิกัดยาของผู้ป่วยในแต่ละฤดูกาลไม่เหมือนกัน

เครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์สำหรับประชาชน จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาล และสภานิติบัญญัติแห่งชาติแสดงความจริงใจ เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนดังต่อไปนี้

  1. ยกเลิกคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ในประเทศไทยที่เกี่ยวกับสารสกัดกัญชาและสารสกัดกัญชาทั้งหมด ซึ่งในขณะนี้ทั้งมหาวิทยาลัยรังสิตและสภาการแพทย์แผนไทยได้ยื่นหนังสือถึง อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์เพื่อขอให้ยกเลิกคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรการประดิษฐ์เกี่ยวกับสารสกัดกัญชาและสารสกัดกัญชาทั้งหมดภายใน ๑๕ วัน หากพ้นกำหนดระยะเวลา ๑๕ วันไปแล้ว ยังไม่เพิกถอนคำขอสิทธิบัตร ทางมหาวิทยาลัยรังสิตและสภาการแพทย์แผนไทยจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปโดยทันที
  2. ถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษทุกประเภท และให้กัญชาเป็นพืชสมุนไพรควบคุมทางการแพทย์ หาก ร่างแก้ไขประมวลกฎหมายยาเสพติด และร่าง พรบ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่...) พ.ศ.... หากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ยังไม่สามารถทำได้ในการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้  จะต้องลดโทษการใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์ของประชาชน ผู้ป่วย และผู้ดูแลผู้ป่วยให้ถือว่าไม่มีความผิดฐาน ผลิต ครอบครองหรือเสพยาเสพติด และให้เจ้าหน้าที่รัฐนำผู้ป่วยเข้าสู่การบริการทางการแพทย์ แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ใช้กัญชาตามเจตนารมณ์ของผู้ป่วยต่อไป
  3. ให้ผู้ป่วยที่ได้ใบรับรองจากแพทย์ แพทย์แผนไทย และแพทย์แผนไทยประยุกต์สามารถเพาะปลูกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้ตามจำนวนเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
  4.  ให้แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์สามารถขึ้นทะเบียนขอ เพาะปลูก ผลิต ปรุงยาที่เข้ากัญชา ตามภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยได้ทันที โดยอาศัย พรบ. คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒ และต้องให้ผู้แทนสภาการแพทย์แผนไทยและกรมแพทย์แผนไทยเป็นกรรมการพิจารณาใน ประมวลกฎหมายยาเสพติด และ พรบ. ยาเสพติดให้โทษ
  5. ให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกตามคำสั่งซื้อหรือสัญญาการเพาะปลูก ของสถานประกอบการทางการแพทย์ แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ เภสัชกรรมทั้งรัฐและเอกชนที่ขึ้นทะเบียนเพื่อใช้ในทางการแพทย์อย่างถูกต้อง รวมถึงให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกเพื่อการส่งออกไปต่างประเทศได้
  6. ยกเลิกบทเฉพาะกาล ๕ ปี ที่ให้รัฐผูกขาดหรือบังคับให้เอกชนต้องร่วมกับรัฐในการเพาะปลูกหรือผลิตเพื่อการจำหน่ายกัญชาในทางการแพทย์ เพื่อทำให้เกิดการแข่งขันทั้งคุณภาพและราคา อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วยและประชาชนในที่สุด

อย่างไรก็ตามในขณะนี้มีผู้ป่วยโรคมะเร็งจำนวนมากแอบใช้กัญชาใต้ดินเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เพียงแต่ว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้จับกุมเพราะเห็นแก่มนุษยธรรมและชีวิตของผู้ป่วย ในขณะเดียวกันก็ยังไม่มีกลุ่มทุนใหญ่มาเป็นผู้มีส่วนได้ผลประโยชน์มีแรงจูงใจแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อจับกุมผู้ที่แอบใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ตราบใดที่กัญชายังเป็นยาเสพติดให้โทษอยู่แต่หากมีการแก้ไขกฎหมายโดยไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์สำหรับประชาชนแล้ว กลุ่มทุนใหญ่ย่อมจะเป็นผู้ได้ผลประโยชน์จากกฎหมายดังกล่าวและมีแรงจูงใจที่จะดำเนินคดีความไล่ล่าประชาชนหรือผู้ป่วยที่แอบใช้กัญชาใต้ดินโดยทันที  ดังเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตที่ผู้รับสัมปทานผลิตสุราซึ่งมีผลประโยชน์และเส้นสายเข้าถึงอำนาจรัฐ  มีอิทธิพลส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าจับกุม กวาดล้างสุราพื้นบ้านทั่วประเทศ  ดังนั้น กฎหมายลักษณะเช่นนี้จึงน่าเป็นห่วงว่ามีโอกาสจะทำให้ประชาชนและผู้ป่วยเดือดร้อนในท้ายที่สุดเช่นกัน

ดังนั้น หากรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติในสมัยนี้ไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์สำหรับประชาชนได้ ก็ขอให้เห็นแก่พี่น้องประชาชนยุติร่างแก้ไขประมวลกฎหมาย   ยาเสพติด และ พรบ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่...) พ.ศ. เอาไว้ก่อน เพื่อมิให้ผู้ป่วยและประชาชนต้องเดือดร้อนต่อไปในอนาคต แล้วปล่อยให้ทุกพรรคการเมืองได้เสนอนโยบายกัญชาต่อประชาชนให้ตัดสินใจในวันเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงว่าจะมีพรรคการเมืองใดจะตอบสนองข้อเรียกร้องของเครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์สำหรับประชาชนหรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้ เครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์สำหรับประชาชนจะเดินสายทยอยเข้าพบพรรคการเมืองต่างๆ ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เพื่อขอทราบจุดยืนในเรื่องนโยบายกัญชาและนโยบายเรื่องอื่นๆ แล้วแจ้งประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้ทราบ เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจในการลงคะแนนในวันเลือกตั้งต่อไป คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวเสริม

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้