660 จำนวนผู้เข้าชม |
เทวากร คำสัตย์ ศิษย์เก่าสาขาวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต จากนักศึกษากิจกรรม และเป็นที่ปรึกษาให้กับน้องๆ นักกิจกรรมในคณะ ผันตัวเป็นอาจารย์แลกเปลี่ยนสุดหล่อขวัญใจสาวๆ นักศึกษาที่ประเทศจีน และกำลังเตรียมตัวเดินทางไปเป็นอาจารย์แลกเปลี่ยนที่ประเทศเกาหลีอีกด้วย
“หลังจากเรียนจบปริญญาตรี ผมก็ยังใช้ชีวิตอยู่ที่มหาลัยครับ อยู่หอเดิม กินข้าวที่เดิม สมัครงานก็ใกล้ๆ กับมหาลัย ตอนนั้นผมเป็นคุณครูสอนโรงเรียนมัธยมในเครือของคริสตจักร ทำได้พักใหญ่ด้วยความที่ผมยังรู้สึกผูกพันกับอาจารย์ และคณะฯ จึงมาสมัครเป็นเลขานุการของคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ระหว่างที่ทำงานนั้นผมก็เรียนต่อปริญญาโทด้านไทยศึกษาที่มหาวิทยลัยรามคำแหงไปด้วย ก็เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม มีงานทำและได้เรียนต่อ แต่หลังจากที่จบปริญญาโทแล้ว ผมก็นั่งมองตัวเองใหม่ว่าเราอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร เพื่อที่จะได้ต่อยอดกับสิ่งที่เราเรียนมา ซึ่งระหว่างที่ยังคุยกับตัวเองอยู่นั้นผมก็เลือกเรียนต่อปริญญาเอกที่วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนการทำดุษฎีนิพนธ์ครับ ในส่วนเรื่องของการทำงานผมก็ค้นพบว่าตัวผมเองชอบการสอนหนังสือมากกว่าการทำงานออฟฟิศ จึงสมัครเป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาไทย ที่สถาบันการจัดการ ปัญญาภิวัฒน์ ถ้าถามว่าผมรู้ได้อย่างไรว่าผมชอบการสอนหนังสือ อยากเป็นอาจารย์ จริงๆ เรียกว่าผมอยากถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้มามากกว่า ตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่สามแล้ว ทางสถาบันฯ ก็เล็งเห็นศักยภาพและให้โอกาสผมได้เป็นอาจารย์แลกเปลี่ยนสอนนักศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโท เอกวิชาภาษาไทย ที่มหาวิทยาลัยภาษาและการค้าต่างประเทศ กวางตุ้ง ประเทศจีน”
สำหรับการเป็นครูแลกเปลี่ยนนั้น นอกจากจะได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมา ยังได้พิสูจน์ความสามารถและได้ทำในสิ่งที่รักด้วย ผมยังจำครั้งแรกที่สอนในห้องเรียนในฐานะครูแลกเปลี่ยนได้ดี จำได้ว่าตอนนั้นทั้งผมและนักศึกษาเราต่างเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน ผมสอนนักศีกษาชั้นปีที่หนึ่ง เป็นนักศึกษาที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนภาษาไทย และผมจำเป็นต้องใช้ภาษาไทยสอนเท่านั้น เพราะนี่เป็นข้อห้ามสำหรับชั้นเรียนภาษาต่างประเทศ ห้ามใช้ภาษาที่สาม หรือภาษาต้นกำเนิดของประเทศนั้นๆ ดังนั้นภาษาไทยอย่างเดียวครับ ผมรับรู้ได้ถึงความกดดันของนักศึกษา เพราะผมเองก็ค่อนข้างกดดันที่เรายังสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง แต่หลังจากปรับตัวกันได้ดีขึ้นแล้ว เริ่มเรียนรู้วิธีคิด วัฒนธรรมของกันและกันแล้ว เมื่อนักศึกษาพูดได้ เขียนได้ ความรู้สึกนี้ดีจนบอกไม่ถูกเลยครับ
“ที่ประเทศจีนค่อนข้างให้ความสำคัญกับภาษาไทยเป็นอย่างมาก นักศึกษาชาวจีนสนใจภาษาไทย เพลงไทย ภาพยนตร์ไทย และอยากที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทย คนจีนมองว่าประเทศไทยน่าท่องเที่ยว สวยงามเหมือนบทกวี บทกวีที่ไพเราะของคนไทย ตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัวเดินทางไปเป็นอาจารย์แลกเปลี่ยนที่ประเทศเกาหลี กำลังจะเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยปูซานภาษาและกิจการต่างประเทศ ที่เกาหลีใต้ครับ เรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีมากครับ ทางสถาบันฯ ได้ทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยที่สอนภาษาไทยในต่างประเทศหลากหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี จีน ญี่ปุ่น จริงๆ แล้วหลายคนอาจยังไม่ทราบว่าคนต่างประเทศเขาเรียนภาษาไทยไปเพื่ออะไร ภาษาไทยของเรานั้นได้รับความนิยมมากแค่ไหน ต้องบอกคนไทยเลยนะครับว่าต้องหันกลับมาให้ความสำคัญกับภาษาแม่ของเรา ต้องเห็นคุณค่าในภาษาบ้านเกิดของเรา ผมยังได้ยินคำถาม คำถามหนึ่งที่ติดอยู่ในความคิดของผม หลายคนถามว่าเรียนเอกภาษาไทยไปทำไม แต่ผมก็มีคำตอบของผมนะครับเพียงแต่อาจยังปรับเปลี่ยนทัศนคติให้คนที่ถามคำถามนี้ยังไม่ได้ เราต้องถามตัวเองก่อนว่าทุกวันนี้เราใช้ภาษาไทยถูกต้องแลวหรือยัง คนต่างชาติพูด ร เรือ ล ลิง คำควบกล้ำได้ชัดเจน เขาให้ความสำคัญในการออกเสียง มีนักศึกษาถามผมว่า เวลาที่ฟังคนไทยพูดภาษาไทย ทำไมเขาถึงไม่ออกเสียง ร เรือ เลย ทำไมคนไทยพูดคำควบกล้ำไม่ชัด ทำไมคนไทยใช้ภาษาไทยผิด สิ่งนี้เป็นความรู้สึกเจ็บปวดนะครับ ฉะนั้นเราเป็นคนไทยจะต้องเห็นคุณค่าของภาษาแม่ของเรานะครับ”
สำหรับอาจารย์คนเก่งคนนี้ ต้องไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเป็นปีๆ นอกจากจะต้องรับผิดชอบงานด้านการสอนแล้ว ยังต้องรับผิดชอบตัวเองอีกด้วย ไม่ว่าใครก็ตามหากที่ไม่เคยไปอยู่แปลกที่ จะต้องมีปัญหาเรื่องการปรับตัว อย่างแน่นอน
“ต้องบอกก่อนเลยว่า สมัยเรียนผมนี่นักกิจกรรมตัวยงเลยครับ แม้ว่าการมาอยู่ต่างประเทศจะไม่เหมือนการไปออกค่ายอาสา แต่สำหรับผมแล้ว เมื่อนำประสบการณ์ที่เคยได้รับตอนทำกิจกรรมมาประยุกต์ใช้ไม่ว่าจะเรื่องคน เรื่องกิน เรื่องอยู่ มันยากที่ใจครับ ถ้าเราสามารถปรับตัวได้ เราก็จะอยู่ได้ครับ อย่างที่มีคนเคยบอกว่า การเรียนทำให้มีงานทำ การทำกิจกรรมทำให้คนทำงานเป็น ผมเรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนจีน ต้องบอกว่าคนจีนเป็นคนทำงานค่อนข้างเร็ว ใจร้อน คิดแล้วลงมือทำทันที ในช่วงแรกๆ ผมต้องปรับตัวค่อนข้างมากเหมือนกันครับ ด้วยความที่เราเป็นคนค่อนข้างพิถีพิถัน ก็จะช้ากว่านิดหน่อย ตอนนี้ก็ประยุกต์ทั้งความพิถีพิถัน ละเอียดอ่อน บวกกับคิดแล้วลงมือทำเลย เข้าด้วยกัน นำส่วนที่ดีของทั้งสองบุคลิกมาปรับใช้ ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ต้องบอกเลยว่า เดี๋ยวนี้คนจีนล้ำหน้าไปมากไม่น้อยเรื่องเทคโนโลยี เขาไม่ใช้เหรียญหรือธนบัตรจ่ายค่าข้าวแล้วนะครับ คนจีนใช้โทรศัพท์จ่ายนั่น จ่ายนี่ นักศึกษาของผมเคยบอกว่า ถ้าลืมกระเป๋าเงินไว้ที่บ้านก็ไม่เสียใจเท่าลืมโทรศัพท์ไว้ เพราะโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียวสามารถไปไหนมาไหนได้ ผมยังได้รู้อีกว่า เทรนด์ภาษาต่างชาติของคนจีนนั้น ภาษาไทยติดโผเป็นภาษาที่เรียนแล้วหางานทำได้ เงินเดือนดี ผมสังเกตุเห็นภาษาไทยปรากฎอยู่ตามสื่อต่างๆ ของประเทศจีน เวลาที่คนจีนเห็นสินค้าที่มีฉลากภาษาไทยเขาจะชอบซื้อ เพราะนั่นหมายถึงว่าสินค้าชิ้นนั้นมีคุณภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง คนจีนจะชอบมากๆ พวกเขามีความเชื่อว่าในหลวงของคนไทยคิดค้นแต่สิ่งที่ดีมีประโชยน์ มีคุณภาพเพื่อคนไทย”
สำหรับการวางแผนต่อยอดในอนาคตของอาจารย์อปป้าคนนี้ ตอนนี้ผมกำลังขอตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ อีกน่าจะประมาณสองปีน่าจะได้ตำแหน่งครับ ผมอยากทำในสิ่งที่รัก และอยากทำให้เห็นด้วยว่าเรียนจบวิชาภาษาไทยก็มีงานดีๆ รองรับนะครับ