3 กระทรวง - ภาคีเครือข่าย ชวนร่วมงาน มหกรรมสมุนไพรและอาหาร ครั้งที่ 3

938 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และภาคีเครือข่าย ร่วมขับเคลื่อนนโยบายเกษตรกรรมยั่งยืน เชิญชวนประชาชนร่วมงานมหกรรมสมุนไพรและอาหาร ครั้งที่ 3 “กินเปลี่ยนวัย…กินอย่างมั่นใจ ด้วยเกษตรกรรมยั่งยืน” ที่อิมแพค เมืองทองธานี วันที่ 29 สิงหาคม ถึง 2 กันยายน 2561

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  นายสุธี  มากบุญ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  แถลงข่าวงานมหกรรมสมุนไพรและอาหาร ครั้งที่ 3  กินเปลี่ยนวัย…กินอย่างมั่นใจ ด้วยเกษตรกรรมยั่งยืน  จัดโดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาคีเครือข่ายด้านเกษตรกรรมยั่งยืน คณะกรรมการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม ถึง 2 กันยายน 2561 ณ ฮอลล์ 7 – 8 อิมแพค เมืองทองธานี

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายเกษตรกรรมยั่งยืนของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนได้รับประทานอาหาร และยาสมุนไพรที่ปลอดภัย มีคุณภาพ ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคมะเร็งที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากอาหารมีสารเคมีตกค้าง กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบอาหารที่จะนำมาประกอบอาหารให้ผู้ป่วย และวัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นยาสมุนไพรที่ปลอดภัย โดยมีนโยบายให้โรงพยาบาลทุกแห่ง เป็น “โรงพยาบาลอาหารปลอดภัย” ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯ จัดหาวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารที่ปลอดภัยจากสารเคมีให้กับผู้ป่วย ซึ่งโรงพยาบาลจะรับซื้อผลผลิตเกษตรอินทรีย์จากกลุ่มเกษตรกร และจัดตลาดจำหน่ายสินค้าปลอดสารเคมี เพื่อให้บุคลากรและประชาชนเข้าถึงอาหาร ผัก ผลไม้ สมุนไพรที่ปลอดภัย สนับสนุนเกษตรกรผู้ผลิตรายย่อยให้มีตลาดใกล้บ้าน ขณะนี้ ดำเนินการในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปครบทั้ง 116 แห่ง โรงพยาบาลชุมชนมากกว่าร้อยละ 50 ในระยะต่อไป จะพัฒนาโรงพยาบาลชุมชนต้นแบบเขตสุขภาพละ 1 แห่ง เพิ่มสัดส่วนของผักผลไม้อินทรีย์ให้มากกว่าร้อยละ 30 อีกร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์ผักผลไม้ปลอดภัย และเพิ่มชนิดของวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารปลอดภัย เช่นเนื้อสัตว์ น้ำมัน เครื่องปรุงทุกชนิด 

สำหรับพืชสมุนไพร ได้กำหนดให้มีการส่งเสริมการปลูกและแปรรูปสมุนไพรที่ได้มาตรฐานสากล GAP และเกษตรอินทรีย์ (Organic) ไว้ในยุทธศาสตร์ของแผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพร โดยร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรฯ เพิ่มพื้นที่ปลูกสมุนไพร 4 ชนิด คือ กระชายดำ ไพล บัวบก และขมิ้นชัน ตามมาตรฐาน GAP/Organic จำนวน 3,780 ไร่ ให้โรงพยาบาลในสังกัดซื้อวัตถุดิบสมุนไพรที่เป็นเกษตรอินทรีย์ มีการทำสัญญาจัดซื้อสมุนไพร (Contract Farming) กับเกษตรกรปลูกสมุนไพร Organic ซึ่งช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายวัตถุดิบสมุนไพรเฉลี่ย ครัวเรือนละ 80,000 บาทต่อปี

ด้านนายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า  กระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแกนหลักในการประสานการขับเคลื่อนงานเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน และทุกสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องในจังหวัด ตั้งแต่เกษตรกรผู้ผลิต ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และผู้บริโภค เกิดความตระหนักในการผลิตและบริโภค ที่ทำให้เกิดความสมดุลและยั่งยืน   ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน โดยนำองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ คำนึงถึงภูมิสังคมท้องถิ่น ทุกภาคส่วนบูรณาการแบบมีส่วนร่วม และดำเนินการลักษณะพื้นที่เป็นองค์กรเดียวกัน ร้อยใจเป็นหนึ่งเดียว


ด้านนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายเร่งขับเคลื่อนงานเกษตรกรรมยั่งยืนให้บรรลุเป้าหมายแผนชาติที่กำหนดให้เพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืนให้ได้ 5 ล้านไร่ ในปี 2564  ยึดหลักการขับเคลื่อนสืบสานศาสตร์พระราชา เป็นการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และภาคีอื่น ๆ ร่วมบูรณาการเพื่อเสริมกลไกของรัฐที่มีอยู่ โดยขับเคลื่อนทั้งระดับชุมชน จังหวัด และชาติ หนุนเสริมให้เกิดการเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สนับสนุนให้เกิดข้อตกลงความร่วมมือขับเคลื่อนพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืนใน 4 จังหวัดภาคอีสาน ไม่น้อยกว่า 1,000,000 ไร่ในปี 2561 ได้แก่ ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และจะขยายผลไปจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป

ในระยะต่อไป จะเร่งรัดดำเนินการ 3 เรื่อง คือ 1.การออก พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน2.การจัดทำ Road Map ขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนของประเทศ และ 3.การจัดทำฐานข้อมูลกลางเกษตรกรรมยั่งยืน คาดว่า จะมีการเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืนเกิดขึ้นมากกว่า 5 ล้านไร่ เมื่อสิ้นสุดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ในปี 2564

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการ สวนสมุนไพรชะลอวัยดูแลสุขภาพร่างกาย กิจกรรม Workshop สมุนไพรและการดูแลสุขภาพ การอบรมระยะสั้นมากกว่า 50 หลักสูตร แจกพันธุ์สมุนไพรหายากวันละ 300 ต้นและหนังสือสมุนไพรวันละ 200 เล่ม บริการตรวจ ให้คำปรึกษาสุขภาพกับแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน หมอพื้นบ้าน การจำหน่ายสินค้าสมุนไพรคุณภาพ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหารสุขภาพ และอาหารพื้นถิ่น เป็นต้น

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้