5888 จำนวนผู้เข้าชม |
โดย มาดามลอย
อย่างที่ทราบกันอยู่ ประเทศจีน เป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลมาก และแต่ละภูมิภาคจะมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกันออกไป จึงทำให้ประเทศจีนมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอยู่เป็นจำนวนมาก ล่าสุด “มาดามลอย” ได้มีโอกาสไปเยือนเมืองฉางซา (CHANGSHA)
ฉางซา (CHANGSHA) เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศจีน โดยเป็นเมืองเอกของมณฑลหูหนาน (Hunan Province) ภาคกลางตอนใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตลุ่มแม่น้ำ Xiang จึงทำให้ที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่สำคัญยังเป็นบ้านเกิดของ “เหมา เจ๋อ ตุง อดีตผู้นำของจีนอีกด้วย
ทริปนี้เราจึงไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมเยือนอดีตท่านผู้นำกันสักนิด แต่ก่อนที่จะพบเจอท่าน ผู้นำไกด์ของเรา พาเราไปทำความรู้จักกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองนี้กันก่อนโดยผ่าน พิพิธภัณฑ์ประจำมณฑลหูหนาน ซึ่งเป็นแหล่งเก็บรวบรวมข้อมูลตั้งแต่การก่อตั้งเมืองจนถึงปัจจุบัน
พิพิธภัณฑ์ประจำมณฑลหูหนาน (Hunan Museum) พิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์และศิลปะ ซึ่งเก็บรวบรวมเรื่องราวของมณฑลหูหนานที่มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี จัดแสดงผ่านเทคโนโลยีสุดทันสมัย ทำให้เดินชมตั้งแต่ห้องแรกจนห้องสุดท้ายก็ไม่รู้สึกเบื่อ
สำหรับไฮไลต์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือ ศพสุภาพสตรีท่านหนึ่งที่ขุดพบมีสภาพสมบูรณ์มาก ซึ่งข้อมูลที่เขียนกันไว้ บอกว่า ศพนี้เป็นศพของสตรีในตระกูลดี มีอายุประมาณ 50-60 ปี ห่อด้วยผ้าแพรไหมหลายชั้น ใส่ไว้ในหีบศพที่มี 6 ชั้น ขณะที่ถูกขุดขึ้นมานั้นผิวหนังทั้งตัวอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ยังมีขนและผมอยู่ ลายนิ้วมือและนิ้วเท้ายังเห็นได้ชัด กล้ามเนื้อยังมีความยืดหยุ่น ทำให้ผู้ขุดค้นตื่นเต้นมาก
ที่สำคัญคนโบราณใช้ผ้าไหมห่อศพหลายชั้น และห่อด้วยถ่านไม้กว่า 5,000 กิโลกรัม ดินขาวชนิดหนึ่งอีกจำนวนมาก เพื่อกันน้ำและเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่หีบศพ จึงทำให้ศพนี้ถูกรักษาไว้อย่างดี
ปัจจุบันศพหญิงท่านนี้ ยังคงรักษาไว้ในห้องใต้ดินพิพิธภัณฑ์หูหนานขุด ขึ้นมาโดยเฉพาะ ห้องนี้ลึกจากพื้นดินลงไป 8เมตร เลียนแบบสภาพเดิมของสุสาน ในห้องนี้มีเครื่องวัดอุณหภูมิและความชื้นที่เชื่อมกับระบบควบคุมมีพนักงานเฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมง
ตอนที่เดินเข้าไปชม ไกด์บอกว่าห้ามถ่ายรูป และเราก็เห็นป้ายว่าห้ามถ่ายรูป มาดามลอย ก็เลยไม่กล้าฝืนกฎ แต่ก็เห็นนักท่องเที่ยวยกมือถือถ่ายกันเยอะแยะไปหมด (ภาพที่เอามาลงก็เลยไปหาจากทีอื่น อย่างไรก็ตามขอขอบคุณเจ้าของภาพด้วยนะคะ )
นอกจากนี้ในพิพิธภัณฑ์ มีสิ่งของ เครื่องใช้ ชุดผ้าไหม ถ้วย ชาม ให้ได้ชมมากมาย ซึ่งทั้งหมดขุดเจอในสุสานที่มีอายุในประวัติศาสตร์กว่า 2,000 ปีที่เขตหม่า หวังตุย ชานเมืองฉางซา
หลังจากนั้นในวันถัดมาได้นั่งรถไปเกาะส้ม (Orange Isle) อยู่กลางแม่น้ำเซียงเจียง ตัวเกาะมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 70 ตารางกิโลเมตร ความกว้างประมาณ 50-200 เมตร และยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ด้วยความกว้างใหญ่ จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถขับรถขึ้นมาเที่ยวชมบนเกาะได้เลย
นอกจากนี้บนเกาะแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่ เหมา เจ๋อตุง มาใช้ชีวิตตอนสมัยยังหนุ่มบ่อย ๆ ทั้งเดินเล่นบนชาดหาด เล่นน้ำ จึงมีการสร้างอนุสาวรีย์ดังกล่าวเพื่อรำลึกถึงท่าน
ช่วงบ่ายเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านวัฒนธรรมทะเลสาบซิหยาง สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งได้รับการรับรองระดับ AAAA โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน โอบล้อมด้วยภูเขาสูงเขียวชอุ่ม มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลิน เช่น เดินข้ามสะพานแก้ว “Shiyan Lake in the sky ”ความยาว 300 เมตร ล่องเรือมังกรชมความงามของทะเลสาบสีเขียวมรกต ชมระบำพื้นเมือง เป็นต้น
และอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มาดามลอย ๆได้ไปเยือนคือ ยอดเขายูลู (Yuelu Mountain) ยอดเขาที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ บรรยากาศสดชื่น บริสุทธิ์ บริเวณด้านบนยอดเขามีสวนสาธารณะ พร้อมด้วยศาลาริมน้ำสไตล์จีนอันสวยงาม ถือเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของชาวเมืองอีกแห่งหนึ่ง
ถึงบรรทัดนี้อยากจะบอกว่าในเมืองฉางซา ไม่ได้มีที่เที่ยวเท่านี้ ในบริเวณใกล้กัน มีแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ และมีชื่อเสียงอีกเพียบไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติ จางเจียเจี้ย ที่โด่งดังระดับโลกในภาพยนต์อย่าง อวตาร (Avatar) จึงทำให้ที่นี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของทั้งคนจีนและต่างชาติ
เมืองโบราณเฟิ่งหวง ใครชอบบรรยากาศเมืองจีนสมัยก่อน มีโรงเตี๊ยม โรงน้ำชาภายในอาคารไม้เก่าแก่ ต้องไม่พลาดที่นี้ หรือเมืองเก่า Jinggang เมืองเก่าเล็ก ๆ มีบ้านเรือนเก่าแก่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเซียงเจียง สวยงามมาก ,ถนนไท่ผิง เป็นย่านที่มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ตกแต่งสวยงามสไตล์จีนดั้งเดิม ,วัดไคฟู วัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองฉางซา ,สวนสาธารณะพลับพลาเทียนซิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญหนึ่งใน 4 ของประเทศจีน
ที่เล่ามาทั้งหมดจะบอกว่าถ้ามีโอกาสมาจีนบ่อย ๆ เมืองฉางซา เป็นอีกเมืองที่น่าสนใจมาเที่ยวชมความงดงามของธรรมชาติ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่พบเจอแล้วจะทึ่ง กับความยิ่งใหญ่ของประเทศ “จีน”