TOYOTA bZ4X BEV || เปิดตัวในญี่ปุ่น 12 พ.ค. ไทยรอปลายปีนี้

1361 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ที่มา : Toyota
เรียบเรียง : Pitak Boon

bZ ย่อมาจาก ‘beyond Zero’ อันหมายถึง Zero Emission เป็นพาหนะที่ปราศจากมลพิษ โดย bZ4X BEV ถูกวางให้เป็นยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) โมเดลแรกของ TOYOTA ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านจาก ICEV (Internal Combustion Engine Vehicle) หรือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดั้งเดิม มาเป็น BEV จึงเป็นที่จับตาของบรรดาผู้ใช้รถทั่วโลก ซึ่ง TOYOTA นำร่องมาก่อนด้วยรถต้นแบบ bZ4X Concept พร้อมปล่อยข่าวความคืบหน้าของโปรเจ็กต์นี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปลายเดือน ต.ค. ปี 2021 ได้เข้าสู่ขั้นตอนของรถโปรโตไทฟ์ และตั้งเป้าเปิดตัวรถพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการช่วงกลางปี 2022 ซึ่งในที่สุด bZ4X BEV ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา

ก่อนเข้าสู่รายละเอียดของ TOYOTA bZ4X BEV เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ขออนุญาตให้รายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของยานยนต์ไฟฟ้าเป็นเบื้องต้น
ยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: xEV) เป็นยานยนต์พลังงานทางเลือก ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นพลังงานสะอาด (Clean Energy) เก็บอยู่ในแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้ารูปแบบอื่น ๆ สามารถช่วยลดมลพิษจากการสันดาปของเครื่องยนต์ ซึ่งยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) จะหมายรวมถึง รถยนต์ทุกประเภทที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน แบ่งเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่

1) ยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) คือ ยานยนต์ลูกผสมที่ควบรวมต้นกำลัง 2 ประเภท เอาไว้ในรถเพียงคันเดียว ได้แก่ เครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า การทำงานจะแตกต่างกันไปตามการออกแบบของแต่ละผู้ผลิต ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกัน เพื่อลดบทบาทของเครื่องยนต์ลงให้มากที่สุด (Toyota Motor Corporation, 2003)

2) ยานยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) มีหลักการทำงานที่คล้ายคลึงกับยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) แต่เพิ่มฟังก์ชันรองรับการอัดประจุไฟจากแหล่งจ่ายไฟภายนอกรถ (Plug-in) และมีประสิทธิภาพขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในโหมดไร้มลพิษ (EV Mode) ได้เป็นระยะทางไกลกว่ายานยนต์ไฟฟ้าไฮบริด

3) ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่มีเฉพาะมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังให้รถ การเคลื่อนที่มาจากพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรี่เท่านั้น ระยะทางการวิ่งของยานยนต์ไฟฟ้า BEV จึงขึ้นอยู่กับการความจุ และประเภทของแบตเตอรี่ โดยแบตเตอรี่จะถูกประจุไฟจากแหล่งพลังงานภายนอก เช่น ไฟฟ้าตามอาคารบ้านเรือน และสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ

4) ยานยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle: FCEV) เซลล์เชื้อเพลิงเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้า ด้วยการเปลี่ยนพลังงานเคมีไปเป็นพลังงานไฟฟ้า ถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งพลังงานหลักของรถกลุ่ม FCEV โดยพลังงานที่ได้จากระบบนี้จะเป็นพลังงานสะอาด (Clean Energy) เพราะเกิดจากการรวมตัวของก๊าซไฮโดรเจน (H2) และก๊าซออกซิเจน (O2) ผ่านปฏิกิริยาเคมี ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ คือ พลังงานไฟฟ้า และน้ำ (Honda Motor, 2007)


รถต้นแบบ TOYOTA bZ4X เผยโฉมครั้งแรกในงาน Auto Shanghai ปี 2021 พร้อมกับวิสัยทัศน์ในการผลิตรถ xEV ของ TOYOTA เป้าหมายเพื่อพัฒนายานยนต์ที่ใช้พลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมเติมเต็มรถที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าให้ครบถ้วนในทุกประเภท เพื่อลดคาร์บอนไดออกไซค์ในทุกขั้นตอน ราวปี 2025 ยักษ์ใหญ่อย่าง TOYOTA จะมีรถ xEV (HEV, PHEV, BEV และ FCEV) ทำตลาดมากถึง 70 โมเดล





TOYOTA bZ4X เวอร์ชัน Japan Spec. มีจำหน่ายทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD, ราคา 6,000,000 JPY) และขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD, ราคา 6,500,000 JPY) โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าใช้มอเตอร์ 1 ตัว มีกำลัง 150 kW (201 PS) แรงบิดสูงสุด 266 Nm ขณะที่รุ่น AWD ใช้มอเตอร์ 2 ตัว แยกกันขับเคลื่อนล้อหน้าและล้อหลัง แต่ละตัวมีกำลัง 80 kW ดังนั้นกำลังรวมจะออกมาที่ 160 kW (215 PS) แรงบิดสูงสุดรวม 337 Nm

 

TOYOTA bZ4X รุ่น FWD ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 7.5 วินาที ขณะที่รุ่น AWD ทำได้ 6.9 วินาที แบตเตอรี่ที่ใช้เป็นประเภทลิเธียมไอออน จำนวน 96 เซลล์ ความจุ 71.4 kWh รองรับการชาร์จไฟ AC สูงสุดระดับ 6.6 kW ส่วนไฟ DC สูงสุดที่ 150 kW ระยะเวลาในการชาร์จไฟแบบ Fast Charging (DC, 90 kW) ชาร์จจาก 0-80% รอเพียง 40 นาที ต่อการชาร์จเต็มแต่ละรอบ bZ4X รุ่น FWD วิ่งได้ไกล 559 กิโลเมตร (WLTC) ขณะที่รุ่น AWD วิ่งได้ 540 กิโลเมตร (WLTC)



ก่อนหน้านี้ TOYOTA จับมือกับพันธมิตรอีก 4 ค่าย ในการวิจัยและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า BEV ได้แก่ BYD, DAIHATSU, SUZUKI และ SUBARU ร่วมแบ่งปัน know-how และเงินทุน ในขั้นตอน R&D ทั้งงานระบบขับเคลื่อน และเพลทฟอร์ม จากนั้น TOYOTA และ SUBARU จึงแยกตัวออกมาพัฒนาต่อยอดไปสู่เพลทฟอร์มของรถ BEV SUV ด้วยชุดพื้นฐานโครงสร้าง ที่ใช้ชื่อ ‘e-TNGA’ (electric-Toyota New Global Architecture) ออกแบบมารองรับระบบขับเคลื่อน AWD (X-MODE) เน้นทั้งเรื่องความปลอดภัย และสมรรถนะในการขับขี่


 
ประสบการณ์ในการผลิตรถยนต์ระดับคุณภาพอันยาวนานของ TOYOTA ได้ถูกถ่ายทอดมายัง bZ4X BEV ทั้งหมด ห้องโดยสารต้องเงียบ (Quietness) และให้ความสบายไม่ต่างจากการอยู่บ้าน (Home-like Comfort) จากนั้นใช้ know-how ของ SUBARU ในการพัฒนาให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ใน bZ4X BEV นอกจากชุดแบตเตอรี่จะถูกวางไว้ใต้พื้นห้องโดยสารแล้ว ตัวเรือนแบตเตอรี่ยังได้รับการออกแบบให้บาง และผลลัพธ์จากขั้นตอน R&D อันเข้มข้น TOYOTA พร้อมให้ความมั่นใจว่า หลังจากผ่านการใช้งาน bZ4X BEV ไป 10 ปี (หรือ 200,000 กิโลเมตร) ประสิทธิภาพรวมของแบตจะลดลงมาอยู่ที่ราว 70% เท่านั้น


 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้