2349 จำนวนผู้เข้าชม |
สปสช. เผยผลสำเร็จการรักษา “ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจผ่านสายสวน” ภายใต้ระบบบัตรทอง เกิดจากความร่วมมือหน่วยบริการภาครัฐและเอกชน ช่วยผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาเพิ่ม ลดอัตราการเสียชีวิต พร้อมเผยปี 60 ยกคุณภาพบริการหัตถการสายสวนหัวใจ กำหนดหน่วยบริการหัตถการสายสวนหัวใจ ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองต้องขึ้นทะเบียนผ่านเกณฑ์ประเมิน เผยมีหน่วยบริการผ่านเกณฑ์ประเมินแล้ว 58 แห่ง
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า “โรคหลอดเลือดหัวใจ” หรือ “โรคหัวใจขาดเลือด” เป็นหนึ่งในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลกรวมถึงประเทศไทย ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่มีภาวะโรคหลอดเลือดหัวใจจำเป็นต้องได้รับการรักษา ซึ่งการทำหัตถการรักษาโรคหลอดเลือดโคโรนารีผ่านสายสวน (Percutaneous Coronary Intervention, PCI) เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิผลและได้รับการยอมรับในทางการแพทย์ ซึ่ง สปสช.ตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้และบรรจุเป็นสิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พร้อมพัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่อสนับสนุนหน่วยบริการในการรักษาผู้ป่วย ทั้งการจ่ายค่าบริการตาม DRGs อุปกรณ์ และขดลวดขยายหลอดเลือด (Stent) ในระบบ VMI ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจได้รับการทำหัตถการผ่านสายสวนหัวใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผลสำเร็จการเข้าถึงหัตถการผ่านสายสวนหัวใจเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปัจจัยสำคัญมาจากความร่วมมือหน่วยบริการทั้งภาครัฐและเอกชนที่ได้ร่วมให้การรักษาผู้ป่วย และเพื่อเป็นการสนับสนุนการพัฒนาหน่วยบริการให้มีคุณภาพและมาตรฐาน
สปสช. ได้มีการจัดทำ “เกณฑ์การตรวจประเมินเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะด้านบริการหัตถการผ่านสายสวนให้กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ” ทั้งด้านบริการ อุปกรณ์ รังสี การจัดการ แพทย์ และผู้ช่วยแพทย์ โดยมีคณะทำงานพัฒนาระบบบริการรักษาโรคหลอดเลือดโคโรนารีผ่านสายสวนทำหน้าที่ประเมินและได้ดำเนินการในปี 2559 ที่ผ่านมา
ด้าน นพ.ปานเทพ คณานุรักษ์ ผู้อำนวยการแผนงานสนับสนุนระบบบริการโรคเรื้อรังและโรคเฉพาะ สปสช. กล่าวว่า จากประกาศเกณฑ์การตรวจประเมินเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะด้านบริการหัตถการผ่านสายสวนหัวใจ ขณะนี้ได้มีหน่วยบริการที่ขอขึ้นทะเบียนและมีผลการตรวจผ่านเกณฑ์ประเมิน 58 แห่ง เป็นหน่วยบริการของรัฐ 43 แห่ง และหน่วยบริการเอกชน 15 แห่ง
โดยหน่วยบริการที่ไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินต้องทำการปรับปรุงเพื่อให้การบริการหัตถการผ่านสายสวนหัวใจเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้เพื่อให้การบริการหัตถการผ่านสายสวนหัวใจในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจมีคุณภาพและมาตรฐานเพิ่มขึ้น