“มองโกเลีย” ดินแดนในฝันของใคร..หลายคน

4767 จำนวนผู้เข้าชม  | 

 

 

          'มองโกเลีย' ถ้าเอ่ยชื่อประเทศนี้น้อยคนนักที่จะนึกถึง อยากไปเที่ยว แต่มาดาลอย เคยไปสัมผัสมาแล้ว ถือเป็นความโชคดีแบบสุด ๆ กับค่ายรถมาสด้า โดยบินจากไทยไปจีน และขับจากจีนเข้าประเทศมองโกเลีย นับเป็นทริปที่ประทับใจมาก สนุกสนาน ตื่นตา ตื่นใจกับสิ่งที่เห็น เพราะมองโกเลีย เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ทั้งศิลปวัฒนธรรม ผู้คนท้องถิ่นที่ยังคงดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย วิวทิวทัศน์ที่เห็น ภูเขา ทุ่งหญ้า ทะเลทรายโกบี กระโจม ม้า วัว แพะ แกะ และอากาศที่หนาวเหน็บในเวลากลางคืน มันสวยงามดั่งสวรรค์บนดินจริง ๆ

          สัปดาห์นี้จึงอยากนำภาพสวย ๆ ที่เก็บมาจากทริปมาสด้ามาให้ชมกัน  เพียงแต่ภาพที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นชนบท และเป็นเส้นทางที่เราขับผ่าน ทั้งนี้ชีวิต 4-5 วัน อยู่กับทุ่งหญ้า ป่าเขา และนอนในกระโจม หรือเกอร์ ทุกวัน พวกเราเข้าเมืองหลวงที่มีชื่อว่า อูลานบาเตอร์ เพียงแค่คืนเดียวก่อนบินกลับไทย

          แต่เสน่ห์ของมองโกเลียไม่ได้อยู่ในเมือง ไฮไลท์จริงมันอยู่นอกเมืองต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นทะเลทรายโกบี ทะเลยทรายที่มีความกว้างใหญ่ติดอยู่ใน  1 ใน 5 ของทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดโนโลก ทะเลทรายโกบีแตกต่างจากทะเลทรายทั่วไปตรงที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้าที่ราบกว้าง เป็นที่อยู่อาศัยของอูฐจำนวนมาก อุดมไปด้วยสัตว์ป่า เช่น แพะภูเขา ม้า ลา และพืชพรรณ พร้อมทั้งอากาศที่สดชื่น สามารถสูดอากาศที่บริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด จุดนี้เราได้แวะพักถ่ายรูปกับฝูงอูฐด้วยค่ะ

 


          และอีกหนึ่งไฮไลน์ของทริปนี้คือ ทุกคนได้นอนกระโจม หรือเกอร์ เล่นเอาตื่นเต้นทุกวัน เพราะเกอร์แต่ละแห่งไม่เหมือนกัน บางที่ใหญ่ บางที่เล็ก บางเกอร์มีเตาพิงให้ด้วย เพราะกลางคืนมันหนาวมาก ถ้ามีก็จะช่วยให้คลายหนาวได้ส่วนหนึ่ง แต่ที่ต้องทำใจคือ ห้องน้ำรวมคะ แม้จะเป็นห้องน้ำรวม แต่ก็แยก ชาย และหญิง และสะอาดสะอ้าน มีน้ำอุ่นด้วย ถือว่าผ่านค่ะ สำหรับอาชีพของคนมองโกเลียในชนบท ส่วนใหญ่มีอาชีพเลี้ยงสัตว์เพื่อเอานมค่ะ นมม้า นมแย็ก นมแพะ ขายชีส ขายโยกิร์ต ทุกอย่างขายได้หมด จะมีรถชาวบ้านมาซื้อตลอด บ้างก็ซื้อน้ำนม บ้างก็ซื้อชีส บ้างก็ซื้อโยเกิร์ต

 

          พวกผู้ชายก็จะเลี้ยงสัตว์ไป ผู้หญิงก็จะมีหน้าที่รีดนมค่ะ วันนึงรีดประมาณ 3-4 ครั้งค่ะ ตั้งแต่เช้ามืดไปจนดึก ๆ 3-4 ทุ่มเลยค่ะ เราก็มีหน้าที่คอยช่วยหาขนมมาไว้ที่เกอร์ค่ะ พอตกกลางคืนทุกคนจะมารวมกันที่เกอร์ใหญ่ที่มีเตาผิง เชื้อเพลิงที่ใช้ก็จะเป็นขี้แย็กแห้ง ในเกอร์นี้จะอุ่นมาก ๆ ส่วนข้างนอกนี่อย่าให้พูดค่ะ พูดไม่ได้เพราะหนาวมาก ๆ ปากแข็งเลย เดินออกไปได้ 4-5 ก้าวจากเกอร์เราก็ต้องรีบวิ่งจู๊ดกลับเข้าเกอร์แล้วค่ะ

 


          วันสุดท้ายก่อนกลับเราได้ไปเยือนเมืองเก่าคาราโคลัม (Karakorum) พื้นที่เมืองเก่าแห่งนี้เคยเป็นเมืองหลวงในยุคของอาณาจักรมองโกล หรือยุคของเจงกิสข่าน ก่อตั้งมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1220 ในหุบเขา Orkhon บริเวณทางแยกของเส้นทางสายไหม ทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงอย่างยาวนานมากว่า 40 ปี แล้วล่มสลายไปตามจักรวรรดิมองโกล ภายในวัดมีพระอาราม Erdene zuu ที่มีกำแพงโดดเด่น ยาวประมาณ 400 เมตร กับเจดีย์อีกกว่า 108 เจดีย์ ที่ล้อมรอบพระอารามแห่งนี้

          ปัจจุบันหากเราจะเดินทางไป มองโกเลีย ไม่ใช่เรื่องยากเลย  บินมาลงที่เมือง อูลานบาตอร์ ได้เลย และหาไกด์ เช่ารถดี ๆ สักคน ขับท่องเที่ยวในชนบท นอนเกอร์ ก็มีความสุข แล้ว สำหรับคนที่รักธรรมชาติ ชอบเที่ยวที่แปลก ไม่เหมือนใคร ลองมาสัมผัส ...คุณอาจจะติดใจและประทับใจไม่รู้ลืมเหมือน...มาดามลอย ..ก็ได้

เรื่อง-ภาพ : มาดามลอย

 

         

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้