CITIZEN ยกทัพเปิดตัวนาฬิกาใหม่ล่าสุด 4 รุ่นพร้อมกันในงาน Basel World 2017

          CITIZEN ประกาศความพร้อมในการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดในงานแสดงนวัตกรรมนาฬิการะดับโลก “BASEL WORLD 2017” ที่ผ่านมา นาฬิกา 4 รุ่นใหม่ที่เกิดจากแรงบันดาลใจของคำว่า Better Starts Now ของซิติเซ็น ตอกย้ำแนวคิด “ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอที่จะทำให้บางสิ่งบางอย่างดีขึ้น และถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มทำมัน” โดยจะทยอยเปิดตัวตั้งแต่กลางปีจนถึงปลายปีนี้  ได้แก่

• CITIZEN Eco-Drive One นาฬิกาพลังงานแสงที่บางที่สุดในโลกที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2016 โดยจะเปิดตัวใหม่ 3 รุ่นปลายปีนี้ โดดเด่นด้วยกลไกขับเคลื่อนภายในที่บรรจุเป็นความบางเพียง 1.00 มิลลิเมตร ทำให้ตัวเรือนมีขนาด 2.98 มิลลิเมตร มาพร้อมดีไซน์หรูหราคลาสสิก เรียบง่ายแบบโมโนโทน สายหนัง และวัสดุพิเศษที่ขับเน้นดีไซน์ที่บางเฉียบ แต่ทนทานต่อรอยขูดขีด ขับเคลื่อนด้วยการกักเก็บพลังงานแสงได้นานเกือบ 12 เดือนนับจากการชาร์จเต็มครั้งแรก (AUTUMN 2017 ราคา 695 USD)
  

• CITIZEN ตระกูล PROMASTER นาฬิกาแนวสปอร์ตสำหรับนักกีฬามืออาชีพรุ่นล่าสุด 3 รุ่น ได้แก่ MARINE, LAND และ SKY ที่มาพร้อมดีไซน์สุดล้ำ ความทนทาน ฟังก์ชั่นการทำงานที่เหนือชั้นพร้อมตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบกีฬาปีนเขา ดำน้ำ และการบินทั่วโลก ตอบรับทุกรายละเอียดเพื่อให้เหมาะกับกีฬาแต่ละประเภท เพิ่มความมั่นใจและความเหนือระดับ (SUMMER 2017 ราคา 660-2,300 USD)
  

• CITIZEN L นาฬิกาสุดหรู 2 รุ่นสำหรับสุภาพสตรี ได้แก่  รุ่น L AMBILUNA LIMITED Edition นาฬิกากำไลที่มาพร้อมความหรูหรา โดดเด่น Urushi-drop หยดคริสตัลแซฟไฟร์โปร่งแสง ดุจงานศิลปะสมัยใหม่ของญี่ปุ่น และรุ่น L ล่าสุดที่มีลูกเล่นมากขึ้นแต่จะยังคงดีไซน์ที่หรูหราพร้อมเพชรเม็ดใหญ่สะดุดตา (AUTUMN 2017 ราคา 1,000-1,150 USD)
  

• CITIZEN Bluetooth ใหม่ที่พร้อมจะวางตลาดในปีนี้ นาฬิกาที่มาพร้อมดีไซน์และนวัตกรรมการใช้งานที่แสนง่าย เพิ่มเติมความสะดวกสบายโดยการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ผ่านแอปพลิเคชั่นทางการของซิติเซ็น เชื่อมต่อข้อมูลบนโทรศัพท์ของคุณเข้ากับนาฬิกา ทำให้เมื่อมีสายเรียกเข้า อีเมล์ หรือข้อความ จะมีการแจ้งเตือนด้วยเสียงหรือการสั่นได้อีกด้วย สามารถดูเวลาได้ถึง 316 เมืองทั่วโลกอีกด้วย แต่เหนืออื่นใด จากการใช้เทคโนโลยีพลังงานแสง Eco-Drive จึงไม่จำเป็นต้องใช้สายชาร์จ และเมื่อใดที่ชาร์จพลังงานเต็มที่แล้ว นาฬิกานี้จะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 4 ปี (เมื่อใช้พลังงานในโหมดประหยัด) ช่วยให้ผู้ใช้งานหมดความกังวลในเรื่องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย ๆ หรือต้องใช้สายชาร์จเป็นประจำทุกวันไปเลย (SUMMER 2017 ราคา 695 USD)