หลักสูตรวิชา ‘แก้วสารพัดนึก’ ส่งเสริมนักศึกษาเพิ่มพลังชีวิต-เรียนรู้ ‘คุณค่าในตัวเอง’

          “เราไม่ได้มองว่า เด็ก ๆ ของเราเป็นเพียงนักศึกษา แต่เรามองว่า พวกเขาเป็นลูกศิษย์ พวกเขาจึงเป็นทั้ง “ลูก” และเป็นทั้ง “ศิษย์” ดังนั้น นอกจากจะต้องเป็นครูแล้ว เราจึงต้องทำหน้าที่เป็นเหมือนพ่อแม่ให้กับพวกเขาด้วย” อาจารย์ ดร.ดารัตน์ ศิริวิริยะกุล วิภาตะกลัศ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา กล่าวถึงที่มาของ “วิชาแก้วสารพัดนึก” ที่มหาวิทยาลัยสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อให้ “ลูกศิษย์” ของมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ได้เรียนรู้อีกหนึ่งวิชาชีวิต ที่นอกเหนือจากตำราเรียน

          ถึงแม้ “วิชาแก้วสารพัดนึก” จะอยู่นอกเหนือจากหลักสูตรปกติ แต่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเจ้าพระยาทุกคนจะต้องเข้าเรียนวิชานี้ ซึ่งกำหนดการเรียนการสอนไว้ 3 คาบต่อ 1 เดือน

          “รูปแบบก็ต้องยอมรับนะคะว่า เป็นเหมือนห้องเรียน เป็นคลาสรูมนั่นแหละ แต่ด้วยความที่เรามีห้องประชุมขนาดใหญ่มาก ทำให้สามารถรองรับนักศึกษาได้ทุกชั้นปี ทุกคนก็จะได้เข้ามาเรียนวิชานี้พร้อม ๆ กัน ไม่แบ่งชั้นปี ไม่แบ่งคณะ ทำให้เด็ก ๆ ทุกคนของมหาวิทยาลัยได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน”

          สำหรับวิทยากรที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา จะมีทั้งบุคลากรภายใน และวิทยากรรับเชิญจากภายนอก ซึ่งนอกจากเด็ก ๆ จะได้ฟังเรื่องราว เรียนรู้โลกภายนอกและเข้าใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวจากประสบการณ์ของวิทยากรที่คร่ำหวอดในแวดวงต่าง ๆ แล้ว ในห้องเรียนใหญ่แห่งนี้ ยังเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเอง และสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเปิดกว้าง

          “หัวข้อ” ที่ใช้ในการบรรยาย อาจารย์ ดร.ดารัตน์ บอกว่า มีตั้งแต่การสอนให้เด็ก ๆ เรียนรู้ถึง “คุณค่าของตัวเอง” สร้างพลังให้ตัวเอง ให้พวกเขาได้เรียนรู้ว่า คนที่มีโอกาสน้อยกว่าเรายังมีอีกมาก บางคนขาดโอกาสทางการศึกษา ขณะที่บางคนขาดโอกาสในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ต้องอยู่ท่ามกลางความอดอยาก ความขัดแย้ง และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงการสอนให้เด็ก ๆ รักพ่อแม่ กตัญญูรู้คุณต่อบุพการี

          “บางคนอาจจะคิดว่า เรื่องแบบนี้ ยังต้องสอนอีกหรือ บอกเลยว่า ต้องสอนค่ะ ยิ่งโตจนเรียนมหาวิทยาลัย นี่บางทีก็ลืมไปแล้ว เพราะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น บางคนก็ห่างผู้ปกครองจนลืม วิชาแก้วสารพัดนึกนี่แหละค่ะที่สอดแทรกเรื่องพวกนี้เข้าไป ให้เด็ก ๆ ได้สำนึกรู้ เรายังสอนเรื่องเพศศึกษาด้วย ไม่ใช่สอนวิธีป้องกันไม่ให้ท้องหรือตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร แต่สอนให้เด็กผู้หญิงใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า รักนวลสงวนตัว และสอนให้เด็กผู้ชายไม่ทำร้ายเพศแม่ของเขา สอนให้เขาเห็นคุณค่าของผู้หญิงที่เขารัก รู้จักให้เกียรติผู้หญิง และเรียนรู้ที่จะอดทนรอคอยเวลาที่เหมาะสม”

          วิชาแก้วสารพัดนึก ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเติมพลังชีวิตให้กับเด็ก ๆ แต่ยังเตรียมความพร้อมในการออกจากรั้วมหาวิทยาลัยไปสู่โลกภายนอก ทั้งการใช้ชีวิตในยุค 4.0 หรือแม้แต่การเตรียมความพร้อมเมื่อต้องออกไปทำงาน เรียนรู้การอยู่ร่วมกับเพื่อนร่วมงาน และการเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีเมื่อเริ่มทำงานใหม่ ๆ หรือแม้แต่การป้องกันความเสี่ยงจากภัยรอบตัว ที่บางครั้งก็ได้พี่ ๆ ทีมกู้ภัยมาช่วยแบ่งปันประสบการณ์และมีคำแนะนำดี ๆ ให้กับน้อง ๆ

          “ถ้าถามว่า ความคาดหวังของเราคืออะไร ก็ต้องบอกว่า ในส่วนของเรา เราได้ทำหน้าที่ของเรา ในฐานะครู ในฐานะพ่อแม่ได้เต็มที่ที่สุดแล้ว ส่วนตัวเด็ก ๆ เอง เราคาดหวังว่า พวกเขาจะเข้าใจตัวเองมากขึ้น รู้คุณค่าของตัวเอง เข้าใจคนอื่น และเข้าใจความเป็นไปของโลก ซึ่งทั้งหมดเป็นพื้นฐานของความสุขในการมีชีวิต” อาจารย์ ดร.ดารัตน์ กล่าว

          ที่สำคัญกว่านั้น คือ เราให้เด็กๆทุกคนใช้สมุดของมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสมุดบันทึกที่มีราคาถูกที่สุด สำหรับจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ในวิชาแก้วสารพัดนึก

          “สมุดเล่มนี้ อาจจะไม่สำคัญเวลาที่พวกเขามีความสุข แต่เมื่อใดที่เด็ก ๆ มีความทุกข์ แล้วลองกลับมาเปิดสมุดเล่มนี้อีกครั้ง เราหวังว่า เขาจะได้รับพลังชีวิตจากเรื่องราวต่าง ๆ ที่ถูกบันทึกไว้ และเรื่องราวเหล่านั้นจะทำให้เด็ก ๆ ก้าวผ่านความทุกข์ได้อย่างไม่ยากเย็นเกินไป”