เปิดศึกดวลล้อ "OFF ROAD TROPHY 2018" สนาม 2 สะท้านทุ่งริมเขื่อนกระเสียว ด่านช้าง สุพรรณบุรี

645 จำนวนผู้เข้าชม  | 

นี่คือความมันส์บนเส้นทางหฤโหดในแบบฉบับ ของการแข่งขัน ออฟโรด โทรฟี่ ที่นักแข่งนับร้อยชีวิตประกาศศักดาลงดวลล้อในศึกใหญ่ของวงการออฟโรดไทยที่ บริษัท ทาร์เก็ตมีเดียแอนด์เทเลวิชั่น จำกัด ผู้จัดการแข่งขัน ร่วมกับสมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย โดยการควบคุมการแข่งขันจากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รยสท. ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตให้ผู้ชมทั่วประเทศ 5 สนาม 5 พื้นที่ทั่วไทย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน  กล่าวว่า “การแข่งขันในสนามที่ 2 ประจำปี 2018 นี้ เรายกความมันส์ไปที่สนามริมเขื่อนกระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยในการแข่งขันรอบคัดเลือกรถยนต์ออฟโรดทั้ง 4 รุ่น ต่างขับเคี่ยวกันอย่างสุดมันส์เพื่อขอโอกาสในการเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ท่ามกลางความงดงามตามธรรมชาติของเขื่อนกระเสียว เขื่อนดินที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และสวยที่สุดของสุพรรณบุรี”

พิธีเปิดการแข่งขันได้รับเกียรติจากคุณประสิทธิ์  ดีศิลปกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อีซูซุ อึ๋งง๋วนไต๋สุพรรณ บุรี กล่าวต้อนรับในนามเจ้าของพื้นที่ จากนั้น คุณอธิกิจ  ศรีมงคล ตัวแทนจากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  รยสท. กล่าวในนามผู้ให้การรับรองการแข่งขัน และกล่าวต้อนรับโดย คุณจิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน จากนั้น คุณสิทธิศักดิ์  แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภอด่านช้าง กล่าวเปิดการแข่งขัน

เปิดศึกสุดมันส์ รอบชิงแชมป์นักแข่งไล่บี้กันสุดฤทธิ์ ชนิดคว่ำเป็นคว่ำ...

มาที่การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศที่ต้องขอบอกว่า เกมการแข่งขันสุดเข้มข้นเพราะรถแข่งทุกรุ่นทุกคันต่างเตรียมตัวซุ่มซ้อมมาเป็นอย่างดี เพื่อการชิงชัยในสนามที่ถือว่าเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของการแข่งขันเก็บคะแนนประจำปี 2018 จนทำให้สนามนี้มีรถแข่งคว่ำมากที่สุดของการแข่งขันในรอบ 15 ปี

“สุวัฒน์ ทีมอีซูซุสุพรรณ คว้าชัยแบเบอร์ขึ้นแชมป์รุ่นปีกนก

คู่เด็ดในรุ่นปีกนกชิงชนะเลิศอันดับที่ 1 ในรุ่นของรถปิกอัพที่มากับบอดี้แบบรถบ้านทั่วไปแต่ไม่ธรรมดา เป็นการโคจรมาเจอกับศิษย์สำนักเดียวกัน ของ 2 ทีมจากอีซูซุ สุพรรณ คนบ้านเดียวกันแค่มองตากันก็เข้าใจอยู่ ระหว่างรถแข่งหมายเลข 59 ของ Driver สุวัฒน์ ลิ้มจิรภิญญา และ Co-Driver สันติชัย สำราญมาก จากทีมอีซูซุ สุพรรณ ลิควิคโมลี่ กรองเครื่องเย็นเย็น วัน ดีฟาส โช้คพ้อยน์ ร้านยางเฮียฯ กับ รถแข่งหมายเลข 95 ของ Driver ดิษพงษ์ มณีอินทร์ และ Co-Driver  ชาตรี ทองเลิศ จากทีมอีซูซุ สุพรรณ หนุ่ม&เป๋อสุพรรณ Liqui Moly โช้คพ้อย

คู่นี้เป็นการแข่งขันที่เรียกว่าดราม่าสุดๆ เพราะนอกจากจะเป็นการแข่งจากทีมออฟโรด คนสุพรรณเหมือนกันที่ต้องเข้ามาชิงดำกันเองแล้ว ในรอบแรกของการแข่ง รถแข่งหมายเลข 95 ที่นำโด่งอยู่ตั้งแต่ออกสตาร์ท 1 ช่วงรถ ไว้เชิงฝีไม้ลายมือ จัดเต็มจัดหนักทุกเนินทุกไลน์โค้ง จึงนำค่อนข้างห่าง ส่วนรถแข่งหมายเลข 59 ก็พยายามวิ่งเกาะไล่บี้กดดันหวังขึ้นแซง และก็ทำสำเร็จในรอบที่ 2 เพราะรถแข่งหมายเลข 95 งานเข้าเบรกมีปัญหาทะลุเส้นชัยโดนบวกเวลา ทำให้หมายเลข 59 ควบรถเข้าเส้นชัยเข้ามากดเวลาได้สบายๆ คว้าแชมป์สนามนี้ไปครองแบบแบเบอร์

รุ่น Super Open วชิรธาร มีผล นำทีมปตท. คว้าแชมป์สมใจ

รุ่น Super Open เป็นการพบกันระหว่าง รถแข่งหมายเลข 39 Driver วชิรธาร มีผล และ Co-Driver กาญธนวัฒน์ วังบรรพต จากทีม Ptt Performa BRCฯ มีดีกรีอันดับที่ 5 จากสนามเปิดฤดูกาล จังหวัดพิจิตร มานัดที่ 2 นี้ พบกับหมายเลข 1 ของ Driver บรรเทา พืชสุวรรณ์สกุล และ Co-Driver ชาติชาย จันทร์ใส จากทีม อู่ King Off Road โรงสีพงศ์อายุกูล บาย 4x4 ท่าข้าวพืชสุวรรณขอนแก่น ที่มาในรถแข่งสีเขียวสด

หลังตีธงออกสตาร์ท คู่นี้ไล่บี้คู่คี่สูสีกันตลอดเกมการแข่งขันบี้กันสุดมันส์ตั้งแต่โค้งแรก แม้รถหมายเลข 39 จะออกนำก่อนแต่รถแข่งหมายเลข 1 ของ Driver บรรเทา พืชสุวรรณ์สกุล ที่แม้จะร้างสนามแข่งไปนานแต่ก็ไม่หวั่นพลังของเด็กหนุ่มคู่แข่ง พยายามไล่บี้มาทุกโค้ง แต่เกมกลับมาพลิกล็อกในรอบ 2 เกิดเสียหลักหลุดแทร็คโค้งในทำให้โอกาสในการทำเวลาตกเป็นของหมายเลข 39 วชิรธาร มีผล ที่คุมเกมการแข่งขันบนเส้นทางที่เหลือได้ดีไม่มีออกนอกลู่นอกทางเข้าไปกดเวลาได้ก่อนคว้าชัยไปในรุ่น Super Open นำทีมปตท. คว้าแชมป์ในสนามนี้ได้สำเร็จสมใจ

สกุณา หญิงหนึ่งเดียวสุดแกร่งครองบังลังก์แชมป์ที่ 6 ในรุ่นเที่ยวป่า Open

ในรุ่นรถที่สามารถนำมาดัดแปลงใช้ในการท่องเที่ยวในรูปแบบของการผจญภัยเที่ยวป่าได้ เป็นการพบกันระหว่างรถแข่งสีเขียว หมายเลข 17 ดีกรีแชมป์หลายสนามจากการเก็บคะแนน ประจำปี 2017 และแชมป์ในสนามที่ 1 จังหวัดพิจิตรที่เพิ่งผ่านมาของ สกุณา บุญเผือก นักแข่งหญิงแกร่งหนึ่งเดียวของวงการออฟโรดไทย และ Co-Driver  มงคล เพียรดี จากทีม Ptt Performa พัทยาคลับ อู่ซีพี พัทยาการาจ ช่างยักษ์ เซอร์วิส Wiz Racing Shock ที่กลับมาชิงชัยกับคู่รักคู่แค้นตั้งแต่สนามที่ 1 จังหวัดพิจิตร รถแข่งสีแดง หมายเลข 98 ของ วีระวัฒน์ เพิ่มพูล  และ Co-Driver พาโชค ทนง จากทีม เพิ่มพูลลิซซิ่ง ชุมพร by ครอสโฟร์ออฟโรด ที่หวังมาล้างตาในสนามนี้

เมื่อสัญญาณปล่อยรถพร้อม พริตตี้สาวสวยเบ็นดิกซ์ตีสะบัดธง สกุณา สาวนักขับฝีมือดีจากพัทยา ในฐานะแชมป์เก่าที่มีทีเด็ดอยู่ที่การเตรียมพร้อมด้วยการเซ็ตอัพโมดิฟายรถ ทั้งเครื่อง ทั้งกล่องโดยช่างยักษ์เพื่อลงชิงชัย ทำให้ตลอดการแข่งขันรถของสกุณามีความพร้อมสุดๆ และในเกมการแข่งขันแม้รถแข่งของสกุณาจะออกนำก่อน แต่หมายเลข 98 ก็ไม่มียอม เพราะไม่อยากแพ้อีกครั้งให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ขับเน้นความชัวร์เข้าทุกโค้งทุกไลน์ให้ชัวร์ไว้ก่อน ทั้งสองเบียดกันสูสีคู่คี่จนคนดูลุ้นเชียร์ลั่นสนาม แต่ท้ายที่สุดนอกจากเก่งแล้วยังคงต้องบวกเฮงด้วย แต่คู่แข่งสกุณาไม่เฮงอย่างที่คิด เทพีแห่งโชคก็ยังเข้าข้างสกุณา รถแข่งหมายเลข 98 เบรกมีปัญหาวิ่งทะลุเส้นชัยเกือบสอยซุ้มสตาร์ทส่งผลให้โดนบวกเวลา ทำให้ สกุณา บุญเผือก ทีมพัทยาฯครองบังลังก์แชมป์ที่ 6 ในรุ่นเที่ยวป่า Open ในสนามที่ 2 นี้ไปครอง

รุ่นหลุดโลก  “นักข่าว นักแข่ง” โชติศีล รัตนวราหะ ล้างตาสำเร็จคว้าชัยไปครอง Open Unlimited

ปิดท้ายรายงานผลการแข่งขันกันที่รุ่นชิงชนะเลิศอันดับที่ 1 ในรุ่นของ Open Unlimited หรือ รุ่นหลุดโลก ที่เครื่องแบบไหนอะไรก็ได้ ที่ถือเป็นการประชันกันของคู่แข่งขันที่เป็นสุดยอดฝีมือมีดีกรีระดับเดินสายชิงแชมป์ระดับประเทศ โดยคู่ชิงของสนามนี้เป็นการโคจรมาพบกันระหว่างรถแข่งสีดำ หมายเลข 9 ของ”นักข่าว นักแข่ง” โชติศีล รัตนวราหะ และ Co-Driver สุทธิรักษ์ ทองประจักษ์ จากทีม Number Nine Racing By ลูกหมากซีร่า ARB Wise Sunclean Lenso Nexzter Link ECU Runstop BK Clutch TR Tranformer II งานนี้เปิดหน้าพบกับรถแข่งสีขาวหมายเลข 21 ของ Driver สุธารักษ์ พิณเมืองทอง และ Co-Driver จตุพล วงษ์น้อย ขุนพลออฟโรดจากดินแดนกล้วยไข่ จังหวัดกำแพงเพชร และมีดีกรีไม่ธรรมดาทั้ง 2 คัน เพราะต่างทำเวลาและโชว์ฝีไม้ลายมือได้อย่างดีในรอบคัดเลือก  

ช่วง 100 เมตรแรกยังไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ แต่รถแข่งสีดำ หมายเลข 9 ของ โชติศีล รัตนวราหะ นั้นเน้นเซ็ตอัพรถมาพร้อมจริงๆ ทั้งเครื่องยนต์ช่วงล่างและเกียร์ เพราะไม่อยากตกม้าตายพลาดซ้ำเหมือนตอนเข้าชิงในสนามที่ 1 ที่จังหวัดพิจิตร ที่งานเข้าตกรอบชิงดำเกียร์มีปัญหาในการชิงดำ โดยในสนามนี้ทั้งคู่เน้นไปที่การขับแบบเนียนๆ ไม่มีใครยอมเพลี่ยงพล้ำเสียอาการให้รถชนหลัก ต่างฝ่ายต่างประคองรถของตัวเองทุกไลน์ ทุกเนิน ทุกโค้ง ไล่บี้กันอย่างสูสีดู๋ดี๋ สมดีกรีรุ่นใหญ่ที่สุดของการแข่งขันทำเอาคนดูนั่งไม่ติด มาจนถึงช่วง 200 เมตรสุดท้ายรถแข่งสีดำหมายเลข 9 ของ”นักข่าว นักแข่ง” โชติศีล รัตนวราหะ อาศัยจังหวะที่ดีกว่าในโค้งในสุดท้ายหวดเข้าเส้นชัยไปก่อน ล้างตาเป็นผลสำเร็จคว้าชัยในรุ่นหลุดโลก Open Unlimited ไปครอง

นี่คือการแข่งขันสุดมันส์หนึ่งเดียวของเมืองไทย ในสนาม 2 กับออฟโรด โทรฟี่ 2018 แฟนๆ ออฟโรดสามารถติดตามการแข่งขัน Off Road Trophy สนามต่อไปในสนามที่ 3 ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 28-29 กรกฎาคม 2561 นี้ ที่สนามชายหาดทุ่งคา ตำบลเนินฆ้อ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง และออกอากาศวันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม 2561 (วันแม่แห่งชาติ เวลา 13.00-14.00 น. ทางช่อง 9 MCOT HD และ ช่อง VOICE TV 21 TV DIGITAL )

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้