2157 จำนวนผู้เข้าชม |
ภาพ : AUDI AG
เรียบเรียง : Pitak Boon
RS4 Avant เจเนอเรชั่นที่ 5 วิศวกร Audi Sport GmbH ได้จับ A4 Avant ภายใต้รหัส B9 ซึ่งเป็นบอดี้ล่าสุด มาเพาะกล้าม อัพลุคทั้งตัวถังภายนอก และภายในห้องโดยสาร ลุคใหม่เป็นตัวถังแวนที่ดูกำยำ ดีไซน์ของ RS4 Avant อาจดูไม่โฉบเฉี่ยวเท่ารถสปอร์ตทั่วไป แถมไม่ได้มีชุดแอร์โร่พาร์ทต่างๆ มาทำให้ตัวถังดูรกรุงรัง นั่นเพราะระบบแอร์โร่ไดนามิคเดิมๆ บนตัวถังของรถจากค่ายสี่ห่วงเข้าขั้นเทพอยู่แล้ว ค่าแรงต้านของอากาศของ RS4 Avant หรือ Cd. ลงตัวด้วยตัวเลข 0.329
RS4 Avant ใช้ขุมพลังใหม่ 2.9 TFSI V6 bi-turbo เครื่องยนต์บล็อกนี้ถูกออกแบบให้ผนังกระบอกสูบบางลง ทว่าแบริ่งของเพลาข้อเหวี่ยงถูกเพิ่มความกว้างอีก 2 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับเครื่อง 3.0 TFSI อ่างน้ำมันเครื่องเปลี่ยนมาใช้ ‘อะลูมีเนียม-ซิลิคอนอัลลอย’ ที่เน้นความเบา การออกแบบวงจร bi-turbo ของเครื่อง 2.9 TFSI วิศวกรเริ่มต้นที่การวางเทอร์โบทั้ง 2 ตัว ไว้กึ่งกลางระหว่างเครื่องยนต์สูบวี ที่เสื้อสูบทั้ง 2 ฝั่งทำมุมกัน 90 องศา
สำหรับเครื่องยนต์ 2.9 TFSI ใช้ดีไซน์ที่แตกต่างจากเครื่องยนต์สูบวีดั้งเดิม ชุดท่อร่วมไอเสียถูกย้ายมาอยู่ด้านในเครื่องยนต์ ขณะที่ท่อร่วมไอดีจะถูกย้ายไปอยู่ที่ปีกทั้ง 2 ฝั่ง วิศวกรจึงสามารถวางโข่งไอเสียของเทอร์โบทั้ง 2 ตัว ให้ใกล้กับพอร์ทไอเสียได้มากยิ่งขึ้น ไอเสียที่ถูกปล่อยออกมาจากห้องเผาไหม้ สามารถพุ่งเข้าปะทะกังหันเทอร์ไบน์ได้อย่างรวดเร็ว ลดแรงต้านทานการไหลของไอเสีย โดยเทอร์โบแต่ละตัวรับหน้าที่ในการอัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้ แบบแยกฝั่งใครฝั่งมัน แรงดันสูงสุดในการอัดอากาศของ bi-turbo ชุดนี้อยู่ที่ 0.95 บาร์
เครื่องยนต์ 2.9 TFSI ใต้ฝากระโปรงหน้า RS4 Avant มีพละกำลัง 450 hp ที่ 5,700-6,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดมาในรูปแบบ flat-torque ระดับ 600 Nm ที่ 1,900-5,000 รอบ/นาที ทั้งแรงม้าและแรงบิดพร้อมส่งกำลังผ่านเกียร์ Tiptronic 8 สปีด และระบบขับเคลื่อน quattro ซึ่งใช้อัตราส่วนการกระจายกำลังระหว่าง ล้อหน้า:ล้อหลัง ที่ 40:60 สำหรับสภาพการขับขี่ทั่วไป (ล้อคู่หน้า 40% และล้อคู่หลัง 60%) และจะปรับเปลี่ยนไปที่คู่หน้าได้สูงสุด 70% (70:30) ส่วนคู่หลังส่งไปได้ 85% (15:85) โดยอุปกรณ์ที่รับหน้าที่กระจายแรงขับเคลื่อน คือ ชุดเฟืองที่มีชื่อว่า Crown Gear การพัฒนาระบบ quattro ของ AUDI ไม่ได้เน้นเรื่องประสิทธิภาพในการกระจายกำลังแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงการลดน้ำหนัก จากอุปกรณ์มากชิ้นของระบบขับเคลื่อนแบบ AWD ลงด้วย ซึ่ง Crown Gear ทั้งลูก จะมีขนาดกะทัดรัด และมีน้ำหนักเพียง 4.8 กิโลกรัม เท่านั้น
สเป็คจากโรงงาน RS4 Avant ทำอัตราเร่งผ่านหลัก 100 กม./ชม. ด้วยเวลา 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกระบบอิเล็กทรอนิกส์ล็อคไว้ที่ 250 กม./ชม. แต่มีอ็อพชั่น RS Dynamic Package มาให้ลูกค้าจ่ายเพิ่ม และท็อปสปีดจะขยับไปที่ 280 กม./ชม. ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 11.36 กิโลเมตร/ลิตร ลดลง 17% เมื่อเทียบกับ RS4 Avant เจน 4 และปล่อย CO2 ต่ำเพียง 199 กรัม/กิโลเมตร เท่านั้น