อีซูซุเพลสทริพกับ อีซูซุ ดี-แมกซ์ ใหม่ เชียงใหม่ – เชียงดาว – เชียงใหม่

2067 จำนวนผู้เข้าชม  | 

หลังจากที่ อีซูซุ ดี-แมกซ์ ใหม่ ซึ่งมีคำจำกัดความว่า....พลานุภาพ พลิกโลก เปิดตัวมาในช่วงปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกที่บรรดาสื่อมวลชนได้มีโอกาสทดลองขับรถรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายอีซูซุกันเป็นระยะทางกว่า 200 กม. ในช่วงวันแห่งความรักเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งในครั้งนี้มีรถ 2 รุ่นให้ขับกัน คือ 1.9 ลิตร ไฮแลนเดอร์ ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ วีครอสส์ 3.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ บนสภาพเส้นทางที่เต็มไปด้วยขุนเขาและโค้งที่หลากหลายตามภูมิประเทศแถบภาคเหนือ


เราออกเดินทางสู่ จ.เชียงใหม่ด้วยเครื่องบินจากดอนเมือง หลังจากถึงจุดหมายก็ได้นั่งรถตู้ไปรับประทานอาหารกลางวันสไตล์พื้นเมืองกันที่ ร้านลำดีตี้ขัวแดง ก่อนจะเริ่มออกเดินทางกันต่อแบบคาราวานด้วยรถอีซูซุทั้งหมดกว่า 10 คัน


จุดหมายแรก เราจะไปกันที่ โป่งแยงจังเกิ้ล โคสเตอร์ & ซิบไลน์ สวนสนุกสไตล์แอดเวนเจอร์แถบ อ.แม่ริม ก่อนถึงม่อนแจ่มแค่ 3 กม. กลุ่มเราได้รถ อีซูซุ วีครอสส์ 3.0 ลิตร ขับสี่ เป็นพาหนะตลอดทั้งสองวัน ขับออกนอกตัวเมืองเชียงใหม่แบบสบายๆ สัก 70 กม.ก็ถึง โป่งแยง จังเกิล ฯ

เครื่องเล่นที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ จังเกิ้ล โคสเตอร์ คล้ายรถไฟเหาะที่เราเคยเล่นกัน มีระยะทางยาวกว่า 800 ม. ด้วยความเร็วประมาณ 40 กม./ชม.  แต่ที่เหนือกว่ารถไฟเหาะตามสวนสนุกก็คือ รถโคสเตอร์ที่วิ่งบนรางจะไหลคดเคี้ยวลงมาตามเนินเขาที่ลาดชันสร้างความตื่นเต้น เร้าใจ พอสมควรทีเดียว รถพาเราแล่นผ่านสภาพธรรมชาติที่มีทั้งน้ำตกและสภาพป่าอันสวยงามให้เราได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์รอบตัว วิ่งอยู่สักครู่ก็หมดรอบ ให้เราได้ไปหาเครื่องเล่นอื่นๆ ที่แปลกใหม่ต่อไป

นอกจากนี้ยังมี ซิปไลน์ คือการโหนสลิงข้ามเนินเขาเพื่อชมสภาพป่าตามธรรมชาติเบื้องล่าง ถ้าใครกลัวความสูงแนะนำให้ข้ามสถานีนี้ไปเลยนะครับ

สถานีปั่นจักรยานบนลวดสลิง เพื่อชมวิวจากมุมสูง ซึ่งต้องอาศัยความสมดุลในการปั่นจักรยานในที่สูง

ยังมีอีกหลายสถานีให้เลือกเล่นกัน หรือจะนั่งชมวิวริมน้ำตกที่คาเฟ่ ก็ได้นะครับ

หลังจากที่เร้าใจกับเครื่องเล่นนานาชนิดกันแล้ว คาราวานของเราก็เดินทางต่อไปยัง ไร่ชาลุงเดช ซึ่งต้องขับขึ้นเขาไปบนเส้นทางที่คดเคี้ยว แต่เป็นถนนปูนสลับยางมะตอยพื้นเรียบตลอดเส้นทาง ซึ่งผมได้มีโอกาสได้เป็นผู้ขับขี่ในช่วงนี้หลังจากที่เป็นผู้โดยสารและผู้ดูเส้นทางให้เพื่อนๆ มาช่วงหนึ่งแล้ว

 

เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร เทอร์โบ 190 แรงม้า ของ วี-ครอสส์ รุ่นนี้ให้พละกำลังเหลือเฟือสำหรับการเดินทางแบบนี้ การไต่เนินชันทำได้อย่างสบายๆ เพียงแต่ต้องระวังรถสวนเนื่องมาจากสภาพถนนที่มีขนาดค่อนข้างเล็กและตัวรถอีซูซุใหม่มีขนาดที่ใหญ่ตามเทรนด์ของพิคอัพในปัจจุบันที่ต้องการห้องโดยสารอันกว้างขวาง เนื้อที่บรรทุกที่กระบะท้ายที่ใหญ่ขึ้น เหมาะมากๆ กับการวิ่งบนทางด่วน หรือไฮเวย์ข้ามจังหวัด แต่ในช่วงเข้าตัวเมืองหรือจุดที่มีการจราจรคับคั่งอาจขาดความคล่องตัวและต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่อยู่บ้าง แต่สำหรับการใช้งานเดินทางไกลหรือท่องเที่ยวตามหัวเมืองต่างๆ ดี-แมกซ์ ใหม่ เหมาะมากครับ ให้ความสบายทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ให้อัตราทดที่ดี เกียร์สูงๆ ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ในขณะเดินทางไกลได้ดี เพิ่มความประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น แม้ว่าอัตราทดเกียร์และเฟืองท้ายจะสูงกว่ารถเก๋งอยู่บ้างเพื่อให้มีแรงบิดที่มากในการนำมาใช้งาน 

การขับขี่ในช่วงโค้งที่มีอยู่แทบตลอดทางในขณะขึ้นลงเขา ระบบรองรับทำหน้าที่ได้ดี พวงมาลัยยังเป็นระบบใช้เพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง ในช่วงวิ่งลงทางลาดชันยาวๆ เราเลื่อนคันเกียร์อัตโนมัติมาอยู่ในตำแหน่งที่สามารถควบคุมจังหวะเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตนเองเพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยชะลอความเร็วของตัวรถขณะไหลลงอย่างเร็ว ไม่เช่นนั้นเบรกจะรับภาระที่หนักหน่วง และเกิดความร้อน ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของเบรกลดลง



การขับขี่ถ้ามีทักษะก็จะสามารถขับรถคันนี้ไปเที่ยวทุกแห่งทั่วไทยตามใจที่อยากไปได้อย่างสบายๆ แถมยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ติดตั้งมาให้พร้อมสรรพ แต่เสียดายที่ทริพนี้เราวิ่งกันบนทางเรียบตลอดเส้นทางไม่มีโอกาสให้ระบบขับสี่ได้มีแสดงสมรรถนะเลย  

 

เราใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงไร่ชาลุงเดช อยู่ที่ อ.แม่แตง เส้นทางเดียวกับโครงการหลวงม่อนเงาะ เป็นไร่ชาที่ปลูกตามแนวเชิงเขาแบบขั้นบันได ซึ่งมีทิวทัศน์มองลงไปยังหุบเขาด้านล่างโดยมีภูเขาเป็นฉากกำบังอยู่ด้านหลัง เรามาถึงในช่วงแดดร่มลมตก พักผ่อนกันก่อนจะขับรถต่อไปรับประทานอาหารมื้อค่ำแถวเชียงดาว ที่ร้านเชียงดาวเรสโต ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก อาซาเลีย วิลเลจ รีสอร์ท ที่พักของพวกเราในค่ำคืนนี้

หลังจากพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อชมวิวบริเวณรอบๆ ที่พักท่ามกลางอุณหภูมิ 13 องศา อากาศเย็นสบาย ได้บรรยากาศการเที่ยวเมืองเหนือก่อนจะเข้าสู่ฤดูร้อนในเร็ววันนี้ หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันแล้ว ทริพของเราก็เดินทางกันต่อไปยัง ปางช้างเชียงดาว ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกช้างที่สวยงามที่สุดในภาคเหนือท่ามกลางป่าไม้ขนานไปกับลำน้ำปิง เราได้ชมการแสดงของช้างซึ่งสะท้อนการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างคนกับช้างซึ่งหาชมได้ยาก ซึ่งช้างเป็นสัตว์แสนรู้ที่สามารถสอนให้ทำตามที่ควาญต้องการได้อย่างน่าชื่นชม เช่น ช้างลากซุง, โชว์การ ขึ้น-ลง หลังช้าง, วาดภาพ, สวมหมวก ฯลฯ นานมากแล้วที่เราไม่ได้มีโอกาสชมการแสดงของช้างที่ในปัจจุบันหาชมได้ยาก ส่วนใหญ่จะอยู่ทางภาคเหนือและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่จัดช้างมาแสดงให้เราได้ชมกัน

ต่อจากนั้นเราขับรถมุ่งเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ โดยแวะรับประทานอาหารกลางวันระหว่างทางกันที่ ร้านระเบียง ณ แม่ริม ที่มีอาหารอร่อย บรรยากาศดี เราแวะพักผ่อนกันสักพักจนได้เวลาที่ต้องนำรถไปจอดที่โชว์รูมอีซูซุ บริษัท ธารา จำกัด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวสนามเชียงใหม่ ก่อนที่กลุ่มเราจะเดินทางกลับสู่ กทม.ด้วยเครื่องบินเช่นเดียวกับเมื่อวานนี้

ขอขอบคุณ : บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และเจ้าหน้าที่ทีมงานทุกท่านที่มอบโอกาสดีๆ ให้กับเรา และอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทางในครั้งนี้ครับ  

 

 

ไร่ชาลุงเดช

 

 

 

 

ปางช้างเชียงดาว

 

 

 

 

 

อาซาเลีย วิลเลจ รีสอร์ท

 

 

 

 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้