AUDI e-tron 55 quattro || รถไฟฟ้าโมเดลแรกจากค่ายสี่ห่วง

686 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ภาพและภาพยนตร์ : AUDI AG
เรียบเรียง : Pitak Boon

 

 

 

ผู้ผลิตรถยนต์สายแข็งเจ้านวัตกรรมอย่าง Audi ปล่อยรถต้นแบบ Pure EV มาโชว์ตัวแล้วหลายโมเดล แต่ e-tron 55 quattro เป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกที่ Audi ได้ส่งลงทำตลาดอย่างเป็นทางการ ความน่าสนใจอยู่ที่ หากเทียบกับผู้ผลิต EV รายใหม่ วิศวกร Audi ได้ถ่ายทอด know-how ในการสร้างรถยนต์สมรรถนะสูงมายัง EV ภายใต้ตราสัญลักษณ์ 4 ห่วงทุกโมเดล เพราะฉะนั้น EV ภายใต้แบรนด์ ‘e-tron’ ในอนาคตจะมาพร้อมอารมณ์ในการขับขี่สไตล์ Audi อย่างครบถ้วน



จุดเด่นของ e-tron 55 quattro ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของกำลังขับเคลื่อนรวม 300 kW (402 hp) หรือแรงบิด 664 Nm จากมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว (เชื่อมต่ออยู่กับล้อหน้า และล้อหลังโดยตรง) หรือ ต่อการชาร์จ 1 รอบ รถวิ่งใช้งานได้ไกลกว่า 400 กิโลเมตร แต่ Audi ได้ใส่อารมณ์ในการขับขี่ รวมทั้งศาสตร์และศิลป์ในการสร้างรถให้กับ EV ทุกรุ่นในทุกรายละเอียด อาทิ การตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ถอดแบบมาจากการเพิ่มรอบของเครื่องยนต์, ระบบขับเคลื่อน quattro ที่แม้การขับเคลื่อน AWD จะมาจากมอเตอร์ไฟฟ้า แต่วิศวกรได้ดีไซน์โปรแกรมกระทั่งระบบ quattro จาก e-tron ให้ประสิทธิภาพการในขับเคลื่อนได้แทบไม่แตกต่างกัน รวมทั้งอากาศพลศาสตร์บนตัวถัง และระบบระบายความร้อน ที่ได้รับการส่งต่อมาทั้งหมด



e-tron 55 quattro มาพร้อมมิติตัวถัง ความกว้าง, ความยาว และความสูง ที่ 1,935 x 4,902 x1,616 มิลลิเมตร โดยในส่วนของความกว้าง วัดรวมกระจกมองข้างแบบ Virtual Exterior Mirrors แล้ว อุปกรณ์นี้ถูกติดตั้งแทนที่กระจกมองข้างทั้ง 2 ฝั่ง จากกระจกขนาดใหญ่สไตล์รถ SUV จะเหลือเพียงก้านขนาดเล็กที่โผล่ยื่นมาจากตัวรถ ตัวก้าน Virtual Exterior Mirrors ออกแบบตามหลักแอร์โร่ไดนามิค มาพร้อมกล้องมุมกว้างขนาดเล็กข้างละ 2 ตัว กล้องตัวแรกให้มุมมอง top-view อำนวยความสะดวกในการถอยจอด สร้างความแม่นยำในการจำลองภาพจากมุมบนแบบ 360 องศารอบตัวรถ กล้องตัวที่สอง จะส่งภาพท้ายรถจากด้านข้างตัวถังทั้งซ้ายและขวา ไปแสดงผ่านจอบริเวณแผงข้างของบานประตู ทั้งฝั่งผู้ขับและฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า ซึ่งเป็นในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับการมองกระจกมองข้างปกติ จอข้างบานประตูเป็นแบบสัมผัส ความละเอียด 1,280 x 1,080 พิกเซล ผู้ใช้สามารถเลือกปรับมุมมองภาพจากกล้องนอกรถ ผ่านจอได้เช่นเดียวกับการ zoom in หรือ zoom out บนหน้าจอแท็บเล็ต

 



มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้ามีกำลัง 135 kW พร้อมแรงบิด 309 Nm ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหลังมีกำลัง 165 kW พร้อมแรงบิด 355 Nm เคลมกำลังรวมออกมาที่ 265 kW (355 hp) แต่ในสภาวะต้องการอัตราเร่ง หรือขณะ Boost กำลังจะขยับขึ้นไปที่ 300 kW (402 hp) ในทำนองเดียวกัน แรงบิดสูงสุดขณะใช้งานปกติถูกระบุมาที่ 561 Nm และขณะ Boost แรงบิดรวมจะพุ่งขึ้นมาที่ 664 Nm สมรรถนะจากโรงงาน อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 6.6 วินาที และหาก Boost จะเหลือเพียง 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกล็อคไว้ที่ 200 กม./ชม. ต่อการชาร์จ 1 รอบ รถวิ่งใช้งานได้เป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 417 กิโลเมตร (WLTP)



ชุดแบตเตอรี่ high-voltage ถูกวางไว้ใต้พื้นห้องโดยสาร เป็นแบบลิเธียมไอออน 36 โมดูล ขนาดความจุ 95 kWh ตัวเซลล์แบตเตอรี่ได้รับการปกป้องจากเคสอะลูมิเนียม ที่โครงสร้างภายในถูกออกแบบห้องเล็ก ๆ หลาย ๆ ห้อง เพื่อช่วยกันรับแรง ป้องกันความเสียหายกับตัวเซลล์แบตเตอรี่ กรณีรถถูกชนอย่างรุนแรงมาจากทางด้านข้าง น้ำหนักของชุดแบตเตอรี่ 700 กิโลกรัม จากน้ำหนักรวมของ e-tron 55 quattro ทั้งคันที่ 2,490 กิโลกรัม

 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้