Nissan Kicks e-Power เกมวัดดวงของค่ายนิสสันกับรถพลังงานไฟฟ้า

1534 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โดย สุรพงษ์ ศิริชาติ

หลังจากค่าย นิสสัน ได้ปล่อยรถพลังงานไฟฟ้าแบบ EV 100% อย่าง Leaf ออกมาได้เกือบปี ด้วยเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าเพียวๆ แต่ยอดขายกลับไม่ค่อยลื่นไหลเหมือนที่คิดไว้ เพราะด้วยราคาที่ก่อนเปิดตัวหลายคนมองว่าไม่น่าจะเกินล้านกลางๆ แต่สุดท้ายพอเปิดตัว ราคากลับทะลุไปเฉียด 2 ล้าน   

       

ดังนั้นแผน 2 ต้องมีการงัดไม้เด็ดด้วยการเปิดตัวรถในสไตล์ คอมแพ็ค เอสยูวี ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในแถบละตินอเมริกา, จีน ภายใต้ชื่อ Kicks แต่เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด แถมเป็นการเปิดตัวครั้งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ที่เลือกใช้เทคโนโลยีการขับเคลื่อนในรูปแบบของ e-Power และเมื่อวันที่ 15 พฤษาคมที่ผ่านมา นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ก็ได้จัดงานเปิดตัว Nissan Kicks e-Power รูปแบบออนไลน์ พร้อมกับประกาศรุ่นที่พร้อมจำหน่ายในเมืองไทยทั้งหมด 4 รุ่น ประกอบด้วยรุ่น S, E, V และ VL กับราคาเริ่มต้น 8.89 บาท และรุ่นท็อปในราคา 1.049 ล้านบาท



ปรับโฉมจาก Kicks ที่ขายตัวเดิม เพิ่มเติมด้วยไฟหน้าแบบ Full LED ทุกรุ่น

พื้นฐานของ Kicks e-Power เป็นการปรับโฉมในสไตล์ไมเนอร์เชนจ์ ที่มีความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น กระจังหน้าสไตล์ V-Motion ขนาดใหญ่ขึ้น เส้นสายสอดรับกับชุดไฟหน้าแบบ Full LED พร้อม Daytime Running ที่ให้มาในทุกรุ่น(ใจปล้ำมากๆ) กระจกบังลมหน้าแบบ Acoustic Glass นิสสันบอกว่าจะช่วยในเรื่องของการเก็บเสียงของห้องโดยสารได้อีกพอสมควร เส้นสายด้านข้างปรับเปลี่ยนนิดๆ หน่อยๆ กระจกมองข้างมาพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED พับเก็บอัตโนมัติ ไฟท้ายปรับเส้นสายใหม่ และเป็นแบบ LED และกันชนท้ายดีไซน์ใหม่อีกเช่นกัน หลังคาเลือกเล่นด้วยโทนสีดำมาพร้อมกับชุดรางของแร็คหลังคา ล้อแม็กขอบ 17 ลายคล้ายๆ ใบพัดที่ยกมาจากจาก Leaf ขนาด 17x6.5 นิ้ว รัดด้วยยางไซส์ 205/55 R17

มิติของ Kicks e-Power เมื่อเทียบกับคู่แข่งตัวฉกาจอาทิ Honda HR-V กับ Toyota CH-R ความยาว และความกว้างจะน้อยกว่านิดหน่อย แต่มาได้เปรียบที่ความสูงของตัวรถ ส่วนความยาวของฐานล้อ อยู่ระหว่างกลางของคู่แข่งทั้ง 2 คัน มาดูตัวเลขมิติของตัวรถสักนิด

Nissan Kicks e-Power                                                   Toyota C-HR                                        Honda HR-V

ความยาว มม.         4290                                                        4360                                                      4346       

ความกว้าง มม.       1760                                                        1795                                                        1790

สูง มม.                  1615                                                        1565                                                        1605

ความยาวฐานล้อ     2615                                                        2640                                                       2610

 

ห้องโดยสารเน้นความเงียบกับลูกเล่นสีสันทูโทนในตัว VL               

ห้องโดยสารของ Kicks e-Power ทางนิสสัน ยืนยันว่าห้องโดยสารมีความเงียบ เพราะมีการบุวัสดุซัพเสียงในหลายๆ จุดของห้องโดยสารอาทิ ในโครงประตูทั้ง 4 บาน, ซุ้มล้อ, ผนังของห้องเครื่อง, พื้นรถ และการเลือกใช้กระจกบังลมประตูทั้ง 4 บาน ทำให้ห้องโดยสารมีความเงียบมากยิ่งขึ้น




ดีไซน์การออกแบบภายในห้องโดยสารบ่งบอกความเป็นนิสสันยุคนี้ได้อย่างชัดเจน เรือนไมล์แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว, พวงมาลัย 3 ก้าน ทรง D-Shape พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่น, จอกลางขนาด 8 นิ้ว มาพร้อมระบบ Nissan Connect พร้อม Apple Car Play ช่องต่อ AUX และ USB มีมาให้พร้อม(ในรุ่น V-VL), ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติทุกรุ่น, ชุดคันเกียร์มาในสไตล์เดียวกับ Leaf(หัวเกียร์สวยกว่า)แต่จัดวางตำแหน่งปุ่มโหมดการขับขี่ที่ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น พร้อมปุ่มเปิด-ปิด EV Mode และปุ่มปรับโหมดการขับขี่ Drive Mode 3 โหมด ประกอบด้วย D, D/S เน้นในเรื่องของอัตราเร่ง แต่ยังคงให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสม และ D/E เน้นการขับขี่แบบประหยัด นอกจากนี้ยังมีโหมดเกียร์ N เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการจอดขวางหรือซ้อนคันตามห้างสรรพสินค้า โดยการเลือกตำแหน่ง N นั่นหลังจากจอด และดับสวิทช์การทำงานแล้วให้กดปุ่มสตาร์ท ON แล้วต่อด้วยการกระดิกคันเกียร์มาด้านขวาแล้วกดค้างไว้เพียง 2 วินาที เท่านั่น




เหนือสิ่งใดสำหรับใครที่เคยสัมผัส Leaf ที่มีระบบ E-Paddle ว่ามันช่วยให้การขับขี่แตกต่างไปจากรถไฟฟ้าทั่วๆ ไป สำหรับ Kicks e-Power จะมาพร้อมกับ One Paddle ซึ่งทาง Nissan บอกว่าจังหวะยกคันเร่งตัวรถจะมีอาการหน่วงหรือช่วยเบรคด้วยแรงดึงที่สูงกว่ารถปกติทั่วๆ ไป ซึ่ง E-Paddle ใน Leaf จะใช้ระบบเบรคมาช่วยในจุดนี้ แต่สำหรับ Kicks e-Power จะใช้ มอเตอร์ในการช่วยเบรคเพียงอย่างเดียว และไฟเบรคจะติดอัตโนมัติ เมื่อตัวรถเริ่มมีแรงหน่วงในขณะที่ One Paddle ทำงาน

 



เบาะนั่งของ Kicks ทางนิสสันออกแบบใหม่โดยใช้ชื่อ Zero Gravity ออกแบบให้โครงสร้างช่วยลดแรงกดตามจุดต่างๆ ทำให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารไม่เมื่อยล้าตลอดการเดินทาง เบาะหลังพับแยกแบบ 60:40(แต่ยังไม่เรียบ) จุดเด่นอีกอย่างที่ Kicks มีมาให้คือ พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง C-HR, HR-V และสีสันภายในห้องโดยสารตัว VL จะมาแบบทูโทน, กระจกมองหลังในรุ่น VL แบบ IRVM(Intelligent Rear View Mirror)

 



เครื่องยนต์มีไว้แค่ปั่นไฟ..จี๊ดจ๊าดด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า

 e-Power ของ Nissan ถือเป็นอีก 1 ระบบการทำงานของ Hybrid เพราะยังมีเครื่องยนต์ทำหน้าที่เป็นตัวปั่นไฟเข้าสู่มอเตอร์ไฟฟ้า และนำไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ โดยตัวเครื่องยนต์ใช้พื้นฐานมาจากบล็อก HR12DE แบบแถวเรียง 3 สูบ 12 วาล์ว 79 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 103 นิวตัน-ม. ที่ 3,600-5,200 รอบต่อนาที แต่มีการปรับปรุงในหลายๆ จุดเพิ่มให้สอดคล้องกับการทำหน้าที่ปั่นไฟจ่ายไฟยังชุดมอเตอร์สำหรับขับเคลื่อน และชาร์จไฟไปยังแบตเตอรี่(ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E20) และยังเคลมการปล่อยค่าไอเสียออกสู่ชั้นบรรยากาศเพียง 100 กรัม/กม. ตัวมอเตอร์มีแรงม้าสูงถึง 95 กิโลวัตต์หรือ 129 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตัน-ม. ที่ 500-3,008 รอบต่อนาที ช่วยการให้การขับขี่ที่ราบรื่น อัตราเร่งทันอกทันใจตั้งแต่กดคันเร่งครั้งแรก(ระบบระบายความร้อนระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าแยกกันชัดเจน) ตัวแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม-ไอออน 4 โมดุล 80 เซลส์ 292 โวลท์ ความจุ 1.57 kWh จัดวางตำแหน่งอยู่ในเบาะนั่งคู่หน้า ช่วยในเรื่องการกระจายน้ำหนักของตัวรถได้เป็นอย่างดี ตัวแบตเตอรี่ทางนิสสันรับประกันถึง 10 ปี หรือระยะทาง 200,000 กม.



ระบบกันสะเทือนมาในรูปแบบที่เคยชิน ด้านหน้าแบบ อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบ ทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง, ระบบเบรคมาพร้อมกับ ดิสค์เบรคทั้ง 4 ล้อ, ระบบบังคับเลี้ยวแบบแร็คแอนด์พิเนี่ยนไฟฟ้า EPS พร้อมระบบ Active Return Control จังหวะการคืนตัวของพวงมาลัยดีขึ้นกว่าเดิม



เทคโนโลยีการขับขี่ และรูปลักษณ์หน้าตาที่น่าสนใจแล้ว ระบบความปลอดภัยของ Kicks e-Power ก็จัดเต็มในรุ่น VL อาทิเช่น ICC(Intelligent Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบ IFCW(Intelligent Forward Collision Warning ช่วยเตือนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ, ระบบ IAVM(Intelligent Around View Monitor) กล้องมองรอบคันอัจฉริยะ, ระบบ RCTA(Rear Cross Traffic Alent) ตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย, ระบบ BSW(Blind Spot Warning ระบบเตือนจุดอับสายตา, ถุงลมนิรภัย 2 ใบในรุ่น S-E, ถุงลมนิรภัย 4 ใบในรุ่น V และถุงลมนิรภัย 6 ใบในรุ่น VL



หลังจากการเปิดตัวก็ได้รับเสียงตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่สนใจ Kicks e-Power ค่อนข้างมาก แม้ตัวรถจะขึ้นโชว์รูมในช่วงวันที่ 19 พฤษภาคม ด้วยราคา และเทคโนโลยีการขับเคลื่อนแบบใหม่นี้ อาจทำให้การเดิมพันของ นิสสัน ในครั้งนี้ อาจทำให้ยอดจองวิ่งฉลุยก็เป็นไปได้ ที่นี่ขึ้นอยู่กับการให้ข้อมูลลูกค้าที่ชัดเจน และการบริการหลังการขายที่ต้องแก้ไขได้อย่างทันท่วงที(อย่าให้เกิดเคสแบบ X-Trail Hybrid) และขออีกนิดกับวัสดุภายในห้องโดยสารที่อยากให้ดูสมกับราคามากกว่านี้อีกสักนิด เพราะยังมีเวลาในการปรับเปลี่ยนก่อนส่งมอบลูกค้าล็อตแรก น่าจะทำให้แฟนๆ นิสสัน ตั้งแต่ Juke หรือผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้ายอมควักกระเป๋าจอง Kicks e-Power ไปขี่เล่นกันหนาตาบนท้องถนนเมืองไทยแน่นอน เพราะราคามาดีอยู่แล้ว 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้