The new Porsche 911 Targa || เจเนอเรชันที่ 8 ของรถสปอร์ตที่มาพร้อมเอกลักษณ์ระดับตำนาน

967 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ภาพและภาพยนตร์ : PORSCHE AG

ข้อมูล : AAS Auto Service

เรียบเรียง : Pitak Boon

 

 


Porsche พร้อมนำเสนอยนตรกรรมสปอร์ตสายพันธุ์แท้ภายใต้อนุกรม 911 (992) รูปแบบตัวถังลำดับที่ 3 ภายในช่วงฤดูร้อนนี้ หลังจากความร้อนแรงของรุ่นตัวถัง 2 ประตูคูเป้ (Coupé) และตัวถังเปิดประทุนคาบริโอเล็ต (Cabriolet) เปิดตัวต่อทันทีด้วยรูปแบบตัวถัง Targa ทั้ง Targa 4 และ 4S ที่ยังคงมาพร้อมเอกลักษณ์อันแตกต่าง ด้วยการติดตั้งระบบหลังคาอัตโนมัติ ใช้ควบคุมการทำงานของหลังคาประทุนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเฉกเช่น Porsche Targa รุ่นปี 1965 แนวหลังคาทรงโค้งสามารถเปิดรับสัมผัสแห่งธรรมชาติได้อย่างสะดวกสบาย ภายในระยะเวลาเพียง 19 วินาที เท่านั้น



911 Targa ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังบ็อกเซอร์ 6 สูบ ขนาดความจุ 3.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ โดย Targa 4 มีพละกำลังสูงสุด 385 PS (283 kW) เมื่อติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ Sport Chrono package ให้อัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปยังระดับความเร็ว 100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.2 วินาที ซึ่งเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 10% สำหรับ Targa 4S ยกระดับความแรงขึ้นอีกด้วยกำลังสูงสุดถึง 450 PS (331 kW) ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 3.6 วินาที เร็วขึ้นถึง 40% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา ในส่วนความเร็วสูงสุด 911 Targa 4 ทำได้ที่ 289 กม./ชม. (+2 กม./ชม.) ขณะที่รุ่น 4S สามารถทะยานทะลุพิกัดความเร็วสูงสุดได้ถึง 304 กม./ชม. (+3 กม./ชม.)




911 Targa ทั้ง 2 รุ่น ติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ (PDK) 8 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา หรือ Porsche Traction Management (PTM) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มั่นใจในสุดยอดสมรรถนะที่จะสร้างประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจ และรองรับอรรถประโยชน์สูงสุดในการใช้งานประจำวัน ด้วยฟังก์ชัน Smartlift ปรับระดับความสูงใต้ท้องรถ เพื่อตอบสนองต่อการเดินทางได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษมากมายจาก Porsche Tequipment สร้างสรรค์รถสปอร์ตที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณ ด้วยชุดแต่งจาก Porsche Exclusive Manufaktur ซึ่ง Porsche มุ่งนำเสนอผลงานที่ผสมผสานระหว่างชิ้นงานสไตล์คลาสสิค กับการออกแบบที่ท้าทายทุกข้อจำกัดของกาลเวลา หลอมรวมกันเป็น 911 Targa ซึ่งพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในเดือนมิถุนายนนี้


 

911 Targa ทั้ง 2 รุ่น ได้รับการยกระดับสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 6 สูบ เทอร์โบชาร์จ ความจุ 3.0 ลิตร รองรับทุกรูปแบบการขับขี่ ทั้งเน้นด้านสมรรถนะ และการใช้งานประจำวัน ทั้งนี้ เครื่องยนต์ของ 911 Targa 4 ให้พละกำลังสูงสุด 385 PS (283 kW) ที่ 6,500 รอบ/นาที หรือเพิ่มขึ้น 15 PS (11 kW) เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แรงบิดสูงสุด 450 Nm พร้อมใช้งานที่รอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,950 จนถึง 5,000 รอบ/นาที ในขณะที่ 911 Targa 4S ให้พละกำลังมหาศาลกว่า 450 PS (331 kW) หรือมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 30 PS (22 kW) แรงบิดสูงสุดกว่า 530 Nm (เพิ่มขึ้น 30 Nm) ที่รอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 2,300 จนถึง 5,000 รอบ/นาที




เพิ่มความมั่นใจการถ่ายทอดสมรรถนะลงสู่พื้นถนน ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุด ทั้งในส่วนของเพลาขับหน้าชุดคลัตช์ และเฟืองท้าย ซึ่งมีการระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้กับแผ่นจานคลัตช์ภายใน เพื่อความนุ่มนวลในการส่งกำลัง รวมทั้งความทนทานในการรับภาระที่เพิ่มขึ้น ชุดคลัตช์ของเพลาขับหน้าได้รับการปรับแต่งให้รองรับแรงบิด พร้อมส่งต่อได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ นอกจากนี้ระบบ Porsche Traction Management (PTM) ยังเข้ามารับหน้าที่ควบคุมการกระจายแรงบิดของเพลาขับหน้า ให้มีความเหมาะสมในทุกสภาพเส้นทาง

 

ในส่วนของช่วงล่าง ควบคุมการทำงานของโช้คอัพด้วยระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) จัดให้มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน 911 Targa ระบบดังกล่าว จะทำการปรับระดับการตอบสนองของโช้คอัพโดยคำนึงถึงการขับขี่ที่นุ่มนวล และสมรรถนะการบังคับควบคุมพร้อมๆ กัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การขับขี่ และสามารถเลือกปรับรูปแบบการทำงานได้ 2 โหมด คือ Normal และ Sport

 



ต่อด้วยระบบ Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) ซึ่งรวมอยู่ในชุดเฟืองท้าย electronic rear differential lock สามารถกระจายแรงบิดที่ส่งไปยังล้อขับเคลื่อนได้อย่างอิสระ ระบบนี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Targa 4S และเป็นอุปกรณ์พิเศษสำหรับ Targa 4 นอกจากนี้ Targa ทั้ง 2 รุ่น ยังได้รับการติดตั้งระบบ Porsche Wet mode เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่นเดียวกับ 911 เจอเนอเรชันที่ 8 ทุกคัน เซนเซอร์ของระบบดังกล่าวภายในซุ้มล้อหน้า ทำหน้าที่ตรวจจับปริมาณน้ำที่ขังอยู่บนพื้นถนน ในกรณีที่ปริมาณน้ำมีมากจนส่งผลต่อการบังคับควบคุม ผู้ขับขี่จะได้รับสัญญาณเตือนและคำแนะนำให้เปลี่ยนรูปแบบ การขับขี่ไปยัง Wet mode การตอบสนองของตัวรถจะปรับสภาวะต่างๆ เข้าสู่ระดับที่เน้นเสถียรภาพ และการยึดเกาะสูงสุด



Porsche 911 Targa 4 ใช้ยางขนาด 235/40 บนล้อคู่หน้า 19 นิ้ว และยางขนาด 295/35 บนล้อคู่หลังขนาด 20 นิ้ว สำหรับ Targa 4S ติดตั้งยางขนาด 245/35 ในล้อคู่หน้า 20 นิ้ว และยาง 305/30 กับล้อคู่หลัง 21 นิ้ว ในส่วนของระบบเบรก Targa 4 ใช้จานเบรกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 330 มิลลิเมตร พร้อมคาลิเปอร์เบรกโมโนบล็อก 4 ลูกสูบ สีดำ ส่วน Targa 4S ติดตั้งคาลิเปอร์เบรกสีแดง ขนาด 6 ลูกสูบ ในล้อคู่หน้า และ 4 ลูกสูบ ในล้อคู่หลัง ประกบกับจากเบรกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 350 มิลลิเมตร ทั้ง 4 ล้อ และยังสามารถเลือกสั่งติดตั้งระบบ Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB) ได้ตามต้องการ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้