เรียนภาษา ต้องหาที่ปล่อยของ ชนัญญา โคกาอินทร์ เอกฝรั่งเศส ม.รังสิต

1013 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นภาษาที่สวยและมีเสน่ห์ที่สุดภาษาหนึ่ง ซึ่งเหตุผลนี้ก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ น้องฝ้าย หรือ นางสาวชนัญญา โคกาอินทร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต บอกเช่นกัน เธอเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่กล้าคิดกล้าทำ เราลองมาอ่านบทสัมภาษณ์ของเธอกัน ว่าเส้นทางการเรียนด้านภาษาของสาวน้อยคนนี้เป็นอย่างไรบ้าง



ฝ้ายจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายภาษา (ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส) จากประเทศอินเดีย ไม่เพียงภาษาที่เราจะนำมาใช้สื่อสารได้ ฝ้ายบอกว่า เรายังได้เรียนเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี โดยเฉพาะเรื่องอาหารด้วย

"เรียนด้านภาษา มีอะไรให้ค้นคว้าอีกเยอะเลยค่ะ ไม่เพียงเสน่ห์ของภาษา แต่ฝ้ายยังได้นำสิ่งที่เรียนมาไปประยุกต์กับอีกหลายๆ เรื่องในชีวิตเลยค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นรู้สึกประเทศอินเดียเขาจะเด่นด้านภาษา และการศึกษามีคุณภาพรวมทั้งสภาพแวดล้อมก็ดี เมื่อได้ไปสัมผัสจะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างจากสภาพแวดล้อมโรงเรียนไทยมากค่ะ หลักสูตรของโรงเรียนที่ประเทศอินเดีย มีหลายแบบ สำหรับโรงเรียนมัธยมปลายใช้หลักสูตร ICSE เป็นหลักสูตรต้นตำรับมาจากประเทศอังกฤษเมื่อครั้งที่ประเทศอินเดียเคยเป็นเมืองขึ้น หลักสูตรนี้สามารถนำไปสมัครเรียนระดับมหาวิทยาลัยได้เกือบทั่วโลกเลยค่ะ โดยที่เราไม่ต้องยื่นคะแนนเพิ่มเติม ตอนนั้นฝ้ายก็ถูกใจมากๆ กับระบบการเรียนของประเทศเขานะคะ เพราะนักเรียนไม่ต้องสอบเก็บคะแนนสะสม จะมีเพียงการสอบวัดผลกลางภาคและปลายภาคเท่านั้นค่ะ ถ้าเราได้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์จะต้องซ้ำชั้นทันทีค่ะ ไม่มีการสอบซ่อม นี่จึงเป็นเรื่องที่เด็กนักเรียนทุกคนจำเป็นต้องใส่ใจ ถึงแม้จะมีการแข่งขันสูง แต่เพื่อน ๆ จะยินดีช่วยกันเสมอค่ะ และจะพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ผ่านเกณฑ์ค่ะ"

 

ปล่อยของที่ประเทศเวียดนาม

เมื่อตอนปีสาม ฝ้ายได้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม จำได้ว่าตอนนั้นเป็นพื้นที่แรกๆ ที่ฝ้ายจะได้ใช้ภาษาฝรั่งเศสแบบตลอดเวลา นึจึงทำให้เกิดความประหม่าและแอบเกร็งเล็กน้อยค่ะ แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่เราอยากได้ปล่อยของที่เรียนมา เราต้องลุยค่ะ

"บรรยากาศในห้องเรียนที่นั่น เพื่อนๆ ชาวเวียดนามค่อนข้างมีความตั้งใจในการเรียนที่สูงมากค่ะ ยิ่งการได้รับมอบหมายงานการบ้านต่างๆ  พวกเขาจะไม่ทำขอไปที จึงทำให้พวกเรานักศึกษาไทยที่ไปนั่น ต้องปรับตัวกันนิดนึงค่ะ นอกจากนี้ ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาจากประเทศไหนก็ตาม แต่ทุกคนก็เกินคำว่ากลัวใช้คำผิด เรากล้าที่จะพูด สื่อสารออกไปเป็นภาษาฝรั่งเศสแบบไม่กลัวผิด เพราะมันจะทำให้เรามั่นใจและเรียนรู้ ในทุกๆ คลาสจะมีการโต้ตอบระหว่างครูและนักศึกษา เพื่อให้ได้เห็นมุมมองแลกเปลี่ยนทัศนคติระหว่างกัน




ปล่อยของที่ปารีส

นอกจากโครงการแลกเปลี่ยนที่เปิดโอกาสให้เราได้ไปปล่อยของแล้วนั้น ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ยังมีวิชาฝึกงานที่นักศึกษาสามารถเลือกไปฝึกงานในต่างประเทศได้

"ฝ้ายเลือกฝึกงานที่องค์กร Maison de la Thaïlande ที่กรุงปารีสค่ะ ตำแหน่งผู้ประสานงานค่ะ เหตุผลที่เลือกฝึกงานที่ฝรั่งเศส เพราะอยากลองใช้ภาษาในสถานการณ์จริงค่ะ โดยการฝึกงานในครั้งนี้จะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่มีคำแนะนำและความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ของอาจารย์ในภาควิชาภาษาฝรั่งเศสค่ะ การทำงานในกรุงปารีสนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ เพราะต้องทำงานท่ามกลางชาวฝรั่งเศสที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลักในการสื่อสาร ระบบการทำงานแบบฝรั่งเศสที่มีความแตกต่างจากไทยอยู่มาก สิ่งที่ประทับใจเลยคือ ในการทำงานร่วมกันกับชาวฝรั่งเศสนั้น จะมีความเท่าเทียมอยู่เสมอค่ะ ถูกคือถูก ผิดคือผิดค่ะ คนฝรั่งเศสสามารถแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ดี และไม่ก้าวกายสิทธิของกันและกันค่ะ การฝึกงานที่ประเทศฝรั่งเศสทำให้ฝ้ายมีความกล้าและความมั่นใจในการใช้ภาษาฝรั่งเศสมากขึ้นค่ะ"

 

รับมือกับเหตุการณ์ Culture Shock อย่างไร

แต่ละประเทศต่างก็มีขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เมื่อเราได้มีโอกาสไปเยือนถึงถิ่นแล้ว ก็คงไม่แปลกที่จะมีความตื่นตาตื่นใจกับความแตกต่าง

"จำได้ว่า Culture Shock ที่ประเทศอินเดีย น่าจะเป็นเรื่องการใช้ท้องถนนค่ะ ที่นั่นวัวจะเดินไปมา รถบนถนนจะต้องหยุดให้วัวไปก่อนเสมอ เพราะคนอินเดียถือว่าวัวเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญทางด้านศาสนา ต้องให้เกียรติค่ะ สำหรับประเทศเวียดนาม ผู้คนมักจะทิ้งเศษอาหารไว้บนพื้นของร้านอาหาร เพราะการนำเศษอาหารไว้บนโต๊ะจะทำให้เกิดความสกปรกระหว่างทานอาหาร นี่ก็เป็นมุมมองของเขา ทิ้งที่พื้นแล้วเก็บกวาดทีเดียว ส่วนประเทศฝรั่งเศส คนส่วนใหญ่เขาจะพึ่งพาตนเองมากกว่าขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น จะไม่ยุ่งเรื่องของกันและกัน  ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเปิดใจให้กว้าง ยอมรับความแตกต่าง และสิ่งที่มันแตกต่างนี้จะกลายเป็นความรู้ใหม่ค่ะ"

 

เคล็ดลับการเรียนภาษา

การเรียนภาษาสำหรับฝ้าย ต้องหมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นภาษาแม่ของเราเอง หรือภาษาต่างชาติก็ตาม ยิ่งเมื่อจำเป็นต้องสื่อสารด้วยการพูด สิ่งสำคัญคือต้องไม่กล้า และมั่นใจ วิธีการจดจำไม่เพียงการท่องจำที่เราทำกันมาตั้งแต่วัยเด็ก แต่ยังต้องลงมือ การเขียนจะช่วยให้เราจำตัวสะกดได้ การท่องจะทำให้เราจดจำเสียงได้ดีขึ้น การฟังและการออกเสียงตามจะทำให้เราเก่งมากขึ้น หากเราไม่เข้าใจตรงไหน ควรต้องมั่นคลายข้อสงสัย ประกอบการฝึกด้วยการดูหนัง ฟังเพลง จะทำให้เราปรับตัวให้คุ้นชิ้นกับภาษานั้นๆ มากขึ้น

 

งานที่ดีคืองานที่เราทำแล้วมีความสุข

การเรียนรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรม เป็นความรู้ใหม่ที่ฝ้ายรู้สึกว้าวค่ะ จึงอยากทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาษาและวัฒนธรรม ตอนนี้ก็ได้รับการตอบรับเข้าทำงานที่สมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพ ตำแหน่ง Chargée des inscriptions et de suivi des certifications เรียบร้อยค่ะ ภาระงานนอกจากติดต่อประสานงานแล้ว ยังต้องดูแลข้อมูลคอร์สเรียนและการสอบของสมาคมด้วยค่ะ ฝ้ายตั้งใจจะลุยกับงานแรกหลังเรียนจบนี้อย่างเต็มที่ จะไม่ทำให้เสียชื่อมหาวิทยาลัยรังสิตแน่นอนค่ะ

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้