เผยผลสำเร็จผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมโดยไม่ตัดกล้ามเนื้อ และการเปลี่ยนข้อเข่าเทียมด้วยเทคนิคระงับปวดรูปแบบใหม่

922 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รพ. กรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล เผยผลสำเร็จกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมด้วยเทคนิคไม่ตัดกล้ามเนื้อ (Direct Anterior Approach: DAA) และการเปลี่ยนข้อเข่าเทียมด้วยเทคนิคระงับปวดรูปแบบใหม่Radiofrequency โดยนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์นำวิถีและข้อเทียมรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ มาช่วยในการผ่าตัดเพื่อหาความเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ร่วมกับเทคนิคการผ่าตัดแบบทะนุถนอมเนื้อเยื่อไม่ให้บอบช้ำ และเทคนิคการระงับปวด ช่วยทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อยและฟื้นตัวไว ช่วยคืนการเคลื่อนไหว ให้ชีวิตฟิตเต็มที่ (Reboot Your Bounce)



นพ.พนธกร พานิชกุล ศัลยแพทย์ออโธปิดิกส์ เฉพาะทางด้านการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าและข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า เราได้ริเริ่มนำ เทคนิคการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ มาใช้ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยได้ทำการผ่าตัดผู้ป่วยเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมด้วยเทคนิคนี้ ไปแล้วกว่า 500 ราย พบว่า ผู้ป่วยทุกรายสามารถฟื้นตัวได้ไว เดินได้ตั้งแต่วันที่ผ่าตัด มีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก มีระดับความเจ็บปวดหลังผ่าตัดที่น้อยมากและประสบผลสำเร็จในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม 2 ข้างพร้อมกันให้แก่ผู้ป่วยไปทั้งหมด 52 ราย ไม่พบว่ามีหลุดของข้อสะโพกหรือผลแทรกซ้อนที่ต้องมีการผ่าตัดซ้ำแต่อย่างใด นอกจากนี้ทาง รพ. กรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล ยังประสบความสำเร็จในการนำเทคนิคการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อนี้ มาใช้ในการผ่าตัดซ่อมแซมและแก้ไขข้อสะโพกเทียมที่เสียหาย สึกหรอ จากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมในอดีต (Revision) ให้แก่ผู้ป่วยอีกหลายสิบรายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดแก้ไขข้อสะโพกเทียมสึกหรอ เสื่อมจากการใช้งาน ขายาวไม่เท่ากันหลังผ่าตัด ข้อสะโพกเทียมหลวม หลุด แตกหัก หรือติดเชื้อ เป็นต้น

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ จะใช้เทคโนโลยีการผ่าตัดด้วยคอมพิวเตอร์นำวิถีรุ่นใหม่ เรียกว่า JointPoint™ ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อช่วยระบุตำแหน่งของข้อสะโพกเทียมในขณะผ่าตัดให้แม่นยำมากขึ้น เลือกขนาดและวัสดุของข้อเทียมให้เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล และยังสามารถช่วยผ่าตัดให้ผู้ป่วยมีความยาวขาทั้งสองข้างให้เท่ากันหลังผ่าตัดอีกด้วย ซึ่งเทคโนโลยีตัวนี้จะไม่มีความจำเป็นต้องเจาะกระดูกของผู้ป่วยเหมือนระบบคอมพิวเตอร์นำวิถีหรือหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดรุ่นอื่นๆในอดีต ทำให้ผู้ป่วยมีการบาดเจ็บที่น้อยลงและฟื้นตัวได้ไวกว่าเดิม นอกจากนี้ทาง รพ. กรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล ยังได้เป็นผู้ริเริ่มนำข้อสะโพกเทียมรุ่นใหม่ ที่เรียกว่า Actis® Total Hip System ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อมาใช้ ซึ่งตัวข้อเทียมจะมีผิวสัมผัสที่ทำให้กระดูกเข้าไปยึดติดกับข้อสะโพกเทียมได้ดีขึ้นกว่าเดิม มีจะงอยที่สามารถป้องกันไม่ให้ข้อสะโพกเทียมจมหลังผ่าตัด และสามารถลดผลแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นในขณะผ่าตัดลงได้ ทำให้การผ่าตัดประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี



นอกจากนั้นเทคนิคการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ ยังมีข้อดีกว่าการผ่าตัดแบบดั้งเดิม เช่น ผู้ป่วยมีอาการปวดลดลง ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้ไวขึ้น เดินได้ทันทีหลังการผ่าตัดเนื่องจากไม่มีการตัดกล้ามเนื้อ ศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดสามารถวางตำแหน่งข้อสะโพกเทียมได้ดีขึ้น อัตราการหลุดของข้อสะโพกเทียมต่ำมาก มีความยาวขาที่เท่ากันหลังผ่าตัด มีขนาดแผลที่เล็ก สวยงาม สามารถซ่อนแผลผ่าตัดใต้ขาหนีบ หรือที่เรียกว่าBIKINI Incision และยังสามารถทำการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมได้ทั้งสองข้างพร้อมกันอีกด้วย

นพ.ศริษฏ์ หงษ์วิไล ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เฉพาะทางด้านผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าและข้อสะโพก กล่าวว่า สำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมด้วยเทคนิคระงับความปวดรูปแบบใหม่ เราได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบัน Joint Commission International (JCI) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ให้การรับรองมาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัยของโปรแกรมการผ่าตัดข้อเข่าเทียม โดยผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมที่ผ่านมา มากกว่า 500 ราย ทุกรายสามารถเดินได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถงอเข่าได้มากกว่า 90 องศาก่อนกลับบ้าน มีอัตราความพึงพอใจในการรักษาที่สูงมาก(99%) เราใช้โปรแกรมการรักษาที่ออกแบบเฉพาะบุคคล เพื่อตอบสนองคนไข้ที่มีสภาวะต่างกัน เริ่มตั้งแต่ก่อนผ่าตัด นำ Digital Template ช่วยวางแผนหาขนาดของข้อเข่าเทียมที่เหมาะสม รวมทั้งกระดูกที่จะถูกตัดออกว่าจะหนาบาง เล็กใหญ่ขนาดไหน และต้องเอียงทำมุมเท่าใด โดยเฉพาะกรณีที่มีความวิกลรูปผิดปกติมาก หรือกรณีที่เคยมีกระดูกหัก เคยผ่าตัดมาก่อน เราจะใช้เครื่องเอกซเรย์สองแกน Biplane Imaging (EOS) สแกนตั้งแต่กระดูกสันหลังจนถึงปลายเท้าเพื่อสร้างภาพสามมิติออกมาช่วยวางแผนก่อนการผ่าตัด มีการใช้เทคนิคระงับปวดระหว่างการผ่าตัดและช่วงที่อยู่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นเทคนิคที่เราริเริ่มนำมาใช้ในประเทศไทย เช่น การใช้จี้คลื่นวิทยุความถี่สูงที่เส้นประสาทรอบข้อเข่า ทำให้ผู้ป่วยแทบจะไม่มีอาการปวดหลังผ่าตัดเลย จึงมีการฟื้นตัวที่รวดเร็วมาก



นพ.มาร์วิน เทพโสพรรณ วิสัญญีแพทย์และแพทย์เฉพาะทางด้านระงับปวด กล่าวว่า ความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนไข้กังวล เราได้นำเทคนิคการระงับความเจ็บปวดหลากหลายชนิดเข้ามาใช้ในผู้ป่วยหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาหลากหลายกลุ่มร่วมกัน มีการบริหารยาลดความเจ็บปวดโดยการบล๊อคหลังตามทั่วไป รวมกับการให้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะส่วนที่จำเพาะเจาะจงกับหัวเข่า โดยการใส่สายเพื่อให้ยาชาในช่องแอดดั๊กเตอร์ที่บริเวณต้นขา เพื่อลดระดับความปวด โดยจะให้ยาชาเข้าไปที่เส้นประสาทที่เลี้ยงข้อเข่าและให้ยาชาต่อเนื่องแบบช้าๆ ซึ่งการให้การระงับความรู้สึกวิธีนี้ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่กล้ามเนื้อยังทำงานได้ทำให้ผู้ป่วยสามารถทำกายภาพบำบัดได้เร็วขึ้นอย่างมาก การทำกายภาพบำบัดที่ดีนี้ เป็นจุดสำคัญมากๆที่จะทำให้การรักษาประสบความสำเร็จ โดยที่ รพ. กรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ป่วยสามารถเดินได้ทันที 2-3 ชั่วโมงหลังผ่าตัด โดยที่ไม่มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อเหมือนการระงับปวดชนิดอื่นๆ

นอกจากนี้ในผู้ป่วยที่กลัวความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดมากๆ เทคนิคการจี้ด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูงที่เส้นประสาทรอบข้อเข่า (radiofrequency ablation) สามารถควบคุมความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดได้ดีกว่าและนานกว่าเป็นระยะเวลายาวนานหลายเดือนจนถึงปี หลักการนี้ทำโดยการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงจี้ที่เส้นประสาทที่รับความรู้สึกเจ็บปวด ทำให้เกิดความร้อนที่เส้นประสาทจนหยุดการทำงานไม่สามารถส่งกระแสความรู้สึกไปยังสมองได้ การรักษาทำโดยการใส่เข็มชนิดพิเศษบริเวณรอบเข่า 3 จุด ร่วมกับ x-ray และ ultrasound นำทางเข็ม เพื่อความถูกต้องและแม่นยำสูงสุด โดยการรักษาจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งในวิธีการจี้คลื่นวิทยุแบบมาตรฐาน (conventional radiofrequency) จะเป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงที่ให้พลังงานความร้อนอยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน มีการพัฒนาให้คลื่นพลังงานมีอุณหภูมิลดลงด้วยระบบ water-cooled technology โดยมีอุณหภูมิอยู่ที่ 60 องศาเซลเซียส มีผลให้ประสิทธิในการรักษาภาพสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดที่ลดน้อยลงมาก และฟื้นตัวได้ไวมากยิ่งขึ้น การจี้คลื่นวิทยุรอบหัวเข่าสามารถทำได้ในหลายกรณี ทั้งในผู้ป่วยที่มีข้อห้ามในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าแต่มีความเจ็บปวดทรมานที่ีมีต้นเหตุมาจากข้อเข่า หรือผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บเรื้อรังใดๆ ของข้อเข่าที่ไม่สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้



การให้การดูแลความเจ็บปวดสำหรับการผ่าตัดข้อสะโพกปัจจุบันได้ผลดีมาก โดยเฉพาะการทำร่วมกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแนวใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ (DAA) การให้การระงับความรู้สึกแบบต่อเนื่องในช่อง Fascia iliaca ทำให้เส้นประสาทหลายๆ เส้นที่ไปเลี้ยงสะโพกไม่ทำงานระหว่างการให้ยา ช่วงหลังการผ่าตัดจน 2-3 วัน ผู้ป่วยจะสามารถทำกายภาพบำบัดและพักฟื้นได้อย่างเต็มที่โดยแทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องความปวด

ทางศูนย์กระดูกและข้อ รพ. กรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล เราให้บริการ แบบ Total Joint Care ให้การดูแลรักษาแบบครบครัน ด้วยการผสมผสานวิธีการรักษาต่างๆ พร้อมด้วยประสบการณ์ทีมแพทย์ประจำและแพทย์ที่ปรึกษา มีความเชี่ยวชาญในการรักษามาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี พร้อมทีมแพทย์สหสาขาวิชา พยาบาล เจ้าหน้าที่ กายภาพบำบัดร่วมกันดูแลรักษาเพื่อให้ผู้ป่วยกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเราจัดให้ความรู้เกี่ยวกับโรคและการดูแลรักษาแก่ผู้ป่วยและญาติ และแพทย์ ร่วมกันเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้