แต่งรถ เหมือน แต่งเมีย เคลียร์ให้จบ ก่อนลงมือ !!!

1413 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพบางส่วน : www.google.com



ไม่ซิ่งก็ซี้, ของต้องมี, ขับเดิมๆ ยอมเดินดีกว่า ฯลฯ คงเคยได้ยินกันบ่อยๆ สำหรับ “วลีรถซิ่ง” ที่ชอบเอามาเป็น “แคปชั่นเด็ด” สำหรับกลุ่มรถแต่งซิ่ง ที่ต้อง “ขึ้นเฟส” พร้อมรถซิ่งของตัวเอง หรือ ของใครก็ไม่รู้ แต่ Goo ก็เอามาโพสต์



เรื่องปกติสำหรับคนที่ชอบรถ ก็อยากจะให้รถตัวเองดูสวย โดดเด่น เตะตามากกว่ารถเดิมๆ มันดูน่าเบื่อ เลยต้อง “ลงของ” กันหน่อย แรกๆ ก็ “ล้อ ยาง” ออกรถมา กลิ่นน้ำหอมเซลส์สาวๆ (น้องเขาพาไปลองรถน่ะ อย่าคิดมาก) ยังไม่ทันจางหาย ก็เลี้ยวเข้าร้านล้อแม็ก (จริงๆ คือ ล้ออะลูมินัมอัลลอย) ออกมาให้สะใจกันไป แล้วค่อยๆ ไปเรื่อยๆ เบาะ, เกจ์, โมดิฟายกล่อง จะ Remap หรือ กล่องพ่วง ก็ว่ากันไป แล้วมันก็จะไปเรื่อยๆ สุดแล้วแต่ทางของแต่ละคน



ครั้งนี้ ขอนำเสนอให้เข้าใจก่อนว่า “เราจะแต่งรถกันไปทำไม” ??? เพราะถ้าคุณไม่เข้าใจ และ แต่งตามๆ เขาไป คำว่า “ของต้องมี” แบบ “ไม่มีเหตุผล” มันก็จะกลายเป็นคำถามทีหลัง “กรูเสียเงินแต่งไปทำไมวะ” เราเองก็อยากจะให้คุณแต่งรถแบบ “มีทิศทาง” โดยรู้ว่าสิ่งที่เสียเงินไป มันจะ “ให้คุณ” หรือ “กลับกลายเป็นโทษ” กันแน่

 



 
อย่าแต่ง !!! ถ้าไม่ชอบ

มันก็เหมือน “แต่งเมีย” นั่นแหละ ไม่พร้อมดูแลก็อย่าแต่ง ก่อนอื่น ให้ตั้ง “สติ” และ ถามใจตัวเองก่อนว่า “ชอบแต่งรถจริงหรือเปล่า” ถ้าพื้นฐานคุณเป็นคนไม่ชอบแต่งรถเลย แต่เห็นเขาแต่งก็อยากจะแต่งมั่ง เพื่อนยุมั่ง แต่ก็มึนๆ อึนๆ ไม่รู้อีกจะแต่งอะไร ผมแนะนำว่า “ให้คุณอยู่เฉยๆ จะดีกว่า” เพราะไม่งั้น “เสียเงิน เสียเวลาเปล่าๆ ครับ” เก็บเงินเอาไว้ “เซอร์วิสรถ” ตามระยะดีกว่า ดีกว่าเอาเงินไปแต่งรถแบบมึนๆ แล้วถึงเวลารถต้องเซอร์วิส กลับไม่มีเงิน หรือ เสียดายเงิน ซะยังงั้น แบบนี้ “หายนะ” ครับ

 

อย่า (เพิ่ง) แต่ง !!! ถ้ายังไม่มีความรู้อันถูกต้อง

มันจะกลายเป็น “บานปลาย” และ “มีแต่เสีย” เพราะถ้าคุณไปเชื่อพ่อค้าแม่ค้าปากหวาน ที่ “ลับมีดรอ” จะเสียท่าเจอ “ปั่น” ให้ซื้อของที่ไม่ได้เหมาะสมกับคุณภาพเลยก็ได้ จะไปว่าร้านเขาอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะหน้าที่เขา คือ “ขายของ” แต่ถ้าเจอร้านที่มีคุณธรรมสักหน่อย เขาก็อาจจะแนะนำให้ได้ค่อยๆ เป็นสเต็ป พูดง่ายๆ คือ “ไม่ฟันคอขาดทีเดียว” เริ่มจากจุกจิกอันนี้ ค่อยๆ ไปต่ออันนี้ เพิ่มไปอีกอันนี้ ก็จะโดนระยะยาวได้เหมือนกัน ประมาณว่า “สอยนิ่มๆ” ถ้าคุณไม่มีความรู้ก็เหมือนโดน “ป้ายยา” ไปเรื่อยๆ อันนี้แหละแสบจริง

สิ่งที่คุณต้องทำก่อนเริ่มแต่งรถ คือ “ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนว่าจะแต่งอะไร เพื่ออะไร ได้อะไร” และ “ตั้งงบประมาณไว้” ให้แน่นอน คุณจะได้ “เลือกเองเป็น” ก่อนอื่น ลองศึกษาใน Social พวกคลับต่างๆ ที่ตรงกับรุ่นรถของคุณ เพื่อเป็น “แนวทางการเริ่มต้น” ส่วนใหญ่แล้วสมาชิกก็จะยินดีให้คำแนะนำครับ ไม่ต้องเขิน ตอนจีบกันเขินกว่านี้เยอะ แต่ก็ชี้ชัดหน่อย เช่น ขับรถรุ่นนี้ เน้นใช้งาน เน้นแต่งสวย อยากได้ช่วงล่างที่ดีขึ้น เบรกดีขึ้น มีงบประมาณเท่านี้ๆ ฯลฯ คุณแจงสเป็กไปให้ชัดเจน คำตอบจะได้ “ตรงประเด็น” มากขึ้น และจงเลือกพิจารณาเฉพาะ “Comment ที่มีเหตุผลรองรับ” เช่น การเปลี่ยนล้อและยางใหญ่ขึ้น คุณจะได้การเกาะถนนเพิ่มขึ้น แต่รถกินน้ำมันมากขึ้น” อะไรแบบนี้ ประเภท “สายยุ” เปลี่ยนเลย เอาเลย ของต้องมี ยิ่งใหญ่ยิ่งดี ต้องสุด ฯลฯ ต้องระวัง อ่านได้ครับ แต่ขอให้รู้ว่าอะไรควรเก็บมาพิจารณาแค่นั้น

 

อย่าแต่ง !!! ถ้าไม่มีเงินเหลือ

เพราะการแต่งรถ มันคือ “ของสิ้นเปลือง” อันนี้คุณต้องทราบ ถ้าคุณซื้อรถมาแล้ว ยังมี “ภาระเงิน” ตึงๆ ก็จง “เก็บความอยากไว้ก่อน” เพราะ “การแต่งรถมันต้องใช้เงิน” เอาง่ายๆ แค่ล้อกับยางก็ “หลักหมื่น” เข้าไปแล้ว แม้จะมี “โปรยั่วๆ” ลด ผ่อน อะไรมากมาย แต่ขอให้คำนวณดีๆ ว่า “ไหวจริงไหมในระยะยาว” อย่าแต่งแบบ “หน้ามืด” แต่เสือกไม่ดูกระเป๋าตัวเอง ประเภท “Goo ต้องสุด” อะไรเทพๆ อะไรกำลังมา เพื่อนมีอะไรต้องจัดให้หมด ร้านแต่งรถยินดีต้อนรับท่านเป็นลูกค้าชั้นดี ที่ “รูดเร็ว โอนไว” หนี้บานจะหาว่าไม่บอกกัน...

และจง “พึงระลึก” ไว้เสมอว่า ของแต่งที่ซื้อมานั้น เมื่อใส่รถมาแล้ว ต่อให้แค่ “แกะ” ห่อ มันก็จะกลายเป็นของมือสองทันที และ “ไม่มีราคา” ยิ่งของแต่งแฟชั่นแบบเกรดหน่อมแน้มอันนี้แน่นอน เผลอๆ แต่งมากไปจน “ไม่มีตังค์ผ่อนค่างวด” โดนยึดรถ หรือ จำเป็นต้องขายรถ แต่อย่าหวังว่าจะบวกค่าของแต่งเข้าไปกับตัวรถด้วยได้นะแจ๊ะ ที่แต่งไปตีเป็น “ศูนย์” ไว้ได้เลย เผลอๆ จะโดนกดราคาอีก (แต่เตนท์รถเขาเอาไปขายก็ดันบวกค่าของแต่งไปด้วยนะ 555) ระวังไว้แล้วกัน จะได้ไม่ช้ำใจดราม่ากันทีหลัง

 

อย่าแต่ง !!! ตามคนอื่น

เพราะเจอบ่อยๆ กับ “คำยุจากคนรอบด้าน” เฮ้ย ตอนนี้ “กำลังมา” ไอ้คำนี้แหละที่ผมก็สงสัย “มรึงมาแล้วยังไงวะ” กับ “ของต้องมีนะ” ไอ้ผมก็สงสัยต่อ “กรูวมีแล้วยังไงวะ” ก็ไม่เชิงให้ปิดกั้น แต่เราก็รู้ไว้ แล้วเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเรา การแต่งรถมันมีหลายแบบ จำให้ขึ้นใจครับ “รถโชว์ กับ รถใช้ คนละเรื่องกัน” บางคัน “แต่งโชว์” ออกงาน จะทำสุดแค่ไหนก็ได้เพราะพวกนี้ส่วนใหญ่มีเงินตั๋งๆ และมีรถใช้งานปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณมีรถใช้งานเพียงคันเดียว ก็ขอให้ทำแบบ “พอสนุก” สำคัญ คือ “ต้องไม่มีผลเสียกับการใช้งานปกติ” ไม่ใช่จับไปโหลดซะจมพื้นจนกระเด้งกระด้างไส้แตก ล้อล้นๆ วิ่งไปขูดยางไป รื้อภายในเกลี้ยง จะเอาฟิลลิ่งรถแข่งสนาม มันกลายเป็น “ยานภาระ” เว้นถ้าอยากลองฟิลลิ่ง “ขับไปรับเมียก็ด่า ออกมาจ่าก็โบก” ก็เอาเลย


เริ่มแต่งอะไรก่อนดีนิ

ของแต่งมีเป็นร้อยเป็นพันอย่าง เอาให้หมดชาตินี้ก็ไม่จบ ดังนั้น ผมขอพูดถึงเพียง “ส่วนหลัก” ที่มีผลกระทบกับการขับขี่ ส่วนของ “กิ๊บก๊าบ” อันนั้นแล้วแต่ชอบ ส่วน “ความแรง” ขอไว้กล่าวถึงในขั้น Advance ครั้งต่อๆ ไปตามรายสะดวกครับ

ล้อและยาง : ตามธรรมเนียมมือใหม่ต้องจัดก่อน แต่ต้องระวังนะครับ “ขอให้เลือกของดีมีมาตรฐาน” เพราะมันหมายถึง “ชีวิต” เลยนะครับ ตอนนี้ล้อและยางมันมีหลายเกรด ของเกรดราคาถูกมากๆ แต่ขอให้ “ระวังมากๆ” เช่นกัน อย่างที่เห็นกัน ล้อคุณภาพต่ำ ราคาถูก (จริงๆ บางทีก็ไม่ถูกหรอก) จะรู้อีกทีก็ตอนตกหลุมแล้ว “แตกเป็นเสี่ยงๆ” ทำให้เห็นภาพสยองกันบ่อยๆ จริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องเบิกล้อนอกแพงๆ ก็ได้ “ล้อแบรนด์ไทย” ที่มีมาตรฐานมีให้เลือกเพียบ ผมเชียร์ของคนไทยด้วยกันนะเอาจริงๆ ส่วน “ยาง” มันเป็นส่วนเดียวที่ติดกับพื้นถนน อันนี้ยิ่งต้องเลือกยางที่ “แบรนด์คุณภาพมาตรฐาน” ไว้ก่อนจะดีมาก จะไทย จะเทศก็ได้นะ แต่ขอดูที่มัน “มีทรง” หน่อย ไม่ใช่มาจากไหนก็ไม่รู้ บริษัทตัวแทนจำหน่ายก็ไม่มีตัวตนที่แน่นอน เลี่ยงได้เลี่ยงเถอะครับ ขับแค่ 100 เดียว ยางระเบิดก็เสียวยิ่งกว่านั่งจรวดไปอวกาศอีกครับ



ชุดแอโรพาร์ท : พูดง่ายๆ ก็พวก “ชุดสปอยเลอร์รอบคัน” นั่นแหละครับ อันนี้ขอพูดถึงเฉพาะ “กรณีคุณซื้อมาแต่งเอง” นะครับ การเลือกใช้ อย่า “ใหญ่เวอร์อลังการบานบุรี” จะสร้างภาระกับตัวรถ ผิดกฏหมาย และ ไปเกี่ยวโดนคนอื่นเขา ขับก็ลำบาก ติดไปรถวิ่งแย่ลงอีกเพราะ “ต้านลม” และ “หนัก” บดบังทัศนวิสัย เอาแบบ “พอดีๆ” เรารถบ้าน ไม่ใช่รถแข่ง หรือ Super car ที่เขาคำนวณมาอย่างดีเพื่อความเร็วสูงโดยตรง ชุดแบบนั้น “หลักล้าน” นี่เรื่องปกติมาก พยายามเลือกวัสดุที่ดีหน่อย เอาง่ายๆ แค่จับดูก็รู้แล้วว่ามัน “ก๋องแก๋ง” ไหม และ “พลิกด้านหลังดูด้วยตาตัวเองก่อนใส่” จะเห็นได้ชัดถึงคุณภาพชิ้นงาน แต่ส่วนใหญ่จะแนว “ทิ้งรถ” เจอบางร้าน ตอนดูชิ้นงานโชว์โคตรดีเลย แต่พอเผลอๆ เอาของเกรดต่ำกว่ามาใส่รถ มองเผินๆ ก็เหมือนกัน ไม่รู้หรอกเพราะใส่กับรถไปแล้ว อีกอย่าง ควรจะติดตั้งให้มั่นคง แข็งแรง และ “ไม่ควรทำร้ายตัวรถเด็ดขาด” ระวังนะครับ สำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้ทัน พวก เจาะ ยึด แบบมักง่าย รถคุณก็ช้ำ ขนาดไม่ได้มาตรฐาน เบี้ยวไปเบี้ยวมา จนงงว่านี่ตรงรุ่นรถกูจริงป่าววะ ใส่ก็ไม่สวย วิ่งแป๊บๆ แยกร่างบินไปโดนรถชาวบ้านเขาอีก แบบนี้ผมว่าคุณเก็บเงินไว้เฉยๆ ให้รถมันดูเดิมๆ ดีกว่าครับ

ช่วงล่าง : หลักๆ ก็ “ช็อกอัพ” หรือ “โช้คอัพ” เดี๋ยวนี้ก็มาพร้อม “สปริง” แบบ “สตรัทปรับเกลียว” ปรับความสูงได้เลย อันนี้ออกจะวัยรุ่นหน่อย พอเปลี่ยนล้อมาแล้วก็ต้อง “จัดฟิตเมนต์” หรือ “จัดทรง” ให้มันพอดี แต่คุณก็ต้องยอมรับว่ามันก็ต้องมีอาการ “กระเด้ง กระเทือน” เพิ่มขึ้นแน่ๆ ที่โฆษณาแบบ “นุ่ม หนึบ ไม่กระด้างเลย” เหมือนขี่เมฆบนสวรรค์ แบบนั้นมีครับ ทั้งนุ่ม ทั้งเกาะสุดๆ แต่ราคามันก็ย่อมแพงสุดๆ เป็นหลักแสน หลายแสน ไม่ใช่ระดับ Beginner ราคาน่ารักแน่ๆ ถ้าคุณเป็นมือใหม่ และขับใช้งานอยู่ ขอให้ขับ “ช่วงล่างเดิม” ไปก่อน แล้วดูว่าพอเพียงมั้ย ส่วนใหญ่หลายคนขับในเมืองแทบจะคลาน ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรอก หรือ สายรถบ้าน ถ้าอยากอัพเกรดให้ขับดีขึ้น เพราะรถใหม่หลายรุ่นช่วงล่างก็ห่วยแตกจริงๆ นั่งก็ไม่นิ่ม กระด้าง ไม่ว่านะ เสือกโยนไปโยนมา เกาะถนนก็งั้นๆ ซะอีก แบบนี้จะซื้อโช้คอัพแบบที่ “ใส่กับสปริงเดิมได้เลย” ก็โออยู่นะ ไม่ต้องโหลด แต่ได้ความเฟิร์มมากขึ้น



เครื่องยนต์ : เดี๋ยวนี้ของแต่งมากมาย แรงง่ายๆ แค่ “ใส่กล่องจูนเพิ่ม” หรือ “รีแม็พ” กล่องเดิม เพื่อเรียกสมรรถนะของเครื่องยนต์ให้ออกมา เนื่องจากเครื่องเดิมจะถูกจำกัดด้วยเรื่องของ “ค่ามลพิษ” ที่ต้องผ่านมาตรฐาน รวมถึง “อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง” เลยไม่สามารถปล่อยม้าออกมาอาละวาดได้เต็มที่นัก ไม่แปลกที่คนจูนจะมีมากมายมากกว่าผักตบในแม่น้ำ แล้วก็ “ขยับสเต็ป” ไปเยอะแยะ ใส่นู่นใส่นี้ ไปยัน “เซ็ตเทอร์โบ” ถ้าอยากแรงสุดๆ อ่ะนะ แต่ ในเรื่องนี้ สำหรับ “มือใหม่” ผมไม่แนะนำให้ยุ่งกับเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด เพราะการโมดิฟายนั้น คุณต้องระลึกเสมอว่า “ความเร็ว ความแรง ควบคู่กับความสิ้นเปลือง และ ความเสียหายเสมอ” เดี๋ยวจะเดือดร้อนบานปลายเสียเปล่าๆ ให้มีประสบการณ์และงบเหลือๆ ก่อน ค่อย “หาทำ” นะครับ



ก็จะมีอีกมุมแบบ “หยิน หยาง” ในดำมีขาว ในขาวมีดำ มีคนชอบ ก็ต้องมีคนไม่ชอบ ก็จะมีคำพูดว่า “แต่งรถไปทำไม” ไม่ต้องมองคนอื่นไกลหรอก “คนในบ้านนี่แหละ” จริงๆ แล้วแต่งรถ ไม่ใช่เรื่องผิด เป็นสิทธิความชอบส่วนบุคคล แต่การแต่งรถนั้นจะต้อง “ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร” รวมไปถึง “ต้องแต่งเพื่อเพิ่มสมรรถนะ ไม่ใช่บั่นทอนสมรรถนะ” ที่สำคัญ “ไม่ทำอะไรที่ผิดกฏหมาย” หรือ “ขับรถเร็ว แข่งรถ บนท้องถนน ทำให้คนอื่นเดือดร้อน อันตราย” แบบนี้ได้แจ้งเกิดและดับแบบโซเชียลกระหน่ำ ครั้งนี้ ขอปูพื้นฐานจริงๆ ก่อนสำหรับมือใหม่ ครั้งหน้า ลองมาดูกัน ว่าการแต่งรถแบบ “มโน” จะส่งผลอะไรกับเราบ้าง
 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้