เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย มาใส่ใจเช็คสภาพและเปลี่ยนยางรถยนต์กันเถอะ

3137 จำนวนผู้เข้าชม  | 

หากพูดถึงความปลอดภัยในการโดยสารรถรถยนต์ขณะรถวิ่งอยู่บนถนน นอกจากการติดกล้องติดรถยนต์เพื่อไว้เก็บหลักฐานยามเกิดอุบัติเหตุหรือป้องกันการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ แล้ว ส่วนสำคัญที่เราต้องฝากชีวิตไว้ค่อนข้างมากนั่นก็คือยางรถยนต์ เพราะมันคือส่วนที่สัมผัสพื้นถนนทั้ง 4 ล้อ หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าพื้นที่ผิวสัมผัสของหน้ายางแต่ละเส้นในขณะที่รถวิ่งหรือจอดนั้นจะมีอยู่เพียงแค่ประมาณหนึ่งฝ่ามือเท่านั้นเอง ซึ่งนอกจากจะรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารในรถทั้งหมดแล้ว  ยังต้องรองรับน้ำหนักรถและการบรรทุก , ลดความสั่นสะเทือน, บังคับทิศทางในขณะเลี้ยว, เป็นตัวถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ลงสู่พื้นถนน, มีส่วนช่วยในการหยุดรถ, รีดน้ำในขณะที่รถวิ่งบนทางเปียก

ฉะนั้นนอกจากเครื่องยนต์ที่ใช้การได้ดี และการขับขี่อย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยแล้ว การตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรมีความรู้ติดตัวไว้ วันนี้เราจึงมีสาระดีๆ มาฝากกัน นั่นก็คือวิธีการตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์ด้วยตนเอง วิธีการเลือกซื้อยางรถยนต์ทั้งมือ1 มือสอง2 รวมถึงการเปลี่ยนยางรถยนต์และการดูแลรักษายางรถยนต์

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยนยางรถยนต์

 

ยางรถยนต์ถึงระยะเวลาหมดอายุ

ยางรถยนต์จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2 ปี หรือที่ระยะการวิ่งราว ๆ 20,000 – 50,000 กิโลเมตร เราสามารถเช็คอายุยางรถยนต์ได้จากตัวเลข 4 ตัวที่บริเวณขอบยาง โดย 2 ตัวแรกหมายถึงสัปดาห์ที่ผลิต และ 2 ตัวหลังหมายถึงปี ค.ศ. ที่ผลิต



เนื้อยางเสื่อมสภาพ

หากคุณอยากทราบว่าในขณะนี้เนื้อยางรถของคุณเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง สามารถเช็คได้ง่าย ๆ เพียงใช้เล็บจิกลงไปบทเนื้อของยาง หากเนื้อยางมีลํกษณะที่แข็งจนเล็บจิกไม่ลง แสดงว่ายางเริ่มเสื่อมสภาพ ก็ถึงเวลาแล้วล่ะที่คุณควรจะเปลี่ยนยางรถยนต์

 



ดอกยางสึก ร่องยางตื้น

ดอกยางคือส่วนที่อยู่บนหน้ายาง ซึ่งจะสัมผัสพื้นผิวถนนตลอดเวลาในขณะรถวิ่ง ส่วนร่องยางนั้นเป็นส่วนที่ลึกลงไปจากหน้ายาง หรือร่องที่อยู่ระหว่างดอกยาง ทำหน้าที่รีดน้ำในขณะที่รถวิ่งบนทางเปียกหรือขณะมีฝนตกหนัก หากดอกยางสึกหลอมากๆ ก็จะไม่มีร่องยางช่วยรีดน้ำออกจากหน้ายาง รถของคุณก็จะลื่นจนไม่สามารถบังคับทิศทางได้ ฉะนั้นเราควรเช็คอายุยางรถยนต์จากดอกยางที่ต่ำที่สุดที่รถยนต์จะรับอยู่ที่ราว 1.6 มิลลิเมตร หรือสังเกตได้จากสะพานยาง เมื่อไหร่ที่ดอกยางนั้นเริ่มสึกจนถึงสะพานยางนั่นแสดงว่ายางรถยนต์ของคุณหมดอายุการใช้งานแล้ว เรียกง่ายๆ ว่าเป็นตัวบ่งบอกเวลาของการเปลี่ยนยางเส้นใหม่ที่ผู้ผลิตกำหนดเอาไว้เพื่อความปลอดภัย

 

ยางมีอาการบวม หรือมีรอยแผล

แม้ยางรถยนต์จะมีการระบุุวันเวลาของอายุการใช้งานไว้ แต่อีกหนึ่งอาการที่บอกเราว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์แล้วล่ะ นั่นก็คือการที่ยางรถยนต์ของคุณมีรอยขีดข่วนขนาดใหญ่ หรือมีอาการบวมรวมถึงล่อนเกิดขึ้น โดยเฉพาะหากเคยปะยางมาแล้วถึง 2 ครั้งก็ควรที่จะรีบเปลี่ยนยางเช่นเดียวกัน

 

วิธีดูแลรักษายางรถยนต์และล้อแม็ก

 

 

เช็คลมลมยางอย่างสม่ำเสมอ

ความดันลมยางมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อความปลอดภัยในการขับขี่ เราควรตรวจเช็คความดันลมยางให้ถูกต้องตามที่คู่มือของรถแต่ละรุ่นกำหนดไว้ ตรงนี้เราสามารถดูจากคำแนะนำในคู่มือที่มีติดมากับรถ ควรเช็คลมยางรถยนต์อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง  ไม่ควรเติมลมยางให้แน่นจนเกินไป เพราะขณะที่ขับขี่อากาศในล้อจะเกิดการพองตัวจากความร้อนที่เพิ่มขึ้นซึ่งหากขับรถในความเร็วและอุณหภูมิสูงอาจจะทำให้ยางระเบิดและเกิดอุบัติเหตุตามมาได้ นอกจากนี้ไม่ควรขับรถขณะที่ล้อแบน หรือลมยางทั้ง 4 ข้างไม่เท่ากัน เพราะจะทำให้รถยนต์เสียสมดุลในการขับและจะส่งผลต่อเครื่องยนต์ ทำให้ต้องใช้น้ำมันที่มากขึ้น ส่งผลให้อายุการใช้งานยางรถยนต์สั้นลงตามไปด้วย

 



 
ได้เวลาสลับยาง

อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ขับรถควรปฏิบัติและไม่ควรละเลย นั่นก็คือการสลับยางรถยนต์ เพราะการสลับยางอย่างสม่ำเสมอนั้น จะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางและเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ เนื่องจากเวลาที่รถวิ่งนั้นยางจะเกิดการสึกหรอที่ไม่เท่ากัน จึงควรมีการสลับยางทั้ง 4 ล้อ เพื่อรักษาสมดุลของล้อกับยาง และระบบเครื่องยนต์อีกด้วย

 

ตั้งศูนย์ล้อทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนยาง

ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนยางรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นเส้นใหม่หรือเส้นเก่า ควรจะต้องมีการตั้งศูนย์ล้อใหม่ หรือมีการเช็คศูนย์ล้อทุก ๆ 6 เดือน ซึ่งจะทำให้การขับขี่นั้นสมดุลและสามารถบังคับพวงมาลัยรถยนต์ได้ง่ายขึ้น

ทุกคนคงจะเห็นแล้วว่าการเช็กอายุยางรถยนต์นั้นไม่ยากเลย ใครที่มีรถยนต์แล้วใช้เป็นกิจวัตประจำวันก็อย่าลืมหมั่นดูแลรักษาและเช็กอายุยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ถ้ายางเราไม่ดีแล้วก็คงถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนยางรถยนต์เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยของตัวเราเองและผู้ร่วมทาง ที่สำคัญการติดกล้องติดรถยนต์และ GPS เสริมก็เป็นสิ่งที่ดี

Shopee 11.11 Big Sale กลับมาอีกครั้งปังกว่าเดิม! จัดโปรปังแน่นตารางตลอดแคมเปญ มาพร้อมส่วนลดมากกว่า 50% ทุกวัน และ Flash Sale รวมไอเท็มฮอตราคาเริ่มต้นเพียง 9 บาท! พร้อมโค้ดส่งฟรีจุกๆ ขั้นต่ำ 0 บาท! เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม - 11 พฤศจิกายน 2020 นี้เท่านั้น!

เพลิดเพลินไปกับดีลเด็ดจากหลากหลายหมวดหมู่สินค้า ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางและความงาม ของแต่งบ้าน เกม กล้อง คอมพิวเตอร์ กีฬา ฯลฯ และอย่าลืมเก็บโค้ดส่วนลด 50% ทุกเที่ยงคืนมาช้อปไอเท็มเด็ดจากร้านดังได้ทุกวัน!

สำหรับคนที่ชอบซื้อของใช้ในราคาสุดคุ้ม รอช้อปที่ Shopee Mart Big Sale ได้เลย! ดีล Grocery อาหาร ขนม และของใช้ในบ้านสุดปังรวมอยู่ที่นี่แล้ว!


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้