จริงเหรอรถยนต์ EV ควรจะเป็นรถยนต์คันที่ 2 ของบ้าน?

1766 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โดย : สุดนัย

หลายคนพูดกันว่ารถยนต์ EV ควรจะเป็นรถยนต์คันที่ 2 ของบ้าน เนื่องจากข้อจำกัดของรถ EV ทั้งในด้านระยะทางและสถานที่ชาร์จแบตเตอรี่ระหว่างการเดินทาง ทำให้หลายคนกังวลในการใช้งานรถยนต์ EV 100% หากต้องใช้งานอย่างจริงจังในทุกสภาพและในเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่นมีธุระด่วนหรือรถติดน้ำท่วมท่ามกลางการจราจรหนาแน่น เป็นเวลานานๆ ฉะนั้นคงต้องเป็นคนมีเงินพอสมควรแล้วละมั้งครับ ถึงจะซื้อรถ EV ได้ เพราะต้องมีรถเครื่องยนต์สันดาปภายในไว้เป็นสำรองอีก 1 คัน ด้วยเหตุนี้หลายท่านยังลังเลและมีคำถามคาใจเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆของการใช้รถ EV 

ทว่ามีผู้ใช้รถท่านหนึ่ง ที่ใช้รถ EV คันเดียวอย่างจริงจังมาแล้วถึง 2 ปีกับ 5เดือนกับระยะทางการใช้งานมาแล้ว 158,000 กิโลเมตร  โดยเราได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ใช้รถท่านนี้ ถึงการใช้รถ EV ในชีวิตประจำวันของเขา นั่นก็คือ คุณนันทพัทธ์ ชื่นฤดี 

คุณนันทพัทธ์ ชื่นฤดี เป็นเจ้าของรถ mg zs EV รุ่นแรกที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ขณะนั้นราคาประมาณ 1,200,000 บาท ไร้การสนับสนุนจากรัฐบาลเหมือนทุกวันนี้ แต่ในขณะนั้นก็ถือเป็นราคาทีเหมาะที่สุด และสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย ประเด็นที่สำคัญคุณนันทพัทธ์ซื้อ เพราะความชอบและอยากลองเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งตั้งใจซื้อมาใช้งานเป็นรถคันเดียวไม่มีรถสันดาปภายในมาสำรอง

ใช้งานหนัก ใช้จริง ชีวิตอยู่ในรถเป็นหลัก

คุณนันทพัทธ์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อตัดสินใจซื้อ EV มาเป็นรถใช้งานคันเดียว ก็ใช้งานอย่างเต็มที่ ด้วยหน้าที่การงานที่ทำให้ต้องวิ่งขึ้นล่องติดต่องานข้ามจังหวัดเป็นประจำในช่วง 2 ปีก่อนสถานที่ชาร์จแบตเตอรี่ยังน้อยกว่านี้มาก ไม่สะดวกเท่าปัจจุบัน แต่ก็ใช้การวางแผนเส้นทาง หาจุดแวะชาร์จไฟก่อนเดินทางได้ทุกครั้ง พอใช้งานมาถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะไปไหนก็แล้วแต่ จะใช้เวลาในการเดินทาง
ตระเตรียมที่แวะชาร์จไฟระหว่างทางไม่เกิน 5 นาทีก็ออกเดินทางได้แล้ว

ใช้ก่อน ประหยัดก่อน

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการใช้รถเติมน้ำมันกับใช้ไฟฟ้า ที่ใช้งานมากว่า 150,000 กิโลเมตร ถ้าเป็นรถที่ใช้น้ำมันเบนซินต้องจ่ายค่าน้ำมันไปแล้วกว่า 450,000 บาท (อ้างอิงจากรถคันเก่าของคุณนันทพัทธ์เครื่องยนต์ 1,500 ซีซี) แต่รถ mg zs EV คันนี้จ่ายค่าไฟไปน้อยกว่านั้นมากๆ เพราะ ถึงปัจจุบันนี้ก็ยังเน้นใช้สถานีชาร์จของ ปตท. ซึ่งให้ชาร์จไฟฟรีมาจนถึงปัจจุบันจากและจากการจดบันทึก รวมแล้วกว่า 80,000 กิโลเมตรของการใช้งาน คุณนันทพัทธ์ ชาร์จไฟฟรีจาก PTT EV ถ้าคิดเป็น ค่าน้ำมันที่ประหยัดไปได้ ก็จะประมาณ 240,000 บาท จึงขอขอบคุณ ปตท.มา ณ ที่นี้ด้วยครับ คุณนันทพัทธ์ กล่าว

สมรรถนะ ของรถ EV

ตามสเปคของรถ mg zs EV รุ่นแรก มีพละกำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร คุณนันทพัทธ์บอกว่า เป็นรถที่ขับสนุกเร่งแซงทันใจตามสไตล์รถไฟฟ้า ที่มีแรงบิดมาเต็มที่ไม่ต้องรอรอบกลายเป็นรถที่ขับดี ทั้งที่แรงม้าไม่ได้มากเมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนักของรถ และยังได้ทดสอบสมรรถนะแบบสมบุกสมบัน โดยการลุยน้ำแบบไม่คาดคิดเพราะเกิดน้ำท่วม ระหว่างทางไปทำงาน ลุยน้ำลึกประมาณ 40 ซม. แบบสบายๆเป็นระยะทาง ถึง 2-3 กิโลเมตร โดยที่ไม่มีอะไรเสียหายและหลังจากนั้นก็ไม่ได้นำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการแต่อย่างใด


การบำรุงรักษา

คุณนันทพัทธ์ ได้เล่าให้ฟังถึงการบำรุงดูแลรักษาตามระยะ ตลอดกว่า 158,000 กิโลเมตร (แบตเตอรี่เสื่อมไปเพียง 8% )ไม่มีอะไรที่ต้องทำเป็นพิเศษเพียงแค่นำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการตามระยะทุก 10,000 กิโลเมตร โดยรวมค่าใช้จ่ายจากการเข้าศูนย์บริการทุกระยะจนถึงณปัจจุบัน รวมทั้งหมดประมาณ 8,600 บาท ที่แพงที่สุด ก็คือระยะ 80,000 กิโลเมตร เสียค่าใช้จ่ายไปประมาณ 6,000 บาทเพราะเป็นการเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งหมด นอกจากนั้น แค่เป็นการตรวจเช็คทั่วไป บางครั้งใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายก็แค่หลักร้อยต่อครั้งเท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องค่าประกันภัยชั้น 1 ก็ไม่ได้แพงกว่ารถยนต์ทั่วไปเพราะคิดจากราคารถเหมือนปกติ ปีแรก 29,000 บาท ( แถมมาตอนออกรถ) ปีต่อมาก็ลดหลั่นตามทุนที่ลดลง

ข้อจำกัดที่สำคัญ คือพักอาศัยอยู่คอนโดมิเนียม

ซึ่งก็จะลำบากกว่าผู้ที่พักอาศัยในบ้าน เพราะที่คอนโดมิเนียมไม่มีที่สำหรับชาร์จรถไฟฟ้า เพราะฉะนั้นก่อนเข้าที่พักทุกครั้ง คุณนันทพัทธ์ ต้องแวะเติมไฟที่สถานีชาร์จก่อน ทุกครั้ง ข้อนี้ก็เลยถามคุณนันทพัทธ์ว่า ไม่เบื่อเหรอทำงานมาเหนื่อยๆ ต้องมานั่งรอชาร์จไฟเข้ารถก่อนทุกครั้ง คุณนันทพัทธ์ตอบว่า ด้วยความอยากใช้ ใช้แล้วชอบ เลยคิดว่า กลับเข้าคอนโดเร็วก็ไปนั่งดูทีวี เล่นมือถืออยู่ดี เลยคิดซะว่าก็มานั่งเล่นมือถือในรถ เปิดแอร์เย็นๆชาร์จไฟไปด้วย ไม่เกิน ชั่วโมงค่อยเข้าห้องพักไปพักผ่อนก็ได้

คุณนันทพัทธ์ ชื่นฤดี ผู้ใช้รถ EV ตัวจริง ใช้งานเต็มที่โดยข้ามข้อจำกัดในทุกด้าน มีรถแค่คันเดียวใช้ทุกวัน ใช้เยอะ ขับข้ามจังหวัด พักอาศัยที่คอนโดมิเนียม ต้องแวะชาร์จไฟ ก่อนจะกลับเข้าที่พักทุกคืน แต่ก็คิดบวก คุณนันทพัทธ์ก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆที่คน พูดถึงกัน จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปทั้งหมด แต่เมื่อคิดถึงความประหยัดที่ได้ คุณนันทพัทธ์ก็บอกว่า คุ้มมากๆ จนนึกไม่ถึงว่าจะคุ้มขนาดนี้ แต่ก็ยังบอกแบบติดตลกว่า เงินที่ประหยัดได้ "มันก็อยู่กับไก่ทอดและกาแฟที่ปั๊มน้ำมันหมดแล้วล่ะครับ "

สุดท้าย คุณนันทพัทธ์บอกอย่างมั่นใจว่า ซื้อรถคันต่อไป ก็เป็นรถ EV 100% แน่นอน
แต่ขอใช้คันนี้ อีกแสน สองแสนกิโลให้คุ้มสุดๆ ไปก่อนนะครับ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้