BenQ จัดกลยุทธ์รอบด้านมุ่งเป้ารายได้ 800 ล้านในปี 60

1014 จำนวนผู้เข้าชม  | 

          BenQ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์นวัตกรรมดิจิตอลไลฟ์สไตล์ เผยยอดขายรวมบริษัทสิ้นปี 59 แตะ 700 ล้านบาท คาดเพิ่มเป็น 800 ล้านบาทในปี 60 ล่าสุดเปิดตัว W11000 โฮมเธียเตอร์โปรเจคเตอร์ DLP 4K Ultra HD เครื่องแรกของโลกที่ได้รับการรับรอง THX®Certification ตรงตามข้อกำหนดของ CEA ด้วยคุณภาพคุ้มราคา เจาะกลุ่มลูกค้า Hi-End

          นายพัทธกร พรศิริธิเวช ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในปี 2559 บริษัทคาดว่าจะทำยอดขายได้ประมาณ 700 ล้านบาท เพราะ BenQ ยังมีโปรเจคใหญ่รออยู่อีกหลายโปรเจคที่จะปิดภายในสิ้นปี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์ถือว่าประสบความสำเร็จใน Segment Premium อาทิ BenQ 1080p หรือโฮมโปรเจคเตอร์ โดยในในไตรมาส 3 BenQ มีมาร์เก็ตแชร์สูงถึง 58% เป็นอันดับ 1 ในตลาดประเทศไทย

          ล่าสุดได้ทำการเปิดตัวโฮมโปรเจคเตอร์ “W11000” โฮมเธียเตอร์โปรเจคเตอร์ DLP ตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกับความละเอียดของภาพในระดับ 4KUHD ความละเอียด 8.3 ล้านพิกเซล ตรงตามข้อกำหนดของ CEA เกี่ยวกับภาพความละเอียดสูงระดับ UHD ผ่านการรับรอง THX® HD Display™ Certification ถือเป็นการการันตีประสิทธิภาพด้านการแสดงภาพอันโดดเด่นทัดเทียมโรงภาพยนตร์ระบบ DLP 4K DMD ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ร่วมกับเทคโนโลยี XPR และเลนส์ 4K ให้สีที่มีความแม่นยำระดับมาตรฐาน Rec 709 ตรงตามสีที่ผู้ผลิตภาพยนตร์ต้องการให้ผู้ชมได้เห็น

          นอกจากนี้ยังรองรับโหมด 2.35 : 1 Anamorphic เหมาะสำหรับห้องที่ใช้ทำงานด้านภาพและเสียง เลนส์สามารถขยายได้ถึง 1.5 เท่า ทั้งยังปรับตำแหน่งภาพได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ทำให้โปรเจคเตอร์รุ่น W11000 ให้ภาพที่มีคุณภาพดีเยี่ยมบนฉากรับภาพ ติดตั้งได้ทั้งระยะใกล้หรือไกล ให้ขนาดภาพตั้งแต่ขนาด 95-180 นิ้ว คุณภาพสมบูรณ์แบบด้วยราคา 249,000 บาท โดยสามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย ชั้นนำของBenQ อาทิ ร้าน Save Audio & Video, Projector 108, Projector Outlet, Projector Pro Goodspeed, IONON, Clef Audio, Khonkaen HIFI, Sahapanich
           ในปี 2560 BenQ จะยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์โฮมโปรเจคเตอร์ใหม่ ๆ ออกมาสู่ตลาดในทุก ๆ Segmemt ระดับราคา 5 หมื่นบาทจนถึง 3 แสนบาท ทั้งยังมีแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่สามารถให้ภาพที่มีคุณภาพสูงและมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น เพื่อให้เหมาะกับการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน
          บริษัทวางกลยุทธ์การตลาดเน้นไปที่ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ดังเดิม แต่จะผลักดันกลุ่ม Interactive Flat Panel & Digital Signage ให้มีมูลค่ามากขึ้นเป็นสัดส่วน 20% ทำให้มีสัดส่วน LCD 45%, Projector 35% และ Interactive Flat Panel & Digital Signage 20% โดยจะยังคงเน้นการทำตลาดเฉพาะกลุ่ม (Focus Segment) เหมือนปีที่ผ่านมา อาทิ โปรเจคเตอร์ก็ยังคงเน้นการทำตลาดกลุ่มโฮมโปรเจคเตอร์ เน้นการรีวิวสินค้าและทำ Digital Content เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีข้อมูลในการอ้างอิงคุณภาพสินค้าจากผู้ใช้มืออาชีพ และเน้นการออกงาน AV HiFi ประจำปีเพื่อให้ผู้ใช้ได้ทดลองผลิตภัณฑ์พร้อมการทำเวิร์คชอปกับผู้ใช้ นอกจากนั้นยังเน้นการออกงานโรดโชว์ที่เกี่ยวกับการศึกษาเพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์ให้กลุ่มโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย
          ในส่วนของ LCD ยังเน้นที่การทำตลาด Gaming Monitor จัดแข่ง BenQ Zowie eSport Tournament, การทำ XL Zone ในร้าน Gaming Cafe ทั่วประเทศ และการทำ Zowie Experience Zone ในร้าน Retail Gaming ทั่วประเทศ โดยอีกส่วนที่สำคัญจะเน้นทำตลาดกลุ่ม B2B สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Interactive Flat Panel, Digital Signage และกลุ่ม ProAV Projector อาทิ การจัดสัมมนา หรือเวิร์คชอปในแต่ละไตรมาสเพื่อเพิ่มความรู้ผลิตภัณฑ์ให้กับตัวแทนจำหน่ายกับผู้ใช้กลุ่มนี้ โดยปี 2560 ตั้งยอดขายไว้ที่ 800 ล้านบาท และตั้งงบการตลาดไว้ที่ 5%

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้