รพ.กล้วยน้ำไท ยันค่ารักษาน้องน้ำ สิทธิบัตรทองคุ้มครอง อาการน้องน้ำพ้นขีดอันตราย

           ผอ.รพ.กล้วยน้ำไท ยันค่ารักษาน้องน้ำสิทธิบัตรทองคุ้มครอง เบิกจ่ายจาก สปสช.ได้ คาดเข้าใจผิดเรื่องเซรุ่มที่มีราคาแพง อาการน้องน้ำพ้นขีดอันตราย ตาขวามองเห็นได้ปกติ เย็บปิดหน้าท้องที่ลำไส้ทะลุออกมาแล้ว
           นพ.สุวินัย บุษราคัมวงษ์ ผู้อำนวยการ รพ.กล้วยน้ำไท เปิดเผยอาการของ ด.ช.อาทิตย์ กลิ่นสุคนธ์ หรือน้องน้ำ 2 ขวบ 8 เดือน ซึ่งถูกสุนัขจรจัดรุมกัดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา และขณะนี้ยังนอนรักษาตัวที่ห้องไอซียู รพ.กล้วยน้ำไท ว่า อาการของน้องน้ำพ้นขีดอันตรายแล้ว บาดแผลใหญ่มี 2 จุด ตรงจุดที่ถูกกัดจนลำไส้ทะลุหน้าท้องออกมานั้น ได้ผ่าตัดแบบปิดเรียบร้อยแล้ว ลำไส้ไม่มีรอยรั่ว ไม่ถูกสุนัขขย้ำ สำหรับจุดที่ตาขวานั้น กระจกตาและท่อน้ำตาฉีกขาด ซึ่งจักษุแพทย์ได้เย็บปิดแล้ว ไม่มีผลต่อการมองเห็น มองเห็นได้เป็นปกติ ตอนนี้สิ่งที่กังวลก็มีเรื่องการติดเชื้อ เนื่องจากมีแผลทั้งใหญ่และเล็กเต็มตัว ดังนั้นจึงยังคงต้องอยู่ในห้อง ICU ต่ออีกประมาณ 1-2 วันเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ส่วนสภาพจิตใจนั้น ก็ยังมีอาการผวา หวาดกลัวอยู่บ้าง แต่วันนี้อาการเริ่มดีขึ้น คาดว่าน่าจะอยู่โรงพยาบาลอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ให้แผลเรียบร้อยก็ตัดไหมกลับบ้านได้
           “ขอยืนยันว่าค่าใช้จ่ายการรักษาทั้งหมดเบิกจ่ายจาก สปสช.ตามสิทธิประโยชน์บัตรทองซึ่งครอบคลุมทุกอย่าง ตอนเป็นข่าวในช่วงแรก ๆ มีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามจะช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาหลายราย ทางโรงพยาบาลขอขอบพระคุณในความมีน้ำใจของพี่น้องประชาชนไทยทุกคน แต่การรักษานี้เป็นสิทธิประโยชน์ที่เบิกจาก สปสช.ได้ ช่วงแรกอาจจะมีการเข้าใจผิดเรื่องการฉีดเซรุ่ม ซึ่งมีราคาแพงจริง แต่สิทธิประโยชน์บัตรทองครอบคลุม ญาติผู้ป่วยไม่ต้องจ่าย รวมถึงการตรวจติดตามอาการในครั้งต่อไปด้วย ส่วนการบริจาคจากผู้ใจบุญก็สามารถช่วยเหลือเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ด้านอื่นของน้องน้ำได้ ซึ่งยังมีสภาพความเป็นอยู่ที่ลำบากอยู่พอสมควร”