BMW 7 Series Plug-in Hybrid จาก ‘740Le’ ยกระดับมาเป็น ‘745Le’

ภาพและภาพยนตร์ : BMW Group

เรียบเรียง : Pitak Boon 

7 Series ภายใต้รหัสโมเดล G11/G12 ทาง BMW ได้เปิดตัวเวอร์ชั่นปลั๊กอินไฮบริดด้วยรุ่น 740Le (ถ้าเป็นตัวถังความยาวมาตรฐาน จะเป็นรุ่น 740e) และรถโมเดลปี 2020 ซึ่งเป็นตัวไมเนอร์เชนจ์ นอกจากลุคภายนอกที่ถูกยกระดับความไฮคลาสแล้ว ในส่วนของขุมพลังไฮบริดยังได้รับการอัพเกรดแบบยกชุด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้ทรงพลังยิ่งขึ้น พร้อมใช้ชื่อรุ่นใหม่เป็น 745Le

740Le ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังลูกผสม เครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้า ตัวเครื่องยนต์ใช้บล็อกเล็กเบนซิน 4 สูบ ขนาดความจุ 1,997 ซีซี พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าใช้ขนาด 70 kW/95 hp ถูกออกแบบไว้ภายในชุดเกียร์ Steptronic 8 สปีด กำลังรวมของระบบไฮบริด อยู่ที่ 240 kW/326 hp เมื่อแบตเต็ม สามารถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกล 40 กิโลเมตร โดยมอเตอร์ขับเคลื่อนรถทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กม./ชม. 740Le มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 47.62 กิโลเมตร/ลิตร

ขณะที่ 745Le ขยับมาเล่นกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ แบบแถวเรียง ขนาดความจุ 2,998 ซีซี เป็นเครื่องยนต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo และกวาดรางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย ในส่วนของเทอร์โบทั้ง 2 ตัว จัดวางในรูปแบบ Bi-turbo เทอร์โบ 1 ตัวรับผิดชอบ 3 สูบ ตัวโข่งเทอร์โบฝั่งไอเสียเป็นแบบ TwinScroll แรงม้าขยับขึ้นไปถึง 286 hp ที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดมาในรูปแบบ Flat-torque ระดับ 450 Nm ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที มอเตอร์ไฟฟ้ายังวางอยู่ในตำแหน่งเดิม โดยแรงม้าและแรงบิดทั้งหมด จะถูกส่งผ่านเกียร์ Steptronic 8 สปีด เพื่อส่งกำลังไปขับเคลื่อนล้อหลังในรุ่นมาตรฐาน และขับเคลื่อน 4 ล้อ ในรุ่น 745Le xDrive

มอเตอร์ไฟฟ้าใน 745Le มีกำลัง 83 kW/113 hp ที่ 3,170 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 265 Nm ที่ 0-2,700 รอบ/นาที หรือแรงบิดมีมาให้ใช้งานเต็มๆ ตั้งแต่มอเตอร์เริ่มต้นหมุน ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งถูกส่งมาจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน High-voltage ขนาด 12.0 kWh (740Le มีความจุ 9.2 kWh) ซึ่งถูกซ่อนไว้ใต้เบาะนั่งด้านหลัง ต่อการชาร์จแบตเต็มในแต่ละรอบ รถขับเคลื่อนด้วยกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าได้ไกล 52-55 กิโลเมตร และมอเตอร์สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 140 กม./ชม.

กำลังรวมจากระบบไฮบริดของ 745Le อยู่ที่ 290 kW/394 hp พร้อมแรงบิดสูงสุด 600 Nm สมรรถนะเคลมจากโรงงาน ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 5.3 วินาที ท็อปสปีด 250 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 43.47-45.45 กิโลเมตร/ลิตร และปล่อย CO2 ในระดับต่ำที่ 53-50 กรัม/กิโลเมตร

รถปลั๊กอินไฮบริดจาก BMW จะมีให้เลือก 3 โหมด เริ่มต้นที่ ‘AUTO eDrive’ เป็นการผสานการทำงานกัน ระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้เกิดความประหยัดสูงสุด ในสภาพการขับขี่ปกติ มอเตอร์จะรับหน้าที่ขับเคลื่อนรถตั้งแต่ออกตัว จนกระทั่งถึงความเร็ว 70 กม./ชม. เครื่องยนต์จึงถูกสตาร์ทขึ้นเพื่อมารับช่วงต่อ สำหรับกรณีที่ผู้ขับต้องการการออกตัวที่รวดเร็ว ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์จะทำงานพร้อมกันได้ในทันที

ถัดมา ‘MAX eDrive’ จะเป็นโหมดการขับเคลื่อนแบบไร้มลพิษ ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ที่เข้มงวดสุดๆ เรื่องมลพิษ โหมดนี้มอเตอร์ไฟฟ้าจะขับเคลื่อนรถเพียงลำพัง และสุดท้ายโหมด ‘BATTERY CONTROL’ จะเน้นการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ เพื่อผลิตพร้อมทั้งสำรองพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เอาไว้ใช้ในพื้นที่ที่เข้มงวดเรื่องมลพิษ นั่นเอง