Lamborghini Huracan Sterrato Concept ตัวต้นแบบซูเปอร์คาร์สายยก (สูง)

ภาพ : Automobili Lamborghini S.p.A.

เรียบเรียง : Pitak Boon

Lambo มี Urus ซึ่งถูกกำหนดให้เป็น Super SUV ทว่ารถต้นแบบ Huracan Sterrato นั้นแตกต่าง พัฒนาขึ้นด้วยแนวคิดที่สุดขั้วของวิศวกร Lambo พวกเขานำ Huracan EVO มาแปลงร่างเป็นซูเปอร์คาร์ตัวถังยกสูง พร้อมลุยไปในทุกเส้นทางในสไตล์ตัวแข่งแรลลี่ ซึ่งอารมณ์เดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว กับ Countach หนึ่งในตำนานตลอดกาลจากค่ายกระทิงเปลี่ยว

Huracan Sterrato กำเนิดจากแนวคิด ‘fun to drive off-road’ ด้วยการส่งผ่านเทคโนโลยีมาจากซูเปอร์คาร์เครื่องวางกลางลำ จึงให้ประสบการณ์การขับขี่บนทางฝุ่นที่แตกต่างจากรถสายลุยทุกรุ่นในตลาด ใต้ท้องรถปรับยกขึ้น 47 มิลลิเมตร เพิ่มระยะเวอร์แฮงค์ด้านหน้าและด้านหลัง ได้มุมประชิดหน้ารถ (Approach) เพิ่มขึ้น 1% และมุมจาก (Departure) ด้านหลังรถเพิ่มขึ้น 6.5% รองรับการขับขี่บนทางฝุ่น แต่ไม่ถึงขั้นนำไปใช้งานบนเส้นทาง off-road แบบ Urus

ช่วงความกว้างของล้อ (Tracks) ขยายออกอีก 30 มิลลิเมตร เพื่อรับกับล้อ 20 นิ้ว ที่จะพ่วงมากับยาง Balloon ไซด์ใหญ่พิเศษ ที่ออกแบบมาใช้งานกับ Huracan Sterrato โดยเฉพาะ เมื่อได้ ล้อ+ยางใหญ่ ตัวถังจึงต้องขยายเป็น wide-body ด้วยเฟนเดอร์ชุดใหม่ ซึ่งจะมาพร้อมๆ กับช่องรับลมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย ใต้ท้องรถเดิมซีลปิดมิดชิดสไตล์ซูเปอร์คาร์ ได้ถูกเสริมด้วยผ่านการ์ดกันกระแทกอะลูมีเนียม ช่วยลดความเสียหายของตัวถัง ไล่เรียงมาตั้งแต่ใต้กันชนหน้า ใต้สเกิร์ตข้าง ต่อเนื่องไปจนถึงชายล่างของชุดดิฟฟิวเซอร์ที่ท้ายรถ นอกจากนี้วิศวกรยังเสริมการ์ดเพิ่มเติมเพื่อป้องกันเศษหิน ในส่วนของใต้เครื่องยนต์ และกระปุกเกียร์ เป็นชุด mud guards ผลิตจากวัสดุลูกผสม (Hybrid Materials) ระหว่างคาร์บอนไฟเบอร์ และเรซินที่มีความยืดหยุ่นสูง (Elastomeric Resin)

ท่อนหน้ารถติดตั้งชุด LED bumper lights ในสไตล์ off-road ขณะที่หลังคาเพิ่มจุดยึดพร้อม LED light bar ชุดไฟมาพร้อมฟังก์ชันซีลกันน้ำ ห้องโดยสารถูกเสริมด้วย roll cage ผลิตจากไทเทเนียมเน้นความเบา, เบานั่งเปลี่ยนมาใช้โครงคาร์บอนไฟเบอร์ มาพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 4 จุด ปิดท้ายด้วยแผ่นอะลูมีเนียมกันลื่นในส่วนของพื้นห้องโดยสาร ที่ง่ายและสะดวกต่อการทำความสะอาด

แม้ Huracan Sterrato จะกลายร่างไปเป็นสายลุย แต่ชุดขับเคลื่อนยังคงยกพื้นฐานมาจาก Huracan EVO ทั้งเครื่องยนต์, ระบบขับเคลื่อน AWD รวมทั้งระบบ Rear-wheel Steering หรือระบบช่วยเลี้ยวในล้อหลัง และระบบ Torque Vectoring ตัวเครื่องยนต์ใช้บล็อก V10 สูบ NA ปริมาตรกระบอกสูบ 5,204 ซีซี เครื่องยนต์แบบตัว V วางทำมุมกัน 90 องศา ช่วยลดความสูงของเครื่องลง เพื่อให้ได้จุดศูนย์ถ่วงของรถทั้งคันที่ต่ำ เมื่อให้ความสำคัญกับความสูงของเครื่องยนต์เป็นพิเศษ จึงเลือกใช้ระบบหล่อลื่นแบบ Dry Sump แบบเดียวกับรถแข่ง ส่วนระบบหล่อเย็นใช้น้ำหล่อเย็นหมุนเวียนในระบบ และระบายความร้อนผ่านหม้อน้ำ 2 ตัว ที่ติดตั้งทั้ง 2 ฝั่ง ด้านหน้ารถ

ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นแบบผสมผสานระหว่าง Direct กับ Indirect Injection ใช้ชื่อระบบว่า IDS+MPI Duel Injection การป้อนอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ใช้ระบบวาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย วาล์วทั้ง 40 ตัว จึงสามารถปรับเปลี่ยนองศาการทำงานให้เหมาะสมกับรอบเครื่องยนต์ได้มากที่สุด เป็นที่มาของแรงม้า 640 hp ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสุงสุด 600 Nm ที่ 6,500 รอบ/นาที โดยแรงม้าและแรงบิดจะมาผ่านเกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีด ก่อนส่งลงสู่ผิวถนนผ่านล้อทั้งสี่ สำหรับตัวเลขสมรรถนะยังไม่มีการเปิดเผย แต่จาก DNA อันเข้มข้นสไตล์ Lambo สมรรถนะทั้งทางเรียบ และทางฝุ่นของรถต้นแบบ Huracan Sterrato ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน