Mercedes-AMG GLA 45 AMG || กับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2 ลิตร ที่แรงที่สุดในโลก
960 จำนวนผู้เข้าชม |
ภาพและภาพยนตร์ : Daimler AG
เรียบเรียง : Pitak Boon
Mercedes-AMG เปิดตัวรถสายแรงในพิกัด Compact Class พร้อมกัน 2 รุ่น ภายใต้อนุกรม ‘45’ กับรถโมเดลล่าสุดของ Mercedes-Benz ทั้ง A-Class (W177) และ CLA-Class (C118) โดยทั้ง 2 รุ่น ถูกพัฒนาขึ้นจากเพลทฟอร์มเดียวกัน ส่วนหลักๆ จึงแตกต่างกันเฉพาะตัวถังภายนอกเท่านั้น A-Class ถูกนำเสนอในสไตล์แฮทช์แบ็คที่โดดเด่นเรื่องความกะทัดรัด เน้นความคล่องตัวโดยเฉพาะกับการใช้งานในเมือง ขณะที่ CLA-Class จุดขายอยู่ที่ความความสปอร์ตลู่ลมสไตล์รถคูเป้ 4 ประตู ทั้งคู่ถูก Mercedes-AMG GmbH จับมาอัพเกรดต่อเป็น ‘A 45 4MATIC+’ และ ‘CLA 45 4MATIC+’
นอกจากนี้ A 45 4MATIC+’ และ ‘CLA 45 4MATIC+ ยังแตกรุ่นย่อยออกไปเป็น ‘เวอร์ชัน S’ ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ใช้เครื่องยนต์ ‘M133’ บล็อก 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร (1,991 ซีซี) มาพร้อมเทคโนโลยี BlueDIRECT หรือการใช้ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้โดยตรงในเครื่องยนต์เบนซิน ด้วยหัวฉีดเป็นแบบ Piezo ส่วนเรื่องความแม่นยำในการลำเรียงอากาศเข้าและไอเสียออกจากห้องเผาไหม้ จะเป็นหน้าที่ของ CAMTRONIC เป็น ‘ระบบวาล์วแปรผัน’ ทั้งฝั่งวาล์วไอดี และฝั่งวาล์วไอเสีย จากนั้นวิศวกร Mercedes-AMG จับมาโมฯ ต่อด้วย know-how จากสนามแข่ง กระทั่งได้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร ที่ทรงพลังที่สุดในโลก
เริ่มต้นจากเรื่องยกระดับวัสดุ และอีกหลายๆ ระบบภายในเครื่องยนต์ อาทิ การใช้อ่างน้ำมันเครื่องอะลูมีเนียม ผลิตจากกรรมวิธี Gravity-die Sand-cast มาตรฐานเดียวกับเครื่องยนต์แข่ง, เพลาข้อเหวี่ยงเปลี่ยนมาใช้เหล็ก Forced, ใช้ปลอกสูบที่ผลิตจากเทคโนโลยี NANOSLIDE, ปรับปรุงวงจรระบายความร้อนของชุดอินเตอร์คูลเลอร์ แบบ Air-to-Water, ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบชาร์จไฟ (Alternator Management) และฟังก์ชั่น ECO start/stop ใหม่ทั้งหมด ปิดท้ายด้วยส่วนสำคัญที่สุด คือ เปลี่ยนเทอร์โบมาเป็นแบบ Twin-scroll เพื่อเพิ่มแรงขับจากไอเสีย ให้การขับเคลื่อนกังหันเทอร์ไบน์หนักหน่วงในทุกย่านความเร็ว ด้วยรอบที่สูงถึง 169,000 รอบ/นาที ส่งอากาศแรงดันสูงเข้าห้องเผาไหม้ในระดับ 2.1 บาร์
A 45 4MATIC+’ และ ‘CLA 45 4MATIC+ รุ่นเริ่มต้นทรงพลังด้วยแรงม้า 387 hp ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 480 Nm ที่ 4,750-5,000 รอบ/นาที ขณะที่ ‘เวอร์ชัน S’ อัพเกรดซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์เพิ่มเติม กำลังขยับขึ้นไปเป็น 421 hp ที่ 6,750 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุดแตะ 500 Nm ที่ 5,000-5,250 รอบ/นาที ด้วยแรงม้าและแรงบิดระดับนี้ระบบขับเคลื่อน 4MATIC+ จึงเป็นอะไรที่จำเป็น และลงตัวอย่างยิ่ง ในส่วนของเกียร์ ทั้งคู่ยกระดับมาใช้เกียร์ลูกใหม่ ‘AMG SPEEDSHIFT DTC 8G’ ที่ผสมผสานความฉับไวสไตล์เกียร์แมนวล และ ความสะดวกสบายสไตล์เกียร์อัตโนมัติได้อย่างลงตัว
ระบบขับเคลื่อนแบบ 4MATIC+ มาพร้อม ‘ความฉลาดในการกระจายกำลัง’ ให้ทั้งความรวดเร็วและความละเอียด ในการแบ่งกำลังขับเคลื่อน ด้วยการใช้เซ็นเซอร์หลายๆ จุดรอบตัวรถ ในการส่งข้อมูลเข้ามาให้สมองกลประมวลผล เพื่อเลือกระดับการกระจายกำลังที่เหมาะสมที่สุด กับสภาพการขับขี่ในช่วงเวลานั้นๆ ด้วยโปรแกรมความคุมการทำงานของ 4MATIC+ ใน A 45 4MATIC+’ และ ‘CLA 45 4MATIC+ จะเน้นฟีลลิ่งและแฮนด์ลิ่งในสไตล์สปอร์ต เพื่อสร้างอรรถรสในการขับขี่ที่แตกต่างจากระบบ 4MATIC ในรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่นพื้นฐาน
Mercedes-AMG เปิดตัวรถสายแรงในพิกัด Compact Class พร้อมกัน 2 รุ่น ภายใต้อนุกรม ‘45’ กับรถโมเดลล่าสุดของ Mercedes-Benz ทั้ง A-Class (W177) และ CLA-Class (C118) โดยทั้ง 2 รุ่น ถูกพัฒนาขึ้นจากเพลทฟอร์มเดียวกัน ส่วนหลักๆ จึงแตกต่างกันเฉพาะตัวถังภายนอกเท่านั้น A-Class ถูกนำเสนอในสไตล์แฮทช์แบ็คที่โดดเด่นเรื่องความกะทัดรัด เน้นความคล่องตัวโดยเฉพาะกับการใช้งานในเมือง ขณะที่ CLA-Class จุดขายอยู่ที่ความความสปอร์ตลู่ลมสไตล์รถคูเป้ 4 ประตู ทั้งคู่ถูก Mercedes-AMG GmbH จับมาอัพเกรดต่อเป็น ‘A 45 4MATIC+’ และ ‘CLA 45 4MATIC+’
นอกจากนี้ A 45 4MATIC+’ และ ‘CLA 45 4MATIC+ ยังแตกรุ่นย่อยออกไปเป็น ‘เวอร์ชัน S’ ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ใช้เครื่องยนต์ ‘M133’ บล็อก 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร (1,991 ซีซี) มาพร้อมเทคโนโลยี BlueDIRECT หรือการใช้ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้โดยตรงในเครื่องยนต์เบนซิน ด้วยหัวฉีดเป็นแบบ Piezo ส่วนเรื่องความแม่นยำในการลำเรียงอากาศเข้าและไอเสียออกจากห้องเผาไหม้ จะเป็นหน้าที่ของ CAMTRONIC เป็น ‘ระบบวาล์วแปรผัน’ ทั้งฝั่งวาล์วไอดี และฝั่งวาล์วไอเสีย จากนั้นวิศวกร Mercedes-AMG จับมาโมฯ ต่อด้วย know-how จากสนามแข่ง กระทั่งได้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร ที่ทรงพลังที่สุดในโลก
เริ่มต้นจากเรื่องยกระดับวัสดุ และอีกหลายๆ ระบบภายในเครื่องยนต์ อาทิ การใช้อ่างน้ำมันเครื่องอะลูมีเนียม ผลิตจากกรรมวิธี Gravity-die Sand-cast มาตรฐานเดียวกับเครื่องยนต์แข่ง, เพลาข้อเหวี่ยงเปลี่ยนมาใช้เหล็ก Forced, ใช้ปลอกสูบที่ผลิตจากเทคโนโลยี NANOSLIDE, ปรับปรุงวงจรระบายความร้อนของชุดอินเตอร์คูลเลอร์ แบบ Air-to-Water, ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบชาร์จไฟ (Alternator Management) และฟังก์ชั่น ECO start/stop ใหม่ทั้งหมด ปิดท้ายด้วยส่วนสำคัญที่สุด คือ เปลี่ยนเทอร์โบมาเป็นแบบ Twin-scroll เพื่อเพิ่มแรงขับจากไอเสีย ให้การขับเคลื่อนกังหันเทอร์ไบน์หนักหน่วงในทุกย่านความเร็ว ด้วยรอบที่สูงถึง 169,000 รอบ/นาที ส่งอากาศแรงดันสูงเข้าห้องเผาไหม้ในระดับ 2.1 บาร์
A 45 4MATIC+’ และ ‘CLA 45 4MATIC+ รุ่นเริ่มต้นทรงพลังด้วยแรงม้า 387 hp ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 480 Nm ที่ 4,750-5,000 รอบ/นาที ขณะที่ ‘เวอร์ชัน S’ อัพเกรดซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์เพิ่มเติม กำลังขยับขึ้นไปเป็น 421 hp ที่ 6,750 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุดแตะ 500 Nm ที่ 5,000-5,250 รอบ/นาที ด้วยแรงม้าและแรงบิดระดับนี้ระบบขับเคลื่อน 4MATIC+ จึงเป็นอะไรที่จำเป็น และลงตัวอย่างยิ่ง ในส่วนของเกียร์ ทั้งคู่ยกระดับมาใช้เกียร์ลูกใหม่ ‘AMG SPEEDSHIFT DTC 8G’ ที่ผสมผสานความฉับไวสไตล์เกียร์แมนวล และ ความสะดวกสบายสไตล์เกียร์อัตโนมัติได้อย่างลงตัว
ระบบขับเคลื่อนแบบ 4MATIC+ มาพร้อม ‘ความฉลาดในการกระจายกำลัง’ ให้ทั้งความรวดเร็วและความละเอียด ในการแบ่งกำลังขับเคลื่อน ด้วยการใช้เซ็นเซอร์หลายๆ จุดรอบตัวรถ ในการส่งข้อมูลเข้ามาให้สมองกลประมวลผล เพื่อเลือกระดับการกระจายกำลังที่เหมาะสมที่สุด กับสภาพการขับขี่ในช่วงเวลานั้นๆ ด้วยโปรแกรมความคุมการทำงานของ 4MATIC+ ใน A 45 4MATIC+’ และ ‘CLA 45 4MATIC+ จะเน้นฟีลลิ่งและแฮนด์ลิ่งในสไตล์สปอร์ต เพื่อสร้างอรรถรสในการขับขี่ที่แตกต่างจากระบบ 4MATIC ในรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่นพื้นฐาน
ผลลัพธ์สุดท้าย A 45 4MATIC+’ และ ‘CLA 45 4MATIC+ ทะยานผ่านการขับเคลื่อนของล้อทั้งสี่ ภายใต้การจัดการของระบบ 4MATIC+ ผ่านหลัก 100 กม./ชม. ด้วยเวลา 4.0 และ 4.1 วินาที ตามลำดับ ขณะที่ ‘เวอร์ชัน S’ จะเร็วกว่า 0.1 วินาที ด้วยเวลา 3.9 และ 4.0 วินาที ตามลำดับ ท็อปสปีดถูกล็อคไว้ที่ 250 กม./ชม. และหากลูกค้าเลือกติดตั้งอ็อพชัน AMG Driver’s Package ความเร็วสูงสุดจะถูกปลดปล่อยไปที่ 270 กม./ชม. เร็วและแรงเกินพอสำหรับรถในกลุ่ม Compact Class
ผลลัพธ์สุดท้าย A 45 4MATIC+’ และ ‘CLA 45 4MATIC+ ทะยานผ่านการขับเคลื่อนของล้อทั้งสี่ ภายใต้การจัดการของระบบ 4MATIC+ ผ่านหลัก 100 กม./ชม. ด้วยเวลา 4.0 และ 4.1 วินาที ตามลำดับ ขณะที่ ‘เวอร์ชัน S’ จะเร็วกว่า 0.1 วินาที ด้วยเวลา 3.9 และ 4.0 วินาที ตามลำดับ ท็อปสปีดถูกล็อคไว้ที่ 250 กม./ชม. และหากลูกค้าเลือกติดตั้งอ็อพชัน AMG Driver’s Package ความเร็วสูงสุดจะถูกปลดปล่อยไปที่ 270 กม./ชม. เร็วและแรงเกินพอสำหรับรถในกลุ่ม Compact Class
