BRABUS 800 based on the Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+

ภาพ : BRABUS GmbH

เรียบเรียง : Pitak Boon

แม้ AMG GT 4-Door จะได้อิทธิพลในการออกแบบมาจาก AMG GT ทว่าเทคโนโลยีภายใน กลับใช้ร่วมกับสปอร์ตซาลูน Mercedes-AMG รุ่นพี่อย่าง ‘E 63 4MATIC+’ และ ‘E 63 S 4MATIC+’ ในทุกระบบ ทั้งยังมีรุ่นย่อย มาให้ลูกค้าเลือกไม่แตกต่างกัน นั่นคือ เวอร์ชันมาตรฐาน ‘AMG-GT 63 4MATIC+’ และเวอร์ชันแรง ‘AMG-GT 63 S 4MATIC+’ เป็น 2 ระดับความแรงจากเครื่องยนต์ V8 Bi-turbo โดยสำนักแต่งสายโหดจากเยอรมันนาม BRABUS ได้จับเวอร์ชัน ‘S’ มาโมต่อยอด และใช้ชื่อรุ่นสั้นๆ ว่า ‘BRABUS 800’ ซึ่งมาพร้อมพละกำลังระดับ 800 แรงม้า ขึ้นแท่นรถ คูเป้ 4 ประตู ที่ทรงพลังที่สุดในโลกไปในทันที

AMG GT 4-Door ถูกเปิดตัวออกมาในงาน 88th International Motor Show Geneva ในปี 2018 ครั้งแรกที่ได้เห็น ทำให้คิดถึง Mercedes-Benz CLS Mk. III (C257) ที่ต้นสังกัดเปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้ เพราะทั้ง 2 โมเดล ใช้ดีไซน์รถคูเป้ 4 ประตู ไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบจะพบว่า แนวกระจกบังลมหลังของ AMG GT 4-Door ลาดเทกว่า CLS อยู่เล็กน้อย อีกทั้งแนวกรอบประตูบานหลังก็ไม่เหมือนกัน เมื่อประกอบกับการออกแบบไฟท้ายที่เน้นความบาง มุมมองท้ายรถของ AMG GT 4-Door จึงให้ความรู้สึกใกล้เคียง AMG GT เป็นอย่างมาก โดย AMG GT 4-Door ได้ใช้พื้นฐานโครงสร้างร่วมกับ E-Class (W213) และ CLS-Class (C257) ซึ่งเป็นเพลทฟอร์มสำหรับรถซีดานขนาดกลางที่ดีที่สุดจาก Mercedes-Benz และถูกออกแบบมารองรับทั้ง ช่วงล่างคอยล์สปริง (Solid Suspension) และ ช่วงล่างถุงลม (Air Suspension)

ในส่วนของตัวถังภายนอก AMG GT 4-Door ดูสวยงามไร้ที่ติอยู่แล้ว BRABUS จึงทำได้เพียงเพิ่มความฮาร์ดคอร์อีกเล็กน้อย ด้วยแอร์โร่ไดนามิคพาร์ทที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน ดีไซน์ชิ้นลิ้นสปอยเลอร์หน้าใหม่ มาพร้อมครีบดักอากาศในแนวตั้งที่มุมทั้ง 2 ฝั่ง เช่นเดียวกับชิ้นดิฟฟิวเซอร์ท้ายรถ ซึ่งดูเอาเรื่องกว่าเวอร์ชันสแตนดาร์ดไปอีกพอสมควร สำหรับไฮไลท์ของ BRABUS 800 จะอยู่ที่การใช้ล้อแบบต่างขนาด หน้า 21 นิ้ว และหลัง 22 นิ้ว เป็นล้อ BRABUS Monoblock Z ลาย 10 ก้าน สี ‘PLATINUM EDITION’ ซึ่งถูกนำมาใส่กับ BRABUS 800 เป็นโมเดลแรก ผลิตด้วยกรรมวิธี Forged เพิ่มความแข็งแรงพร้อมๆ ไปกับการลดน้ำหนัก ด้านหน้าขนาด 10.5x21 นิ้ว จับคู่กับยาง 275/35 ZR21 ด้านหลังใช้ขนาด 12.0x22 นิ้ว พร้อมยาง 335/25 ZR22 ในส่วนของยาง BRABUS พัฒนาร่วมกับพันธมิตรทั้ง 3 ค่ายใหญ่ ได้แก่ CONTINENTAL, PIRELLI และ YOKOHAMA

ช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL+ ใน AMG GT 4-Door ก้าวหน้าขึ้นอีกระดับ เมื่อเทียบกับช่วงล่างถุงลมที่ Mercedes-Benz ใช้มานาน ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด ‘Three-chamber Air Suspension’ เพิ่มห้องเก็บลมสำรอง เพื่อให้ช่วงล่างสามารถตอบสนองสภาพผิวถนนได้อย่างฉับไว รวมทั้งรองรับการขับขี่ได้ในทุกย่านความเร็ว สำหรับ AMG RIDE CONTROL+ ใน ‘AMG-GT 63 S 4MATIC+’ ได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อรับกับพละกำลังมหาศาลจากเครื่องยนต์ ถุงลมหรือสปริงลมทำงานร่วมกับโช้คอัพในรูปแบบ ‘Continuous Adjustment Damping’ เป็นโช้คอัพไฟฟ้า ปรับระดับในการตอบสนองแปรผันไปตามความเร็ว ชุดถุงลมจะทำงานร่วมกับช่วงล่างด้านหน้าในรูปแบบ Four-link โดยชุดปีกนกล่าง และส่วนประกอบที่จัดเป็นน้ำหนักใต้สปริงจะผลิตจาก Forged Aluminum สำหรับช่วงล่างด้านหลังคงรูปแบบ Multi-link ที่เน้นความนุ่มนวล และเสถียรภาพสูงสุดในการยึดเกาะ

ในส่วนของช่วงล่าง BRABUS ให้พาร์ทเนอร์ตลอดกาลอย่าง BILSTEIN เป็นผู้ดูแล (ผลิตช่วงล่างถุงลม OEM ให้ Mercedes-AMG อยู่แล้ว) ซึ่งไม่ใช้งานยากแต่อย่างใด อัพเกรดง่ายๆ ด้วยชุด BRABUS AIRMATIC SPORT Unit เสียบแทนที่กล่องเดิมแบบ plug-and-play ถุงลมปรับระดับความสูงลง 25 มิลลิเมตร ในทันที และโหมดการทำงาน Comfort และ Sport ยังใช้งานได้เหมือนเดิม

AMG-GT 63 S 4MATIC+ มาพร้อมพละกำลัง 639 hp ที่ 5,500-6,500 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดมหาศาล 900 Nm ที่ 2,500-4,500 รอบ/นาที จากเครื่องยนต์เครื่อง V8 Bi-turbo 4.0 ลิตร รหัส ‘M178’ วิศวกร BRABUS อัพเกรดด้วยกล่อง PowerXtra B40S-800 ปรับซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ พร้อมขยับบูสต์เทอร์โบจาก 1.35 บาร์ ไปที่ 1.6 บาร์ ได้แรงม้าเพิ่มขึ้น 161 hp และแรงบิดเพิ่มขึ้น 100 Nm

เบ็ดเสร็จ BRABUS 800 มีกำลังรวม 800 hp ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 1,000 Nm ที่ 3,600 รอบ/นาที ตะกายด้วยล้อทั้งสี่ผ่านระบบขับเคลื่อน ‘4MATIC+’ ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 2.9 วินาที!!! ความเร็วสูงสุด 315 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลือง ในเมือง/เดินทาง/เฉลี่ย เคลมเอาไว้ 6.57/11.23/8.85 กิโลเมตร/ลิตร ตามลำดับ ปิดท้ายด้วยค่า CO2 ระดับ 257 กรัม/กิโลเมตร แรงขึ้น แต่มลพิษต่ำ ไม่แตกต่างจากค่ามาตรฐานจากโรงงาน