The new Porsche Taycan || เผยดีไซน์ห้องโดยสาร พร้อมเทคโนโลยีดิจิตัล ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

831 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ภาพ : PORSCHE AG

ข้อมูล : AAS Auto Service

เรียบเรียง : Pitak Boon

Porsche ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของโลกยานยนต์ด้วย ‘Taycan’ (ไทคานน์) ยนตกรรมสปอร์ตไฟฟ้าโมเดลแรกของค่าย ผู้กำหนดบรรทัดฐานใหม่ให้แก่งานออกแบบภายในห้องโดยสาร รูปแบบสุดคลาสสิกที่ได้รับการนิยามขึ้นใหม่ และถูกนำมาประยุกต์ ใช้ร่วมกับนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคต “น้อยแต่มาก (Less is more) คือสิ่งที่เรานำมาใช้กับรถคันนี้” ข้างต้นเป็นคำอธิบายจาก Ivo van Hulten ผู้อำนวยการแผนก Interior Design Style Porsche ของ Porsche AG “ภายในห้องโดยสารของ Porsche Taycan คือผลงานการออกแบบที่ผสมผสานหลักปรัชญาดั้งเดิมของแบรนด์ เข้ากับทิศทางการออกแบบยุคใหม่ที่คำนึงถึงประสบการณ์การใช้งานของผู้ขับขี่ พร้อมกับสร้างความประทับใจ เพียงแรกสัมผัสด้วยความเรียบหรูงามสง่า” Porsche มีกำหนดการเปิดตัว Taycan ต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในช่วงเดือน กันยายน 2019

DNA รถสปอร์ตสายพันธุ์แท้ แผงหน้าปัทม์และตำแหน่งที่นั่ง ออกแบบเพื่อผู้ขับขี่โดยเฉพาะ สไตล์การออกแบบเรียบหรู และปลอดโปร่งของชุดแผงหน้าปัทม์ ได้รับแรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตระดับตำนานอย่าง Porsche 911 ตั้งแต่รุ่นปี 1963 เป้าหมายอันชัดเจน คือการนำแนวทางดังกล่าวมาใช้ในโลกยุคปัจจุบัน พื้นที่บริเวณตำแหน่งผู้ขับขี่ คือสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการเริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่ ด้วยการวางโครงสร้างที่ปลอดโปร่ง ให้บรรยากาศรายล้อมที่ล้ำสมัย และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกให้มากที่สุด คำนึงถึงการใช้งานของผู้ขับขี่ ที่สามารถเข้าถึงการบังคับควบคุมฟังก์ชันต่างๆ อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ปราศจากสิ่งรบกวนอื่นๆ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ แผงหน้าปัดรูปทรงโค้งมน ลอยตัวอิสระ วางตัวในตำแหน่งสูงสุดของคอนโซลหน้า ถ่ายทอดข้อมูลไปยังผู้ขับขี่อย่างชัดเจน มั่นใจได้ว่าทุกสิ่งที่จำเป็น และต้องใช้ในระหว่างการขับขี่ จะพร้อมรองรับและเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วตลอดเวลาในระยะสายตา



แผงหน้าปัดที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมล้ำยุค ประกอบด้วย หน้าจอแสดงผลแนวโค้งขนาดใหญ่ 16.8 นิ้ว พร้อมฉายภาพ กรอบทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Porsche ชิ้นส่วนที่ครอบบนแผงหน้าปัทม์ถูกนำออกไปเพื่อให้มั่นใจ ว่าแผงหน้าปัทม์จะมีความเรียวบาง และให้มุมมองที่ทันสมัยเฉกเช่นเดียวกันกับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตคุณภาพสูง ตกแต่งด้วยวัสดุกระจกโพลาไรซ์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดแสงสะท้อนที่ดีเยี่ยม
 
ผู้ขับขี่สามารถเลือกลักษณะการแสดงผลบนแผงหน้าปัทม์ได้ถึง 4 รูปแบบ

Classic mode (อุปกรณ์แสดงค่าพารามิเตอร์และปริมาณพลังงานไฟฟ้า) เน้นการแสดงผลข้อมูลในกรอบทรงกลมสไตล์คลาสสิกของ Porsche รูปแบบหน้าจอลักษณะนี้ สามารถถ่ายทอดข้อมูลการขับขี่ได้อย่างชัดเจน และเป็นระเบียบ อ่านข้อมูลได้อย่างรวดเร็วโดย หน้าจอ แสดงค่าพารามิเตอร์ และปริมาณพลังงานไฟฟ้า จะแสดงแทนที่มาตรวัดรอบดั้งเดิมในตำแหน่งศูนย์กลางของแผงหน้าปัทม์
Map mode แสดงข้อมูลแผนที่การเดินทางแทนมาตรวัด แสดงค่าพารามิเตอร์ และปริมาณพลังงานไฟฟ้า
Full Map mode แสดงข้อมูลระบบนำทางผ่านดาวเทียมอย่างเต็มรูปแบบบนแผงหน้าปัทม์ โดยตัดการฉาย ภาพกรอบทรงกลมออกทั้งหมด
Pure mode แสดงผลเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นต่อการขับขี่ อาทิ ความเร็ว สัญญาณจราจร และแผนที่นำทาง ระบบผ่านดาวเทียมที่ลดขนาดการแสดงผลเหลือเพียงลูกศรชี้ทิศทาง
 
สำหรับชุดปุ่มควบคุมระบบสัมผัสขนาดกะทัดรัด ติดตั้งบริเวณมุมด้านข้างของหน้าจอ มีหน้าที่สั่งการทำงานของฟังก์ชัน ระบบแสงสว่าง และระบบช่วงล่าง นอกจากนี้ในส่วนของรูปทรงแผงหน้าปัทม์จะมีความกว้างที่มากกว่าขอบวงพวงมาลัย ซึ่งเป็นไปในรูปแบบเดียวกันกับรถสปอร์ตคลาสสิกตระกูล 911



พวงมาลัยให้ภาพลักษณ์และสัมผัสที่เรียวบาง สามารถเลือกติดตั้งได้ถึง 2 รูปแบบ นอกเหนือจากเวอร์ชันมาตรฐาน ยังสามารถเลือกเฉดสีตกแต่งบนวงพวงมาลัยได้ตามต้องการ โดยรวมอยู่ในชุดตกแต่งเฉพาะรุ่น และ Porsche ยังคงเพิ่ม ทางเลือกสุดพิเศษด้วยพวงมาลัย GT sports เป็นอุปกรณ์ติดตั้งเพิ่มเติม มีรูปแบบแตกต่างด้วยการโชว์จุดยึดคอพวงมาลัย พร้อมชุดสวิตช์ทรงกลมสำหรับเลือกรูปแบบการขับขี่ในโหมดต่างๆ

แผงคอนโซลด้านบนและด้านล่าง วางตัวตามแนวยาวตลอดความกว้างตัวถัง โดยมีรูปทรงคล้ายปีกที่โอบล้อมผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร หน้าจอระบบเครื่องเสียงและความบันเทิง Infotainment ขนาด 10.9 นิ้ว และหน้าจอแสดงผล สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า (อุปกรณ์พิเศษ) ติดตั้งต่อเนื่องครอบคลุมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันด้วยแผ่นกระจก ที่ให้สัมผัสสไตล์ black-panel สร้างความกลมกลืนลงตัวกับงานตกแต่งภายในห้องโดยสาร

ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้งาน ทั้งหมดได้รับการออกแบบใหม่ สำหรับ Porsche Taycan โดยเฉพาะ ระบบควบคุมการทำงานแบบกลไกดั้งเดิม อาทิ สวิตช์ และปุ่มกดต่างๆ ได้รับการลดจำนวนลงอย่างมาก โดยถูกแทนที่ด้วย ระบบควบคุมอัจฉริยะ ผ่านการสัมผัส หรือการสั่งงานด้วยเสียง ซึ่งพร้อมตอบสนองต่อคำสั่งเริ่มต้น “Hey Porsche”

วิธีการตั้งค่าฟังก์ชันต่างๆ ของ Porsche Taycan อาทิ ระบบ Porsche Active Stability Management (PASM) ผู้ขับขี่สามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่านเมนูหลัก ที่เข้าถึงได้โดยตรงบนหน้าจอคอนโซลกลาง ใช้งานแอปพลิเคชันทั้งหมดได้ อย่างรวดเร็ว ด้วยการวางผังโครงสร้างระบบที่ชัดเจน และสามารถปรับแต่งหน้าจอหลักหรือ home screen ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน ระบบนำทางผ่านดาวเทียม navigation, ระบบโทรศัพท์, ระบบความบันเทิง, ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร รวมทั้งระบบติดต่อสื่อสาร Porsche Connect พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียง ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึง ฟังก์ชันที่ต้องการได้รวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น และนับเป็นครั้งแรกของ Porsche ด้วยอุปกรณ์พิเศษ หน้าจอสัมผัสสำหรับ ผู้โดยสารตำแหน่งข้างคนขับ ที่สามารถปรับแต่ง ฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่รบกวนผู้ขับขี่แต่อย่างใด

คอนโซลกลางที่วางตำแหน่งสูงขึ้น ช่วยเสริมให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถในขณะนั่งอยู่บนเบาะ ที่วางตำแหน่ง ใกล้พื้นตัวถังมากขึ้น นี่คือสิ่งที่ผู้ขับขี่จะได้รับเมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัย Porsche เสริมความสะดวกสบาย ด้วยหน้าจอสั่งการระบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 8.4 นิ้ว ที่ให้การตอบสนองฉับไว ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถตั้งค่า การทำงานของระบบปรับอากาศได้โดยตรง รวมทั้งระบบจดจำลายมือ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เริ่มต้นใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

รายละเอียดทุกองค์ประกอบ ล้วนผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพื่อปรับลดความซ้ำซ้อนและเกินจำเป็นออกไปให้มากที่สุด เช่นเดียวกันกับรถแข่ง Porsche 918, Taycan ได้รับการติดตั้งสวิตช์ไฟเลี้ยวที่รวมไว้ภายในชุดแผงหน้าปัทม์ แทนที่สวิตช์แบบก้านกลไกในรูปแบบดั้งเดิม ผลลัพธ์ที่ได้คือแผงคอนโซลกลาง ที่ดูปลอดโปร่งสะอาดตา และเพิ่มพื้นที่ใช้ประโยชน์ภายในห้องโดยสาร แนวคิดการปรับลดอุปกรณ์ดังกล่าว ยังครอบคลุมไปถึง การออกแบบช่องลมระบบปรับอากาศ ซึ่งมีรูปทรงที่สวยงามล้ำสมัย และทำหน้าที่กระจายแรงลมได้อย่างไร้ที่ติ ปล่อยให้ช่องลมแบบกลไกกลายเป็นอดีต พร้อมสัมผัสการทำงานที่ควบคุมได้ทั้งในรูปแบบดิจิทัล และการทำงานอัตโนมัติสมบูรณ์แบบ ("Virtual Airflow Control") เพียงเรียกใช้งาน Climate menu จะสามารถสลับการทำงานระหว่าง “Focused” เพื่อเน้นประสิทธิภาพในการเพิ่มความเย็นสูงสุด หรือ “Diffused” สำหรับการปล่อยให้ระบบปรับอากาศจัดการทำงาน ด้วยตัวเอง ในกรณีที่ติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ ระบบปรับอากาศ 4 จุดแบบอัตโนมัติ (“Advanced Climate Control”) หน้าจอควบคุมระบบสัมผัสขนาด 5.9 นิ้ว จะได้รับการติดตั้งเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้โดยสารตอนหลังควบคุมอุณหภูมิได้ตามต้องการ



สำหรับ Porsche Taycan ไม่ว่าจะเป็นเฉดสี หรือแม้แต่งานดีไซน์วัสดุตกแต่ง ได้รับการคัดเลือกเพื่อสนองตอบทุกความต้องการเฉพาะตัวอย่างไร้ขีดจำกัด เข้าถึงทุกสไตล์การตกแต่งตั้งแต่ เรียบหรู อนุรักษ์นิยม ร่วมสมัย จนถึงโมเดิร์น อุปกรณ์พิเศษที่ครอบคลุมทุกระดับ ทั้งวัสดุหนังแท้สุดคลาสสิก หรือวัสดุหนังสีแทน “OLEA” ซึ่งใช้ใบมะกอกเพิ่มเติมเข้ามา เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟอกหนัง คุณภาพระดับสูงของหนังแท้ ถูกขับเน้นให้โดดเด่นสวยงามยิ่งขึ้นไปอีกขั้น จากขั้นตอนการตัดเย็บและย้อมสีที่พิเศษสุด ตื่นตาตื่นใจไปกับสัมผัสแห่งความแตกต่างจากงานตกแต่งภายใน ห้องโดยสารลงตัวทั้งศาสตร์แห่งศิลป์ ด้วยพื้นผิวของวัสดุที่มีชื่อว่า “Race-Tex” ถือกำเนิดขึ้นจากเส้นใย microfibre คุณภาพสูงผสมผสานกับเส้นใย polyester fibres ที่ให้ความแข็งแรงคงทน นอกจากนี้ยังสามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการผลิตลงได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ พรมปูพื้นผลิตด้วยวัสดุ recycled fibre “Econyl®” ซึ่งได้จากการรีไซเคิลตาข่ายดักปลาที่ใช้ในอุตสาหกรรมการประมง

Porsche Taycan มาพร้อมความเหนือระดับในการตกแต่งทั้งภายในห้องโดยสาร และตัวถังภายนอก ที่มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะสไตล์คลาสสิกหรือล้ำยุค ชิ้นงานตกแต่งภายในที่ได้รับการคัดสรรอย่างใส่ใจ ทุกรายละเอียด ถึงพร้อมด้วยคุณภาพของวัสดุอันดับหนึ่ง รักษาเอกลักษณ์ในเชิงบรรทัดฐานด้านการเลือกใช้วัสดุ ทรงคุณค่า ผสานกับช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ ซึ่งเป็นหลักปรัชญาที่สืบทอดกันมายาวนานของ Porsche เฉดสีภายในห้องโดยสารทั้ง Black-Lime Beige, Blackberry, Atacama Beige และ Meranti Brown เป็นเฉดสีเฉพาะที่สามารถพบเห็นได้ใน Taycan เท่านั้น โดยชุดตกแต่งภายใน interior accent package ยังเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ เลือกโทนสีที่แตกต่างเพิ่มเติมได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น black matt, dark silver, neodyme หรือ โทนสี elegant champagne แผงประตูและคอนโซลกลางสามารถเลือกประดับชิ้นงานลายไม้แท้ wood trim, matt carbon, embossed aluminium หรือ fabric ได้ตามความต้องการ

นอกเหนือจากนวัตกรรมทันสมัยมากมายข้างต้น Porsche ไม่เคยละเลยรายละเอียดพื้นฐานที่ต้องรักษาเอาไว้ในฐานะผู้ผลิตรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ความยอดเยี่ยมเหนือระดับทุกสิ่งทุกอย่างจะยังคงเดิม ทั้งหมดนี้กำลังรอให้คุณได้สัมผัส เพียงกดสวิตช์ปลดปล่อยพลัง ที่ติดตั้งอยู่ด้านขวาของพวงมาลัย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้