ทดลองขับ อาวดี้ หลายรุ่น เส้นทาง กทม.- เขาใหญ่ – กทม.

855 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โดย อัฐฒา นายเรือ

อาวดี้ ประเทศไทย จัดทริพครั้งยิ่งใหญ่โดยได้จัดเตรียมรถทุกเซ็กเมนต์ของอาวดี้ 16 รุ่น กว่า 40 คัน  ไม่ว่าจะเป็น สปอร์ตพรีเมียม, ลักซ์ชัวรีซีดาน, พรีเมียม SUV, คอมแพคท์คาร์ และ Avant ในกิจกรรม “Press Trip by Audi”  ให้กับบรรดาสื่อมวลชนกว่า 80 ชีวิต ได้ทดลองขับกันบนเส้นทาง กทม. - เขาใหญ่- กทม. 

 

โดยไฮไลท์จะเป็น 3 รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกคือ The New Audi A1 Sportback,  Audi A6 Avant 2.0L Black Edition และ Audi A7 Sportback รุ่น 2.0L และอีกหนึ่งความสำคัญที่สร้างความเร้าใจตลอดทริป คือ ฝูงตระกูล Audi TT ที่มาร่วมทริปครบทั้ง 3 รุ่น คือ Audi TT Coupé, Audi TT Roadster และ Audi TTS

ส่วนกลุ่มตระกูล Q ซีรีส์ อาวดี้จัดมาร่วมทริปทั้ง 3 รุ่น คือ Audi Q8, Audi Q7 และ Audi Q5 รวมถึง Audi A4 Avant, Audi A5 Coupé, Audi A5 Sportback, Audi A7 Sportback 3.0L และ Audi A8L ลักซ์ชัวรี่พรีเมียมซีดาน รถทุกคันล้วนนำเข้าโดยตรงจากประเทศเยอรมนีทั้งสิ้น

 

เราออกเดินทางกันในช่วงสายๆ ด้วยรถ อาวดี้ เอ4 อวันต์ 45 ควอทโทร เอส-ไลน์ แบลคเอดิชันมุ่งหน้าสู่จุดนัดหมายแรกที่ร้านกาแฟแถวสระบุรี โดยวิ่งกันตามสบายแบบฟรีรันระยะทางเกือบ 100 กม. เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับรถรุ่นนี้ รูปทรงภายนอกแบบแวกอนสไตล์รถครอบครัวที่มีความสวยงามลงตัวมากๆ ล้อมีขนาดถึง 19 นิ้วมาพร้อมยางซีรีส์ต่ำ แต่จากการที่เซทระบบรองรับมาได้ดีทำให้มีความนุ่มนวลแฝงอยู่ในการขับขี่แบบสปอร์ท ภายในหรูหรา วัสดุคุณภาพสูง ภายใต้ฝากระโปรงหน้าเป็นที่สถิตย์ของขุมพลังที่แรงจัดจ้านจากเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 252 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ ดูอัล-คลัทช์ 7 จังหวะ เราได้ลองสัมผัสกับการขับที่เร้าใจเมื่อเข้าสู่วงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออกมุ่งหน้าสู่บางปะอิน พละกำลังเรียกมาใช้งานได้ในทันทีตามต้องการแต่เป็นการมาอย่างนุ่มนวล สุภาพ ไม่กระชากแบบหลังติดเบาะทำให้แม้เป็นรถที่แรงแต่ขับง่าย สบาย ไม่เครียด การเร่งแซงทำได้อย่างทันอกทันใจ ทำให้การกะระยะแซงเป็นไปอย่างง่ายดาย ระบบรองรับและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อช่วยเสริมความมั่นคงในการควบคุมรถได้เป็นอย่างดี ระบบเบรกประสิทธิภาพสูง หยุดพละกำลังระดับ 252 ม้าได้อย่างอยู่หมัดแบบไม่มีลุ้น อัตราการสิ้นเปลืองในขณะที่ขับแบบค่อนข้างดุเดือดอยู่ที่ประมาณ 10-12 กม./ลิตร ถือว่าทำได้อย่างน่าพอใจ ถ้าขับกับเรื่อยๆ แบบปกติทำได้เกิน 15 กม./ลิตรได้อย่างสบายๆ เราใช้เวลาไม่นานก็มาถึงจุดหมายแรกเพื่อพักผ่อนชั่วคราวก่อนจะสลับตำแหน่งมาเป็นผู้โดยสารบ้าง         

 

เอ4 อวันท์ ถือว่าเป็นรถที่มีความคุ้มค่าสูงกับค่าตัว 3,249,000 บาท  เพื่อแลกกับรถสไตล์ครอบครัวอเนกประสงค์ พละกำลังมีมาให้อย่างเหลือเฟือ แถมยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกคัน ความหรูหรา ออพชั่นมาเต็ม รายละเอียดต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานของอาวดี้ที่เป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป

 

ในช่วงบ่าย เมื่อถึงที่พักแล้ว เรามีเวลาสั้นๆ ในการสัมผัสกับ อาวดี้ เอ1 35 สปอร์ทแบค ตัวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งจะเปิดตัวก่อนหน้านี้ไม่นาน รูปทรงภายนอกกะทัดรัด น่าขับ ให้ความคล่องตัวสูง แฝงไว้ด้วยความสปอร์ท ล้อให้มาถึงขนาด 18 นิ้ว ดูเต็มและช่วยให้รถมีความโฉบเฉี่ยว ดุดัน มากยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสาร สวิทช์ ปุ่มมาตรวัดต่างๆ อยู่ในสไตล์ของอาวดี้ เราได้ลองนำมาขับกันในบริเวณทอสคานา และออกมาวิ่งบนถนนสายหลักบริเวณใกล้ๆ ที่พัก

 



แม้ว่าตัวรถจะมีขนาดเล็ก พละกำลังระดับ 150 ม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ ดูอัลคลัทช์ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนสองล้อ ก็เพียงพอต่อการใช้งาน ระบบรองรับทำได้ดี เพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่มากขึ้น ผมคิดว่าค่าตัว 2,149,000 บาท เพื่อแลกกับรถยุโรปที่มีความใส่ใจในทุกๆ จุดทั้งในแง่ความสวยงามทั้งภายในและภายนอกตัวรถ การควบคุมบังคับที่ดี ติดตั้งระบบความปลอดภัยมาให้พร้อมทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไข รถคันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการรถประเภทนี้ในงบประมาณราวๆ 2 ล้านบาท     

 

เช้าวันรุ่งขึ้นเราเดินทางจากเขาใหญ่กลับ กทม. ด้วย อาวดี้ เอ5 สปอร์ทคูเปคันงามที่ผมแอบหลงไหลมาตั้งแต่รุ่นแรกที่ออกมาจำหน่ายเมื่อหลายปีก่อน วันนี้ได้มีโอกาสลองกันยาวๆ รุ่นที่เราขับเป็น A5 40 TFSI รุ่นเริ่มต้น ให้กำลัง 190 แรงม้า จากเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อนสองล้อ ราคา 3,299,000 บาท ภายในสวยงามเช่นเคย มีความเป็นเอกลักษณ์ของอาวดี้เช่นเดียวกับรถรุ่นต่างๆ ที่เรากันมาในทริพนี้ แต่พื้นที่ของเบาะนั่งด้านหลังอาจจะคับแคบสักหน่อยตามสไตล์รถสปอร์ท 2 ประตู บุคลิกค่อนข้างจะแตกต่างไปจาก เอ4 อวันต์ การขับขี่ให้ความนุ่มนวลดี พละกำลัง 190 ม้า ก็มีความสนุกอย่างเพียงพอ ให้ความรวดเร็วแต่มาแบบนุ่มนวล เกียร์อัตโนมัติ ดูอัล-คลัทช์ 7 จังหวะให้การต่อเนื่องที่ดีและฉับไว อัตราความสิ้นเปลืองอยู่ที่ราวๆ 13-15 กม./ลิตร ระยะทาง 170 กม. เราใช้เวลานานก็เดินทางมาถึงจุดหมายใน กทม. อย่างรวดเร็ว แฝงไว้ด้วยความสบาย ไม่เหนื่อยล้าในการขับระยะทางไกลๆ การจะซื้อรถสปอร์ทคูเป้คันงามนี้คงต้องมาชั่งใจกับ A4 อวันท์ ในงบ 3 ล้านต้นๆ ถ้าเลือก A5 จะได้ตัวเริ่มต้น ขับสอง 190 ม้า แต่ถ้าเลือก A4 อวันท์ จะมาเต็มทุกอย่างที่ต้องการ 252 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ ควอทโทร เพียงแต่เป็นรถทรงครอบครัว 5 ประตู ขึ้นกับความชอบและงบประมาณ การมองถึงความคุ้มค่าของแต่ละบุคคล

 

สองวันที่ผ่านมาเราได้ซึมซับกับความเป็นอาวดี้อย่างเต็มเปี่ยม แถมยังมีเซอร์ไพรส์ช่วงค่ำคืนด้วยการเปิดตัว Q3 สปอร์ทแบค เวอร์ชันล่าสุดซึ่งถือเป็นเจนเนอเรชันที่สอง ที่มีรูปทรงงดงาม กะทัดรัด แลดูคล้ายกับการนำ A1 มายกสูง ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มี 3 รุ่นย่อยด้วยกันตามอุปกรณ์ที่ใส่เข้ามา โดยตั้งราคาไว้ตั้งแต่ 2,299,000 – 2,649,000 บาท           

ลูกค้าที่ออกรถจะได้รับการดูแลจาก Audi Protection  รับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance 
ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี

ข้อมูลรายละเอียดของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ QUATTRO ที่นำมาใช้กับอาวดี้รุ่นใหม่  

ประสิทธิภาพการทำงานของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “quattro” ที่สร้างความมั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน และมีความปลอดภัย ซึ่งในรุ่น Q5, A6 Avant, A7 จะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro with ultra technology ที่จะมีการประมวลผลอัตโนมัติในการถ่ายทอดกำลังหน้า-หลัง เมื่อจำเป็นเพื่อลดอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง

 

ส่วนในรุ่น A5, A8L, A4 Avant, Q8 และ Q7จะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro แบบกลไกหรือเรียกว่า Self-locking Centre differential ที่ได้รับการพัฒนามาเป็นระยะเวลาเกือบ 4 ทศวรรษและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ดีที่สุด

สามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้า-หลัง ได้อย่างอิสระ และมีการตอบสนองการปรับสัดส่วนกระจายแรงบิดอย่างฉับไวเพียงเสี้ยววินาที ขณะที่ผู้ที่ขับ Audi TT จะได้ประสบการณ์ของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “quattro” แบบอิเล็กโทรไฮดรอลิค มัลติเพลทคลัทซ์ ที่จะจัดการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อหน้าในการขับขี่ปกติ แต่หากอยู่ในบางสถานการณ์ที่ล้อหลังต้องการกำลังเพื่อเพิ่มการทรงตัว หรือเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่

ขอขอบคุณ : อาวดี้ ประเทศไทย ที่มอบประสบการณ์ดีๆ ในการขับขี่รถยนต์อาวดี้หลากหลายรุ่นในช่วงสองวันที่ผ่านมา 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้