NISSAN LEAF NISMO RC || LEAF เวอร์ชันรถแข่ง ลงวิ่งทดสอบในสนาม Circuit Ricardo Tormo วาเลนเซีย ประเทศสเปน

ภาพ : NISSAN UK
เรียบเรียง : Pitak Boon

หลังจาก NISMO (Nissan Motorsport) จับรถไฟฟ้ารุ่นที่ขายดีที่สุดในโลกอย่าง LEAF มาต่อยอดเป็น ‘LEAF NISMO RC’ ก็ส่งลงวิ่งทดสอบในสนามแข่งทั่วโลก ล่าสุดบุกยุโรปเริ่มต้นที่สนาม Circuit Ricardo Tormo ในวาเลนเซีย ประเทศสเปน พิจารณาจากตัวถังภายนอก LEAF เวอร์ชันตัวแข่งได้รับดีไซน์มาจากรถบ้าน หรือ LEAF เจน#2 แบบไม่ต้องสงสัย แต่หากลงลึกถึงภายในจะพบว่าทาง NISMO ได้จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีจากรถแข่ง Formula E โดยตรง

 

โครงสร้างและการจัดวางอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าของ LEAF NISMO RC ถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับรถแข่งเครื่องยนต์วางกลาง ที่ให้การสมดุลน้ำหนักอันยอดเยี่ยม พร้อมจุด C.G. ที่ต่ำ จากตำแหน่งการวางแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อน ขณะที่ความสูงเหลือเพียง 1,212 มิลลิเมตร เตี้ยกว่า LEAF เจน#2 ถึง 300 มิลลิเมตร สำหรับโครงสร้างและตัวถัง NISMO จัดเต็มด้วย ‘คาร์บอนไฟเบอร์’ ตามมาตรฐานรถแข่ง ส่งผลให้น้ำหนักของรถทั้งคันอยู่ในระดับ 1,220 กิโลกรัม หากเทียบกับ LEAF เจน#2 จะเบาขึ้นกว่า 300 กิโลกรัม

 

NISSAN LEAF เจน#2 เวอร์ชันรถบ้านใช้มอเตอร์ High Respond Synchronous AC Motor ให้กำลัง 110 kW หรือประมาณ 150 hp ที่ 3,283-9,795 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 320 Nm ที่ 0-3,283 รอบ/นาที แบตเตอรี่แพ็คจัดวางในส่วนของพื้นห้องโดยสาร เป็นแบบลิเธียมไอออนมีขนาด 40 kWh ระยะทางที่ LEAF วิ่งได้ตามมาตรฐานยุโรป (NEDC) ต่อการชาร์จแบตเต็มแต่ละรอบอยู่ที่ 378 กิโลเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 7.9 วินาที พร้อมท็อปสปีด 140 กม./ชม.

 
หลังจากทีมวิศวกรอัพเกรดเป็น LEAF NISMO RC จึงยกระดับมาขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แต่ละตัวมีกำลัง 120 kW กำลังรวม 240 kW หรือ 322 hp พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 640 Nm โดยมอเตอร์ไฟฟ้าแต่ละตัวแยกกันขับเคลื่อนล้อหน้า และล้อหลังอย่างอิสระ เป็นที่มาของคำว่า ‘all-electric twin-motor and all-wheel-drive drivetrain’ จุดที่เป็นข้อได้เปรียบคือ แรงบิดจาก LEAF NISMO RC ปราศจากอาการรอรอบ กดคันเร่งดึงหลังติดเบาะทันที เพราะแรงบิดสูงสุดมาเต็มๆ ตั้งแต่มอเตอร์เริ่มต้นหมุน อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วระดับซูเปอร์คาร์ ใช้เวลาเพียง 3.4 วินาที ทว่าแตกต่างเพราะ LEAF NISMO RC เป็นรถแข่งที่ไร้มลพิษ

 

รูปแบบการขับเคลื่อน all-wheel-drive ของ LEAF NISMO RC เป็นไปในลักษณะเดียวกับรถไฟฟ้า AWD ทั่วไปนั่นคือ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันทั้ง 2 ตัว กับการขับขี่ที่ต้องการสมรรถนะสูงสุด เช่นการสร้างอัตราเร่งในทางตรง นอกจากนี้ มอเตอร์ยังสามารถสลับกันทำงานเหลือเพียงตัวใดตัวหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น มอเตอร์ตัวหลังทำหน้าที่ขับเคลื่อนรถ ขณะที่มอเตอร์ตัวหน้าชาร์จไฟป้อนกลับเข้าระบบ เพื่อให้ LEAF NISMO RC มีพลังงานสำรองเพียงพอ สำหรับวิ่งทำเวลาต่อรอบในสนามได้จนจบการแข่งขัน

 

เมื่อมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว ทำงานได้พร้อมกัน มันก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นเจเนอเรเตอร์เพื่อสร้างแรงหน่วงขณะ LEAF NISMO RC ชะลอความเร็วก่อนเข้าโค้งได้พร้อมๆ กันด้วย หมายความว่า ระบบจะได้กระแสไฟป้อนกลับไปยังแบตเตอรี่เป็นแบบคูณสอง ดังนั้นจุดเด่นของระบบขับเคลื่อนแบบ all-wheel-drive ใน LEAF NISMO RC ไม่ได้มีแค่เรื่องของพละกำลัง และอัตราเร่ง แต่วิศวกรลงรายเอียดถึงอัตราส่วนในการกระจายกำลังระหว่างล้อหน้า และล้อหลัง ที่เชื่อมโยงไปกับประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ความเสถียรจากการเร่ง รวมทั้งการเข้าและออกจากโค้งด้วย เบื้องต้นทาง NISSAN วางแผนจะผลิต LEAF NISMO RC ออกมาเพียง 6 คัน เพื่อนำไปวิ่งโชว์ตัวให้บรรดาสาวก NISSAN และ NISMO ทั่วโลก ได้สัมผัสถึงสมรรถนะที่แท้จริงของ LEAF รถ EV ที่ขายดีที่สุดในโลก