GIULIA GTA & GTAm || ย้อนรอยตำนานตัวแรงจาก ALFA ROMEO

ภาพและภาพยนตร์ : Fiat Chrysler Automobiles (FCA)
เรียบเรียง : Pitak Boon

Alfa Romeo เป็นอีกหนึ่งค่ายรถยนต์เก่าแก่สัญชาติอิตาเลียน โลดแล่นบนธุรกิจยานยนต์มากว่า 110 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วทุกรูปแบบ ปัจจุบันอยู่ในเครือ Fiat Chrysler Automobiles (FCA) แม้จะมีบริษัทอเมริกันเข้ามาขอเอี่ยว ทว่าดีไซน์ของรถยนต์ Alfa Romeo ก็ยังมีกลิ่นอายของรถอิตาเลียนสายพันธุ์แท้ให้สัมผัสไม่เปลี่ยนแปลง และ Giulia GTA คือ รถเวอร์ชันพิเศษเพื่อร่วมวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 110 ปี ของค่ายนี้ แถมมี GTAm เป็นตัวแต่งพิเศษให้รถพร้อมลงไปซิ่งในสนามแข่งได้ทันที

Giulia GTA ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนามาจาก Giulia Sprint GT ซึ่งเป็นตัวแรงจาก Alfa Romeo ในปี 1965 ตัวอักษร GTA ย่อมาจาก ‘Gran Turismo Alleggerita’ สำหรับ Giulia GTA ใช้พื้นฐานจากรถสปอร์ตซาลูน 4 ประตู รุ่น Giulia Quadrifoglio การอัพเกรดในรอบนี้ยังคงครบถ้วนทั้ง ‘ศาสตร์’ และ ‘ศิลป์’ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์นี้ รถเวอร์ชันพิเศษกำเนิดจากความร่วมมือของทีมวิศวกรระดับเทพ ซึ่งมีส่วนในการออกแบบเทคโนโลยีใน F1 กับทีมดีไซน์เนอร์มือฉมัง ผลงานที่ได้เป็นการขัดเกลา Giulia GTA จนลงตัวทั้งในเรื่องแอร์โร่ไดนามิค, การลดน้ำหนักด้วยวัสดุพิเศษ, งานตกแต่งห้องโดยสารพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัย ที่ให้อารมณ์ระดับน้อง ๆ ตัวแข่ง, ไล่เรียงไปจนถึงการโมแบบจัดเต็มทั้งในส่วนของเครื่องยนต์ และช่วงล่าง

โดยมี GTA เป็นรุ่น 4 ที่นั่ง ส่วน GTAm ถูกหั่นเบาะนั่งด้านหลังทิ้ง เหลือเพียง 2 ที่นั่ง แทนที่ด้วยชุดโรลบาร์สีแดง ที่ยกระดับความปลอดภัยให้ใกล้เคียงกับรถสนามมากยิ่งขึ้น สำหรับเบาะนั่งคู่หน้าถูกเรียกว่า Race Seats เน้นความโอบกระชับ มาพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด ที่ใช้จุดยึดตัวเข็มขัดมาจากโรลบาร์อันแข็งแกร่งนั่นเอง วัสดุหลักที่ใช้ตกแต่งรอบห้องโดยสาร รวมทั้งเบาะนั่งหนีไม่พ้น ‘อาคันทาร่า’ พร้อมเพิ่มดีกรีความดุด้วยทริม ‘คาร์บอนไฟเบอร์’ ในอีกหลายส่วน

ชุดพาร์ทในส่วนของแอร์โร่ไดนามิค เป็นงานออกแบบซึ่งส่งตรงมาจากทีมที่คร่ำหวอดในวงการ F1 อย่างยาวนานนาม ‘Sauber’ นับตั้งแต่ชุด Front Splitter ขนาดใหญ่ สเกิร์ตข้าง ชิ้นปีกหลัง และดิฟฟิวเซอร์ที่ท้ายรถ แน่นอนว่าทั้งหมดผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ทุกส่วนช่วยเพิ่มแรงกดตัวถังในความเร็วสูง นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมงานคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อหวังผลเรื่องการลดน้ำหนักในส่วนของแผ่นหลังคา ฝากระโปรงหน้า กันชนหน้า เพลาขับ และเรือนกระจกมองข้าง สำหรับส่วนที่ใช้อะลูมิเนียมแทนเหล็ก ได้แก่ ส่วนประกอบของเครื่องยนต์ บานประตู และโครงสร้างช่วงล่าง  เบ็ดเสร็จ GTA หั่นน้ำหนักทิ้งไปร่วม 100 กิโลกรัม (เมื่อเทียบกับ Giulia Quadrifoglio) ขณะที่ GTAm จะเบาขึ้นอีก เพราะตัวถังอีกหลายจุดเปลี่ยนไปใช้ Polycarbonate Resin เทคโนโลยีที่ถูกส่งตรงมาจากสนามแข่ง

ตัวเครื่องยนต์ทาง Alfa Romeo เปิดเผยรายละเอียดมาเพียง ใช้บล็อก V6 bi-turbo ขนาด 2.9 ลิตร ที่มาพร้อมชุดท่อไอเสียไทเทเนียมจาก Akrapovic ให้แรงม้าสูงสุด 540 hp เท่ากันทั้ง GTA และ GTAm โดยใน GTAm ซึ่งเบากว่า จะสร้างตัวเลขอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักได้ระดับน้อง ๆ ซูเปอร์คาร์ที่ 2.82 kg/hp ส่งผลให้ GTAm เมื่อใช้บริการจาก Launch Control System จะสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ด้วยเวลา 3.6 วินาที เมื่อได้เครื่องยนต์ทรงพลัง ส่วนต่อไปที่ต้องโมหนีไม่พ้นช่วงล่าง วิศวกรขยายระยะ Track (ช่วงความกว้างล้อ) ทั้งด้านหน้าและหลัง เพิ่มอีก 50 มิลลิเมตร เพื่อรับกับยางหน้ากว้าง พร้อมล้อ 20 นิ้ว แบบ Centre Lock จากนั้นเซทส่วนประกอบช่วงล่างอื่น ๆ ยกชุด ทั้งเพิ่มค่าความแข็งของสปริง พร้อมทั้งลดความสูง เปลี่ยนไปใช้โช้คอัพแบบ Hi-performance รวมทั้งเปลี่ยนบู๊ชตามส่วนต่าง ๆ เป็นเกรดเดียวกับตัวแข่งทั้งหมด ปิดท้ายด้วยจานเบรกคาร์บอนเซรามิคจาก Brembo

สุดท้าย...รถเวอร์ชันครบรอบ 110 ปี จาก Alfa Romeo ทั้ง Giulia GTA และ Giulia GTAm ผลิตแบบจำกัดจำนวนรวมทั้ง 2 รุ่น ไว้ที่เพียง 500 คัน เท่านั้น