LAMBOGHINI Sián || ซูเปอร์คาร์ไฮบริด 819 แรงม้า

ภาพและภาพยนตร์ : Automobili Lamborghini S.p.A.
เรียบเรียง : Pitak Boon

Lambo Sián เผยโฉมอย่างเป็นทางการในงาน IAA Frankfurt Motor Show ปี 2019 ไฮไลท์อยู่ที่ความแรงระดับ 819 แรงม้า จากขุมพลังไฮบริดเป็นครั้งแรก ทะยานผ่าน 100 กม./ชม. เร็วกว่า 2.8 วินาที ท็อปสปีดทะลุเพดาน 350 กม./ชม. ทุกรายละเอียดโหดกว่า Aventador SVJ ซึ่งปัจจุบันเป็นตัวท็อปของโมเดล โดยพื้นฐานในการสร้าง Sián ซึ่งเป็นซูเปอร์คาร์ไฮบริด ก็มาจาก Aventador SVJ รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ปกตินั่นเอง

 
ระบบไฮบริดใน Sián วิศวกร Lambo จับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 34 hp มาทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ V12 NA (Naturally Aspirated) รหัส ‘L539’ ซึ่งยังคงแนวคิด ‘เครื่องยนต์หายใจเอง’ ปราศจากระบบอัดอากาศที่จะมาลดคุณค่าของความเป็น Lambo ทว่าเครื่องยนต์บิ๊กบล็อก สมรรถนะสูงอันเป็นทีเด็ดของบรรดาซูเปอร์คาร์ จะกลายเป็นปัญหาในอนาคตอันใกล้ ในวันที่รถยนต์จะถูกบังคับด้วยมาตรฐานควบคุมมลพิษอันเข้มข้น

ดังนั้น ลำพังเทคโนโลยีในขุมพลัง ICE ของรถแรงกลุ่มนี้ จะไม่สามารถผ่านมาตรฐานมลพิษได้เลย วิธีที่ง่ายและเร็วที่สุด ซึ่งช่วยให้เครื่องยนต์สมรรถนะสูงได้ไปต่อ คือการนำระบบไฮบริดเข้ามาช่วยลดโหลดของเครื่องยนต์ในบางช่วงเวลา เป็นสูตรสำเร็จของทั้ง Ferrari, Porsche และ Lambo ซึ่ง Sián นับเป็นก้าวแรกของค่ายกระทิงเปลี่ยว ที่เครื่องยนต์ V12 พร้อมทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ

 

ตำนานของค่าย Lambo อย่าง Countach ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์ตัวถังของ Sián ผลงานที่ออกมาเป็น ‘ซูเปอร์คาร์สไตล์เรโทร’ ที่รับ DNA ประจำค่ายมาแบบครบถ้วน พื้นผิวตัวถังดึงดูดสายตาด้วยการนำรูปทรง 6 เหลี่ยมหลายๆ ชิ้นเข้ามาเชื่อมต่อกัน (ไอเดียจากเครื่องบินรบ Stealth) ส่วนหลังคาถูกออกแบบเป็นรูปทรงตัว Y ได้แนวคิดมาจากท่อดูดอากาศ NACA ในรถแข่ง รับหน้าที่ดักลมเข้าห้องเครื่องที่กลางตัวถัง อีกทั้งช่วยส่งผ่านลมไปยังปีกหลังเพื่อสร้างแรงกดท้าย สำหรับชิ้น Splitters หรือครีบรีดอากาศด้านหน้ารถ รวมทั้งพาร์ทแอร์โร่ไดนามิครอบตัวถัง ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด

เครื่องยนต์ V12 วางทำมุม 60 องศา ตัวฝาสูบผลิตจากอะลูมิเนียมซิลิคอน ฝาสูบแต่ละฝั่งจึงมีน้ำหนักเพียง 21 กิโลกรัม แบริ่งและเพลาข้อเหวี่ยงผลิตจากกรรมวิธีฟอร์ช สุดแข็งแกร่งพร้อมรองรับแรงระเบิดจากทั้ง 12 สูบ แต่เบาเพียง 24.6 กิโลกรัม ตัวเครื่องยนต์มีน้ำหนักรวมที่ 235 กิโลกรัม จาก ‘L539’ เครื่องยนต์มาตรฐานใน Aventador SVJ วิศวกรจับมาโมต่อด้วยสูตรเครื่องแข่ง อาทิ การใช้วาล์วไอดีไททาเนียม, ปรับรูปทรงภายในท่อร่วมไอดี รวมทั้งลดความยาว และแรงเสียดทาน, เปลี่ยนท่อไอเสียชุดใหม่ที่เบาขึ้น พร้อมลดแรงดันย้อนกลับ ผลลัพธ์คือแรงม้า 785 hp (577 kW) ที่ 8,500 รอบ/นาที

จากนั้นเสริมแรงขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (ค่ายนี้ใช้ชื่อ e-motor) ขนาด 48-volt แรง 34 hp ที่ถูกซ่อนไว้ในกระปุกเกียร์ สรุประบบไฮบริดของ Sián มีกำลังรวม 819 hp (602 kW) โดยมีอุปกรณ์ชื่อ Supercapacitor เทคโนโลยีตรงจากสนามแข่งมาทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้า ถูกติดตั้งระหว่างห้องโดยสารกับเครื่องยนต์ ถ้าเปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในรถไฮบริดทั่วไป Supercapacitor จะประจุไฟได้เร็วกว่า 10% เป็นแหล่งเก็บพลังงานที่ถูกออกแบบเพื่อการชาร์จไฟตลอดเวลา โดยทั้ง Supercapacitor และ e-motor ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่เพิ่มเข้ามาในส่วนของระบบไฮบริด จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 34 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นที่มาของตัวเลขอัตราส่วน ‘น้ำหนัก/แรงม้า’ ระดับ ‘1.0 kg/hp’ กลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับซูเปอร์คาร์ไฮบริดในอนาคต โดย Sián จะถูกผลิตแบบ Limited Edition จำกัดไว้ที่เพียง 63 คัน เท่านั้น