ทดลองขับ ALL NEW HONDA CITY TURBO 2020 ..อีโคคาร์ จี๊ดจ๊าดเร้าใจ ขับในเมืองคล่่องตัว เดินทางไกลได้สบายๆ

10845 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โดย อัฐฒา นายเรือ

หลังจากที่ฮอนด้าผลิตรุ่น บริโอ และ อเมซ อีโคคาร์เฟสแรก ออกมาจำหน่ายมานานพอสมควร ก็ได้เริ่มพัฒนารถเพื่อให้เข้าหลักเกณฑ์ของ อีโคคาร์ เฟส 2 ที่มีความเข้มข้นขึ้นในเรื่องของอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและค่าปริมาณไอเสีย เพื่อให้ได้รับอานิสงส์ของอัตราการเก็บภาษีที่ลดลงเป็นการตอบแทน จนในที่สุดก็ได้ผลลัพท์ออกมาเป็น ฮอนด้า ซิตี้ สายพันธุ์ที่ 5 เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย โดยนำเครื่องยนต์ 3 สูบ ตัวใหม่ที่ลดปริมาตรความจุจากรุ่นเดิม 1.2 ลิตร เหลือแค่ 1.0 ลิตร เพื่อให้มีอัตราความสิ้นเปลืองที่ลดต่ำลง โดยมีเทอร์โบมาช่วยเพิ่มพลังให้เครื่องยนต์ตัวเล็กนี้มีพละกำลังใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร แถมยังมีแรงบิดสูสีกับเครื่อง 1.8 ลิตรเลยทีเดียว แต่ให้ความประหยัดเชื้อเพลิงต่างกันมากทีเดียว โดยตั้งราคาเริ่มต้นเพียง 579,500 บาท ไปจนถึงตัวทอพ 739,000 บาท


เราได้ ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นอาร์เอส ซึ่งเป็นตัวทอพของเวอร์ชันนี้มาทดลองขับกันทั้งในสภาพการจราจรในเมืองและวิ่งทางไฮเวย์แบบยาวๆ ที่สามารถทำความเร็วได้ เพื่อรับทราบข้อมูลของซิตี้คาร์คันใหม่นี้กัน

รูปทรงภายนอกถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวทีเดียว ขนาดกะทัดรัดคงจะเป็นที่ถูกใจวัยรุ่นและสุภาพสตรีไม่น้อย ตัวถังเตี้ยลงจากซิตี้ตัวเดิม 10 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 53 มม. ความยาวเพิ่มขึ้น 113 มม.

ด้านหน้าติดตั้งกระจังหน้าแบบโครเมียม, ชุดไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟเดย์ไลท์แอลอีดีสำหรับวิ่งในเวลากลางวัน, ชุดไฟท้ายแบบแอลอีดี, เสาอากาศแบบครีบฉลาม ฯลฯ ส่วนในรุ่น อาร์เอส ยังมีการตกแต่งแอโรพาร์ทและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเสริมบุคลิกสปอร์ทรอบคัน ล้อแม็คขนาด 16 นิ้ว แลดูลงตัวกับบอดี้นี้ แต่ถ้าเพิ่มความสวยสะดุดตา ผู้ซื้อคงจะเปลี่ยนล้อแม็คเพิ่มขนาดไปเป็น 17-18 นิ้ว มาพร้อมยางซีรีส์ต่ำ แต่อัตราเร่งและอัตราความสิ้นเปลืองน่าจะด้อยลงไปบ้างเพื่อแลกกับความสวยงามและการยึดเกาะถนนที่มั่นคงยิ่งขึ้น

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ให้ความสะดวกสบาย การตกแต่งมาให้แนวเรียบหรูแฝงไว้ด้วยความสปอร์ท อุปกรณ์ทั้งในแง่การอำนวยความสะดวกและความบันเทิงในตัวทอพนี้ให้มามากเกินพอเลยทีเดียว ประกอบไปด้วย มาตรวัดเรืองแสง, จอแสดงข้อมูลการขับ, จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน iOS ด้วย Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน SIRI, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน  ฯลฯ

การใช้งานในเมืองที่มีการจราจรคับคั่ง รถติดสลับเคลื่อนตัวช้าๆ ซิตี้ใช้งานได้ดี ให้ความคล่องตัวสูง โดยเฉพาะการที่ต้องเปลี่ยนช่องทางวิ่งในบางจังหวะ อัตราเร่งตีนต้นทันใจดี 0-100กม./ชม. อยู่ที่ราวๆ 10 วินาที ตัวรถหนักแค่ 1,154 กก.  

ในขณะใช้ความเร็วสูงๆ บนเส้นทางไฮเวย์ ฮอนด้า ซิตี้ แม้มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กแต่มีการตอบสนองได้ดีจากพละกำลังจากเครื่องยนต์ติดเทอร์โบที่มาพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ เวสท์เกทไฟฟ้า ให้กำลัง 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 17.6 กก.-ม. ที่ 2,000 – 4,500 รตน. รองรับการใช้งาน E20 ส่งกำลังผ่านเกียร์แบบ CVT ที่มีอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง สามารถควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด


ซิตี้ เป็นรถที่ขับสนุก ผมว่ามีอัตราเร่งดีกว่ารถ 1.5 ลิตรหลายๆ คันที่ได้เคยลองขับมาเลย การควบคุมบังคับในช่วงความเร็วประมาณ 120-140 กม./ชม. ยังคงให้ความมั่นใจดี พวงมาลัยที่ใช้ระบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าที่สามารถปรับน้ำหนักโดยอัตโนมัติเซทมาค่อนข้างลงตัว ในเมืองพวงมาลัยจะเบาขับสบาย แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงจะปรับมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นซึ่งผมถือว่ากำลังเหมาะพอดี ไม่เบาหวิวจนเกิดความเครียดในขณะขับเร็วๆ เกียร์ซีวีทีแบบใหม่ให้ความรู้สึกในการใช้งานใกล้เคียงกับเกียร์อัตโนมัติแบบเดิม ไม่ต้องปรับตัวในการใช้งานมากนัก การทำงานนุ่มนวลและต่อเนื่องดี การเก็บเสียงรบกวนทั้งในการวิ่งในเมืองและนอกเมืองขณะใช้ความเร็วสูงทำได้เงียบมากแม้จะเป็นรถประเทอีโคคาร์ก็ตาม



ระบบรองรับตอบสนองการขับขี่ที่ค่อนข้างสปอร์ท ยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวล นั่งสบาย ไม่รู้สึกกระด้าง  การทรงตัวขณะใช้ความเร็วในช่วง 140 กม./ชม.ยังเป็นไปด้วยดี การใช้งานโดยทั่วไปถือว่าน่าพอใจ แต่ผู้ที่ใช้ความเร็วสูงในการเดินทางเป็นประจำและต้องการความมั่นคงในการควบคุมมากขึ้นอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อแลกกับช็อคอัพสไตล์สปอร์ท 4 ต้น รวมทั้งเปลี่ยนขนาดล้อแม็คและยางซีรีส์ต่ำลง ซึ่งก็ต้องแลกกับความนุ่มนวลที่ลดลงไปบ้าง แต่การขับขี่จะมีความมั่นคง กระชับขึ้นอย่างแน่นอน แต่สำหรับการใช้งานปกติ ระบบรองรับ ล้อ ยาง ชุดที่มาจากโรงงานนี้ผมถือว่าดีเพียงพอแล้ว
 
อัตราการสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยในขณะวิ่งด้วยความเร็วสูงสลับกับการวิ่งตามปกติ ราว 70-100 กม./ชม. ฮอนด้า ซิตี้ทำได้ราว 16 กม./ลิตร. ถ้าขับสบายๆ แบบไม่เร่งรีบตัวเลข 18-20 กม./ลิตร น่าจะมีให้เห็นได้โดยไม่ยากเย็น ระบบห้ามล้อ ด้านหน้าแบบจาน หลังดุม มาพร้อมระบบเอบีเอสให้ความปลอดภัยและมั่นใจในการหยุดรถเป็นอย่างดี




ระบบความปลอดภัยประกอบด้วย โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control (G-CON), ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบกระจายแรงเบรค EBD, ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง Vehicle Stability Assist, ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Start Assist และกล้องหลังแบบปรับมุมมองได้ 3 ระดับ Multi-angle Rearview Camera ฯลฯ ถือว่าให้มาพร้อมจนไม่รู้ว่าจะต้องติดอุปกรณ์อะไรเพิ่มเติมแล้ว

ฮอนด้า ซิตี้ ถือว่าเป็นอีโคคาร์ในรูปแบบใหม่ที่มีความคุ้มค่า น่าใช้ อุปกรณ์ใช้งานต่างๆ มีมาให้ครบทั้งในแง่ความสะดวกสบายและปลอดภัย คุณภาพรถอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจในระดับต้นๆ ของรถอีโคคาร์ในยุคนี้ ราคามีให้เลือกตั้งแต่ 54 แสนต้นๆ ไปจนถึง 7 แสนต้น แตกต่างกันที่อุปกรณ์และรายละเอียดต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ซื้อว่าความพอใจอยู่ที่จุดไหน    

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้