ทดลองขับ นิสสัน คิกส์ ขุมพลัง อี-พาวเวอร์

โดย อัฐฒา นายเรือ

นิสสัน คิกส์ คอมแพค เอสยูวี เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย  มาพร้อมเทคโนโลยี  อี-พาวเวอร์ ที่ได้ปฏิวัติระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หลังจากที่ อี-เพาเวอร์ ได้ทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นเป็นแห่งแรก โดยรถยนต์จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนเครื่องยนต์สันดาปภายในจะทำหน้าที่เพียงแค่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับระบบ ซึ่งจะแตกต่างจากระบบไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า  อี-พาวเวอร์ จะประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลักคือ เครื่องยนต์เบนซิน, เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (generator), อินเวอร์เตอร์ (Inverter), มอเตอร์ไฟฟ้า (electric motor) และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion battery)

 

ประเทศไทยเป็นประเทศแรกต่อจากประเทศญี่ปุ่นที่ผลิตเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ และยังเป็นหนึ่งในประเทศ แรกๆ ที่เปิดตัวเทคโนโลยีนี้ เอกลักษณ์ของเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ คือ เมื่อต้องการเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นหรือขับขึ้นที่สูงชัน มอเตอร์ไฟฟ้าจะได้รับพลังงานไฟฟ้าจากทั้งแบตเตอรี่และอินเวอร์เตอร์เพื่อเพิ่มพละกำลัง  ในขณะชะลอความเร็ว เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและฟื้นฟูพลังงานด้วยการชาร์จพลังงานไฟฟ้ากลับสู่แบตเตอรี่จนกระทั่งรถหยุดนิ่ง ทำให้ไม่มีการสิ้นเปลืองพลังงานจากการลดความเร็ว
 

เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ในนิสสัน คิกส์ ใหม่ ประกอบไปด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า EM57 เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (generator) และอุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) ทีผลิตกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาด 1.2 ลิตร 12 วาล์ว 3 สูบ แถวเรียงแบบ DOHC ระบบอี-พาวเวอร์ ให้พละกำลังสูงสุด 95 กิโลวัตต์ (129 พีเอส) มีแรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร (Nm) และใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ที่มี 4 โมดูล ทำให้นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ มีอัตราเร่งที่ราบรื่น ให้การขับขี่ที่เงียบ มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ และมอบประสบการณ์การขับขี่เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ยังเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ด้วยเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ วัน-เพดัล (One-Pedal) ช่วยให้ผู้ขับขี่ เร่ง ชะลอความเร็ว และเบรกจนรถหยุดนิ่งได้ด้วยคันเร่งเพียงอย่างเดียว การใช้คันเร่งเดียวช่วยให้ การรักษาระยะห่างระหว่างรถยนต์คันหน้า การชะลอความเร็ว และการหยุดเมื่อลงเขาหรือหยุดเมื่อเจอสัญญาณไฟจราจร สะดวกสบายและง่ายยิ่งขึ้น
 

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ มาพร้อมกับการขับขี่ 4 รูปแบบ คือ แบบปกติ (Normal Mode) แบบเอส หรือสมาร์ทโหมด(Smart Mode) แบบอีโค (Eco Mode) และ แบบอีวี (EV Mode) ซึ่งการขับขี่ในแบบปกติจะให้อัตราเร่งความเร็ว และการหยุดรถที่ดีเยี่ยม (โดยการปล่อยเท้าออกจากคันเร่ง) เทียบเท่ากับการหยุดของรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในทั่วๆ ไป

ในแบบเอส หรือสมาร์ทโหมด รถจะเพิ่มประสิทธิภาพการเร่งความเร็วและการหยุดรถได้ดีมากยิ่งขึ้น

ในแบบอีโค (Eco) รถจะปรับการขับเคลื่อนเพื่อการประหยัดน้ำมัน โดยเน้นใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง

นอกจากนี้ยังมีการขับขี่ด้วยอีวี (EV) ที่ปรับเปลี่ยนให้รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เหลือภายในแบตเตอรี โดยเครื่องยนต์จะไม่ทำงานเมื่อแบตเตอรีอยู่ในระดับต่ำ สัมผัสถึงความเงียบและอีกขั้นของความประหยัด

นอกจากนี้ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ยังมาพร้อม 14 เทคโนโลยีจาก นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี (NissanIntelligent Mobility) ที่ดีที่สุด อาทิ เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control) เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning) เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking) เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning system) เทคโนโลยีเตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมด้วยเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection) และเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Intelligent Rear View Mirror) เป็นต้น

ขณะที่คุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของนิสสัน คิกส์ ใหม่ ประกอบไปด้วยระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (Anti-lock Braking System) ระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake Force Distribution System) และระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist) เป็นระบบมาตรฐานในรถยนต์ทุกรุ่น รวมไปถึงถุงลมนิรภัย SRS 6 จุด

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ประกอบไปด้วย ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control ), ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Intelligent Ride Control), ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Intelligent Trace Control), เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts)    

การออกแบบ และ การเชื่อมต่อ ที่โดดเด่น

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ มีรูปแบบที่โดดเด่นทันสมัย อาทิ กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า และไฟท้ายแบบบูมเมอแรง หลังคาแบบลอยตัว (floating roof) พร้อม ที่บังแดด (wrap-around visor) จากกระจกหน้าไปถึงกระจกข้าง เสาหลังคาท้ายถูกซ่อนพรางสายตาด้วยสีดำที่ผสมผสานเข้ากับกระจกประตูท้าย ในขณะที่หลังคาแบบลอยตัวถูกขยายออก ทำให้ดูโดดเด่นสะดุดทุกสายตา

การออกแบบภายนอก ประกอบไปด้วย ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบบูมเมอแรง LED Signature Light ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED ไฟหน้า พร้อมระบบ Follow-me-home ไฟท้ายแบบ LED ภายนอกมีความปราดเปรียว กว้างและยาวขึ้น ภายใต้ปรัชญาในการสร้างสรรค์รถยนต์แบบ “รูปทรงเรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry” ที่เพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในที่กว้างขวาง

 

แผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่ หน้าจออินโฟเทนเมนท์ (infotainment) พวงมาลัย และเบาะที่นั่ง ห้องโดยสารที่มีสไตล์ ได้รับการออกแบบมาอย่างดี รวมถึงการออกแบบแผงหน้าปัดด้วยลายเส้นของแนวปีกเครื่องร่อนหรือ Gliding Wing จอสีแสดงผลบนหน้าปัดขนาด 7 นิ้ว ติดตั้งอยู่ภายในพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์เต็มรูปแบบ นอกจากนี้ยังนำเสนอลวดลายภายในแบบ   ทูโทน สีดำและสีส้ม ซึ่งมีเฉพาะในรุ่น VL เท่านั้น

 

ด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligent Integration) จัดการผ่านระบบข้อมูลและความบันเทิง Nissan Connect ระบบอินโฟเทนเมนท์ มาพร้อมหน้าจอสีระบบสัมผัสแบบ AIVI ขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อสาระและความบันเทิง ระบบนำทาง และความปลอดภัย ภายใต้แพลตฟอร์มเดียว โดยผ่านการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Apple CarPlay (สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS) นอกจากนี้ Nissan Connect ยังแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติหลักของนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ มาพร้อม 6 สีภายนอกให้ลูกค้าเลือก ได้แก่ สีดำ แบล็ค สตาร์ (Black Star)       สีขาว สตอร์ม ไวท์ (Storm White) สีแดง เรเดียนท์ เรด (Radiant Red) สีเทา กัน เมทาลิค (Gun Metallic)     สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ (Brilliant Silver) และสีส้ม โมนาร์ช (Monarch Orange) นอกจากนี้ยังนำเสนอสี   ทูโทนที่เป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้า มอบความรู้สึกหรูหรามากขึ้น ด้วยหลังคาแบบลอยตัวสีดำ โดดเด่นสะกดทุกสายตา ซึ่งมีให้เลือกเฉพาะในรุ่น VL สำหรับ 4 สีภายนอก สีส้ม โมนาร์ช สีแดง เรเดียนท์ เรด สีเทา กัน เมทาลิค และสีขาว สตอร์ม ไวท์

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ มี สี่รุ่นย่อย พร้อมราคาเริ่มต้นช่วงเปิดตัว  ดังนี้:

·       1.2 ลิตร รุ่น S    889,000 บาท

·       1.2 ลิตร รุ่น E    949,000 บาท

·       1.2 ลิตร รุ่น V     999,000 บาท

·       1.2 ลิตร รุ่น VL   1,049,000 บาท

ทดลองขับ นิสสัน คิกส์

ทาง นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้จัดกิจกรรมให้ผู้สื่อข่าวได้ทดลองขับ นิสสัน คิกส์ กันที่สนามแข่งปทุมธานี สปีดเวย์ โดยจัดเป็นสถานีต่างๆ เพื่อให้เราได้ทดลองสมรรถนะและประสิทธิภาพ การใช้งานโดยจำลองสถานการณ์ต่างๆ ในการขับขี่ไว้ในสนามแข่งแห่งนี้ ซึ่งมีทั้งการทดลองความคล่องตัว การควบคุมบังคับในรูปแบบต่างๆ เช่น การขับแบบซิกแซก หรือ สลาลอม ซึ่งมีการวิ่งสลับทิศทางไปมา การเข้าโค้งรูปแบบต่างๆ  ทดลองอัตราเร่งบนทางตรงยาวๆ เพื่อดูการตอบสนองของสมรรถนะจากมอเตอร์ไฟฟ้า รวมไปถึงการที่เราได้ทดลองใช้เทคโนโลยี วัน-เพดัล (One Pedel) ที่จะควบคุมการเร่งหรือชลอความเร็วโดยใช้เท้าเดียวในการสั่งงานไปยังแป้นคันเร่ง ซี่งเป็นการใช้งานที่สะดวกสบาย คล่องตัว โดยเท้าขวาไม่ต้องคอยสลับตำแหน่งไปมาระหว่างคันเร่งและเบรค
 
ในขณะที่ไฟในแบตเตอรีเริ่มอ่อนจากการใช้งาน เราก็จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้ามาเก็บไว้ที่แบตเตอรีเพื่อให้มอเตอร์ไฟฟ้านำไปใช้ขับเคลื่อน

การควบคุมบังคับทำได้ดี นิสสัน คิกส์ ให้ความคล่องตัวสูง เหมาะมากสำหรับการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นและวุ่นวาย วงเลี้ยวแคบสุด 5.1 เมตร สะดวกสบายโดยเฉพาะการกลับรถในสถานที่แคบๆ

ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม คอยล์สปริง ได้รับการเซทมาค่อนข้างนุ่มนวลสำหรับการใช้งานโดยทั่วไป ไม่ได้จงใจให้มีการควบคุมสไตล์สปอร์ท แต่การเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนแบบกะทันหันยังคงทำได้ดีทีเดียว โดยมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวควบคุมการทำงานด้วยอีเลคทรอนิคที่มีเซนเซอร์รับสัญญาณจากจุดต่างๆ ที่จะเข้ามาช่วยในยามที่รถเสียอาการหรือเกิดการลื่นไถล ซึ่งในวันที่เราทดลองขับนี้สภาพพื้นทางวิ่งลื่นมากจากที่มีฝนตกเมื่อคืนก่อนที่เราจะมาขับกัน และพื้นทางวิ่งมีทั้งดิน ทราย ปะปนอยู่โดยตลอด บางครั้งเราก็ลองใช้ความเร็วที่เกินลิมิตที่ระบบช่วงล่างจะรองรับได้เพื่อดูอาการของรถและทดลองระบบตัวช่วยต่างๆ ปรากฏว่า พอเรารู้สึกว่าตัวรถเสียการควบคุม เริ่มมีการลื่นไถล ระบบจะเข้ามาทำงานได้อย่างรวดเร็วและแก้สถานการณ์ฉุกเฉินได้เป็นอย่างดีเกินกว่าที่เราคาดหมายไว้สำหรับรถเล็กๆ ราคาประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งระบบเหล่านี้เรามักพบเจอในรถหรูที่มีราคาสูง ระบบตัวช่วยนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างมากทีเดียวซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่เราประทับใจนอกเหนือไปจากเทคโนโลยี อี-เพาเวอร์ที่รถได้เคยสัมผัสเป็นครั้งแรก
 

อัตราเร่งของรถคันนี้ทำได้ดี 0-100 กม./ชม. อยู่ในช่วง 10 วินาทีต้นๆ เร็วกว่ารถอีโคคาร์ทั้งหลายที่ทำได้ประมาณ 10 วินาทีกลางๆ หรือ 10 ปลายๆ ความเงียบของระบบขับเคลื่อนทำให้เราได้ยินเสียงต่างๆ เช่น เสียงลม เสียงยางสัมผัสกับพื้นถนนมากขึ้นตามไปด้วย ยางขนาด 205/55 R17 ถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานและขนาดของตัวรถ ระบบเบรกแบบดิสค์ 4 ล้อ มาพร้อมระบบ ABS ให้ความปลอดภัยสูงในการหยุดรถ เป็นรถเล็กที่ถือว่าติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ มาได้ครบคุ้มราคาทีเดียว
 

แต่เมื่อเทียบกับอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงที่ทำได้ประมาณ 20 กว่ากม./ลิตร ก็ถือว่าไม่หนีจากบรรดาอีโคคาร์ทั้งหลาย และมีราคาที่สูงกว่าอีโคคาร์อยู่พอสมควรเพื่อแลกกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เป็นตัวเชื่อมต่อในระหว่างที่รถไฟฟ้าที่ต้องมีการเสียบชาร์จไฟซึ่งในขณะนี้ยังต้องรอความพร้อมอีกหลายปี โดยเฉพาะในเรื่องของสถานีชาร์จไฟฟ้าทั่วประเทศ อี-เพาเวอร์จะเข้ามาช่วยให้เราได้ใช้รถไฟฟ้าได้เร็วขึ้นโดยใช้เครื่องยนต์สันดาบภายในที่ใช้น้ำมันเป็นพลังงานในการปั่นกระแสไฟมาให้มอเตอร์ไฟฟ้าได้ใช้งาน เราก็จะสามารถเดินทางไปไหนก็ได้เช่นเดียวกับรถยนต์ทั่วไปโดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนรถไปยังสถานที่ต่างๆ ตามที่เราต้องการโดยการเติมน้ำมันเพื่อใช้เป็นพลังงานในการปั่นไฟเท่านั้นเอง    

 

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ทุกรุ่น มาพร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มี อายุการใช้งานที่นาน มีความทนทาน และมีสมรรถนะและคุณภาพสูงเป็นเวลา 10 ปี และรับประกันระบบไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี และการรับประกันคุณภาพรถยนต์ ใหม่ เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

 

นิสสัน คิกส์ เป็นรถไฟฟ้าขนาดคอมแพคที่น่าสนใจอีกคันหนึ่งที่จะช่วยให้เราใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานที่เงียบ การตอบสนองอัตราเร่งที่รวดเร็ว การควบคุมบังคับที่ไว้ใจได้และปลอดภัยจากอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาให้ครบเกินราคา ผู้ที่สนใจแวะไปลองขับที่โชว์รูมนิสสันทั่วประเทศเพื่อสัมผัสและรับรู้ถึงเทคโนโลยี อี-เพาเวอร์ ที่ช่วยให้คุณสามารถเริ่มใช้รถที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องคำนึงถึงจุดชาร์จไฟฟ้าเลย เข้าปั๊มน้ำมันเติมเชื้อเพลิงได้เหมือนรถยนต์ทั่วไป