Mercedes-Benz S350d Exclusive อัครฐานของผู้บริหาร..บ่งบอกความเหนือระดับ

1242 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้เชิญสื่อมวลชนมาร่วมทดสอบยานยนต์ระดับหรูเรือธงของค่าย S-Class เวอร์ชั่นประกอบในประเทศภายใต้รุ่น S350d Exclusive และ S350d AMG Premium ในรูปแบบของ New Normal       

ซึ่งการทดลองขับในครั้งนี้ต้องเรียนกว่าเป็นพรีวิวสำหรับทีมงานของเรา เนื่องจากมีเวลาในการทดสอบค่อนข้างน้อย(ทั้งที่จริงๆ ทางค่ายปล่อยรถให้ 1 วันเต็มๆ แต่เนื่องจากภารกิจในช่วงบ่าย เราเลยมีเวลาได้จับรถเพียง 4 ชม. เท่านั่น) โดยทางเราได้เลือกรถรุ่น S350d Exclusive มาพรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้อ่าน และรับชมทางช่อง Youtube ของเรา
 

       

รูปลักษณ์ภายนอกของ S-Class ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซ็พท์ Sensual Purity เน้นความโฉบเฉี่ยว หรูหรา ทันสมัยมากยิ่งขึ้น มิติของตัวรถเมื่อมองผ่านตาในครั้งแรกดูเหมือนตัวรถจะใหญ่ใกล้เคียงกับรุ่นเดิมๆ ทั้งที่ความเป็นจริง ตัวรถมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเดิมในทุกมิติ ด้วยแนวทางการออกแบบของทีมวิศวกรที่พยายามใช้เส้นสายของตัวรถหลอกตาให้มิติของตัวรถดูเพรียว และเล็กลง



ซึ่งแนวของเส้นสายบางส่วนเป็นการนำเอาเส้นสายของสปอร์ตซีดาน คูเป้ ตัวหรูของค่าย CLS มาผสมผสานลงไปได้อย่างกลมกลืน และลงตัว สังเกตง่ายๆ เส้นสายด้านข้างตัวรถบริเวณพื้นที่กระจกประตูทั้ง 4 บานดูมีขนาดเล็กลง และบริเวณของพื้นที่โครงสร้างที่มีมากกว่า รวมไปถึงการออกแบบเส้นสายหลังคาแบบ Catwalk Line ช่วยกดให้รถดูต่ำลง และการที่ออกแบบให้มีเส้นนำสายตาพาดผ่านตัวรถจากด้านหน้าไปจรดด้ายท้ายทำให้ตัวรถดูมีมิติ และไม่เทอะทะแต่อย่างใด ซึ่งผลของการออกแบบในลักษณะนี้ส่งผลให้ระยะฐานล้อยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 51 มิลลิเมตร และพื้นที่ห้องโดยสารมีความกว้างขวางขึ้นกว่าเดิมในทุกมิติ


ด้านหน้าโดดเด่นด้วยชุดกระจังหน้าโครเมี่ยมขนาดใหญ่ พร้อมโลโก้ “ดาวสามแฉก” ประดับอยู่บนฝากระโปรงหน้า(บ่งบอกความเป็นเรือธงของค่าย) รถรุ่นอื่นๆ ของค่าย โลโก้นี้จะไปโดดเด่นอยู่บนกระจังหน้าแทน ในกระจังหน้าได้มีการติดตั้งชุดกล้องของระบบความปลอดภัย และภาพรอบทิศทางซ่อนอยู่


ไฟหน้าแบบ Quad LED พร้อม Daytime Running Light กันชนหน้าออกแบบให้มีเส้นสายที่คล้ายๆ กับสปอร์ตคาร์ตัวแรง GTR  พร้อมเดินเส้นโครเมี่ยมล้อมกรอบช่องดักลม ทำให้ด้านหน้าดูหรูหรา มีสไตล์ กระจกมองข้างมาพร้อมกับชุดไฟเลี้ยวแบบ LED และด้านล่างซ่อนกล้องมองรอบคัน


หลังคาของ S-Class มาในรูปแบบ Panoramic Roof แบบเปิดกระดก-สไลด์ได้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น และเพิ่มความสุนทรีย์ในการเดินทางยามค่ำคืน ทางด้านท้ายมาในสไตล์คล้ายๆ กับ CLS ไฟท้ายแบบ LED และมีเส้นโครเมี่ยมพาดเชื่อมต่อระหว่างไฟท้ายทั้ง 2 ฝั่ง เพิ่มความหรูหรากับท้ายรถ โดยเส้นโครเมี่ยมที่พาดระหว่างชุดไฟท้ายได้ติดตั้งชุดกล้องมองรอบคัน และกล้องส่องถอยหลังแบบ Pop-Up กันชนท้ายดีไซน์เน้นความเรียบหรู มีแผงทับทิมสะท้อนแสงด้านล่าง พร้อมกรอบช่องไอเสีย 2 ฝั่ง และเดินเส้นโครเมี่ยมล้อมกรอบช่องไอเสีย ล้อแม็กขอบ 19 นิ้ว ลาย Multi-Twin-Spoke รัดด้วยยางคุณภาพสูงจาก Hankook(ถ้าเป็นรุ่น AMG Premium จะได้ล้อขอบ 20 นิ้ว พร้อมยางจาก Michelin)


เปิดประตูชมภายในห้องโดยสารอันหรูหราเหนือระดับของ S-Class S350d Exclusive กันบ้าง แดนบอร์ดคอนโซหน้าออกแบบแตกต่างไปจากรุ่นก่อนหน้านี้ชัดเจนมีความหรูหรา เพิ่มความตื่นตา และกระตุ้นอารมณ์เมื่อแรกเห็นกับชุฟเรืองแสงรอบห้องโดยสารที่สามารถปรับเฉดสีได้ถึง 64 เฉดสีด้วยกัน ชุดเรือนไมล์แบบ Digitial Instrument Clusters ความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว มีลูกเล่นซ่อนอยู่มากมายอาทิ การเปลี่ยนรูปแบบมาตรวัดเรือนไมล์ได้ถึง 4 รูปแบบ และสามารถดูค่าต่างๆ ของตัวรถ โดยใช้เพียงปลายนิ้วสัมผัสบนปุ่มมัลติฟังก์ชั่นที่พวงมาลัย


พวงมาลัยแบบ 3 ก้านพร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่น และปุ่ม Cruise Control และสามารถปรับระดับได้ 4 ทิศทางแบบไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกสบาย และปรับให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี ระบบปรับอากาศเป็นแบบ Dual Zone แยกอุณหภูมิระหว่างผู้ขับขี่กับผู้โดยสารตอนหน้า และยังแยกปรับอุณหภูมิระหว่างผู้โดยสารตอนหลังอีกต่างหาก แถมยังมาพร้อมกับระบบ Air Balance Package ช่วยให้ห้องโดยสารสะอาดขึ้น และมีกลิ่นที่หอมสดชื่นจากน้ำหอมปรับอากาศที่ออกแบบมาเฉพาะ S-Class เท่านั่น


คอนโซลกลางมาพร้อมกับ MBUX7 หรือจอ Infortrainment ขนาด 12.8 นิ้ว  ทัชสกรีน แบบ OLED ตัวจอออกแบบให้ขนาดทีเพรียวบาง พร้อมความจุที่สูงระดับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ซึ่งภายในบรรจุฟังก์ชั่นการสั่งงานต่างๆ อาทิ ควบคุมระบบปรับอากาศ, ควบคุมเครื่องเสียง-เชื่อมต่อความบันเทิงต่างๆ ผ่านระบบ Wifi, ปรับโหมดการทำงานต่างๆ ของเครื่องยนต์-ระบบส่งกำลัง-ระบบกันสะเทือน-ระบบบังคับเลี้ยว, ปรับโทนสีของไฟเรืองแสงภายในห้องโดยสาร, เชื่อมต่อระบบนำทาง แถมยังสั่งงานได้ด้วยเสียงเพียงพูดคำว่า “สวัสดี เมอร์เซเดส”



เหนือสิ่งอื่นใดระบบมัลติเมียเดีย MBUX7 เจนเนอเรชั่นใหม่ ช่วยยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่ และการเดินทางขึ้นไปอีกขั้นกับระบบ MBUX Interior Assistant ทำงานฉับไวสอดรับการเคลื่อนไหวของร่างกาย แถมยังมีระบบ MBUX High-end Rear Seat Entertainment ทำงานร่วมกับ Rear Table หน้าจอขนาด 7 นิ้ว แบบ ทัชสกรีน ที่สามารถถอดออกมาเป็น Tablet ได้ โดยสามารถสั่งงานระบบความบันเทิงบนหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว 2 จอ ติดตั้งบริเวณหลังพนักพิงของเบาะผู้โดยสารคู่หน้า โดยระบบเครื่องเสียงยังคงเลือกใช้ยี่ห้อคู่บุญ Burmester แบบ 3D Surround Sound System พร้อมชุดลำโพงรอบคัน 15 ตัว



เบาะผู้โดยสารตอนหน้า และตอนหลังเป็นแบบปรับไฟฟ้าทุกที่นั่ง และพิเศษสุดกับเบาะผู้โดยสารตอนหลังฝั่งซ้ายออกแบบให้มีส่วนรองต้นขาเวลาที่มีการปรับเบาะเอนนอนเพื่อพักผ่อน วัสดุภายในห้องโดยสารหถ้มด้วยหนังแท้แบบ Nappa Leather ม่านบังแดงบริเวณประตู่คู่หลังสามารถเปิด-ปิดการใช้งานเพียงปลายนิ้วสัมผัส ส่วนม่านบังแดดด้านหลังจะเลื่อนลงเองอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์เป็นถอยหลัง แล้วจะเลื่อนขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนเกียร์เดินหน้า  



ทางด้านพละกำลังของ S350d มาพร้อมกับเครื่องยนต์ ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ แบบแถวเรียง 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงถึง 286 แรงม้า 3,400-4,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงระดับ 600 นิวตัน-ม. ที่รอบเครื่องยนต์ต่ำเพียง 1,200-3,200 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ตัวนี้ผ่านค่ามาตรฐานไอเสีย Euro 6 เป็นที่เรียบร้อย ทำงานคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic พร้อมแป้น Paddle Shift ที่พวงมาลัย ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง

ระบบกันสะเทือนของ S350d จะเป็นมัลติลิ้งค์ทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบ Airmatic ระบบเบรคเป็นดิสค์เบรคทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบ แร็คแอนด์พิเนี่ยน เพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง EPS แปรผันน้ำหนักตามความเร็วรถ และโหมดการขับขี่

ตบท้ายด้วยฟิลลิ่งในการขับขี่ของ S350d Exclusive นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูอาจจะใหญ่น่าจะยาก แท้จริงแล้วกลับเป็นรถที่ขับง่าย คล่องตัวดีในระดับที่รถไซส์นี้ควรจะเป็น ทัศนวิสัยในการขับขี่ถือว่าดี แม้มุมมองผ่านกระจกมองหลังอาจดูเล็กไปบ้าง และเวลาที่ต้องถอยหลังก็มีกล้องรอบคันมาให้ใช้งานเพิ่มความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ที่ดูไฮเทคกลับใช้งานง่าย(ใช้เวลาเรียนรู้ไม่นานนัก) หน้าจอเรือนไมล์มองเห็นชัดเจน น้ำหนักของพวงมาลัยในโหมดการขับขี่ต่างๆ แตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ฉับไว เฉียบคมดีไม่น้อย เบาะนั่งผู้ขับขี่นั่งสบายโอบกระชับกำลังดี ส่วนของต้นขาก็เต็มดีขับไกลๆ ไม่เมื่อยล้า



อัตราเร่งในโหมดการขับขี่ต่างๆ ที่มีถึง 5 แบบ ประกอบด้วย อีโค, คอมฟอร์ต, สปอร์ต, สปอร์ตพลัส และอินดิวิดวล แตกต่างกันอย่างชัดเจน ชอบขับสบายๆ อัตราเร่งมาแบบเรื่อยๆ กำลังดีต้อง อีโค กับอินดิวิดวล แต่ถ้าชอบนุ่มๆ ต้องคอมฟอร์ต แต่ถ้าต้องการโหดๆ ต้องไป สปอร์ต และสปอร์ตพลัส ซึ่งระบบจะปรับทุกอย่างทั้ง การตอบสนองของคันเร่ง จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ ระบบกันสะเทือน และพวงมาลัย เปลี่ยนฟิลลิ่งจากรถคันใหญ่โตกลายร่างมาเป็นสปอร์ตชั้นเลิศ ดุดัน ขึงขัง และฉับไว โดยเส้นทางที่เราทดสอบนั่นลองกดคันเร่งหาอัตราเร่งสั้นๆ ความเร็วขึ้น 150 กม./ชม. ได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยของ S350d Exclusive ให้มาเต็มพิกัด ทั้ง ABS, EBD, BA ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันตามความเร็วรถคันหน้า แถมยังเป็นแบบ Stop&Go อีกต่างหาก, ระบบควบคุมตัวรถให้อยู่ในช่องจราจร และดึงกลับเมื่อตัวรถเบนหัวออกจากช่องทางการขับขี่ แถมยังเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการติดตั้งถุงลมนิรภัยป้องกันผู้โดยสารตอนหลัง โดนตัวถุงลงติดตั้งอยู่ทางด้านหลังของพนักพิงเบาะคู่หน้า

Mercedes-Benz S350d Exclusive จัดเป็นอัครสถานยานยนต์เคลื่อนที่ เต็มเปี่ยมไปด้วยภาพลักษณ์ ความหรูหรา สะดวกสบาย ไฮเทค และให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น สนราคาของ S350d Exclusive อยู่ที่ 6,690,000 บาท และรุ่น S350d AMG Premium อยู่ที่ 7,190,000 บาท ท่านในสนใจยานยนต์ระดับหรูเรือธงของค่าย “ดาวสามแฉก” สามารถชมรถได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูม Mercedes-Benz ทั่วประเทศ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้