SWIFT UP TO THE MAX ..ทดลองขับแบบฮาร์ดคอร์ ใช้ประสิทธิภาพรถเต็มที่ในสนามแข่ง

1293 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โดย: อัฐฒา นายเรือ

ซูซูกิ สวิฟท์ อีโคคาร์ขนาดกะทัดรัด ที่ทำยอดขายดีมากรุ่นหนึ่งของค่ายซูซูกิ หลังจากที่เปิดตัวมานาน ทางบริษัทฯ จึงได้จัดให้ผู้สื่อข่าวสายรถยนต์ได้ทดลองขับกันแบบฮาร์ดคอร์ ใช้ประสิทธิภาพของรถได้อย่างเต็มที่ในสนามแข่งที่จัดรูปแบบไว้อย่างน่าตื่นเต้นเร้าใจ

รถที่นำมาทดลองขับในวันนี้ยังคงเป็นตัวเดิมที่เปิดตัวล่าสุดโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไมเนอร์เชนจ์แต่ประการใด เพียงแต่นำมาให้ลองสมรรถนะกันอย่างเต็มที่ให้เหมาะสมกับธีมการทดลองขับในครั้งนี้ว่า...SWIFT UP TO THE MAX…


บอดี้ภายนอกก็ยังคงเป็นเสน่ห์ของรถแฮทช์แบค 5 ประตูทรงกล่องที่สวยงาม กะทัดรัด ลู่ลม น่าขับขี่ เหมาะมากสำหรับการใช้งานในเมือง รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียงแค่ 4.8 ม. เท่านั้นเอง สะดวกต่อการกลับรถในที่แคบ แพลทฟอร์มแบบ Heartect ที่ผลิตจากเหล็กกล้า High-Tensile ให้ความแข็งแกร่ง ทนทาน และปลอดภัย รวมไปถึงการช่วยให้มีประสิทธิภาพในการทรงตัวที่ดี ไฟหน้าและไฟท้ายแบบแอลอีดีที่ทันสมัย มาพร้อม Day Time Running Light ที่ด้านหน้า ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว มาพร้อมยาง 185/55 R 16 ในรุ่นทอพ


มองจากภายนอกตัวรถจะมีขนาดเล็กแต่ภายในห้องโดยสารกลับกว้างขวาง ให้ความสะดวกสบายอย่างเพียงพอสำหรับผู้โดยสารทั้ง 4 ท่าน ห้องโดยสารสีดำตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินที่เรียบหรู พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า เบาะคู่หน้าและมาตรวัดสไตล์สปอร์ท แผงหน้าปัดส่วนกลางติดตั้งจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันเอนเตอร์เทนเมนต์อย่างครบเครื่อง รองรับทั้งระบบแอพเพิ้ล, แอนดรอยด์ และบลูทูธ พร้อมกล้องมองหลังขณะถอย, มีช่องเก็บของและวางเครื่องดื่มมากถึง 7 ตำแหน่ง พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีพื้นที่ขนาด 265 ลิตร และสามารถพับเบาะแถวหลังลงในอัตรา 60:40


เครื่องยนต์ K12M 4 สูบ 1.2 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี DUALJET เทคโนโลยีหัวฉีดคู่ ที่สามารถฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ละเอียดยิ่งขึ้น จุดระเบิดแบบไดเรคคอยล์ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 108 นิวตัน-ม. ที่ 4,000 รอบต่อนาที และให้ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า 23 กม./ลิตร ตามมาตรฐานอีโคคาร์เฟส 2 รองรับน้ำมันเบนซินได้ถึง อี20 ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT ที่มีโหมด Sport ให้เลือกใช้ จากที่เคยนำมาทดลองขับ ขณะที่วิ่งด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องต่ำเพียง 1,800 รตน. ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาประมาณ 13 วินาที อัตราสิ้นเปลืองในการเดินทางไกลจะอยู่ที่ประมาณ 21 กม./ลิตร ส่วนในเมืองทำได้ประมาณ 13-14 กม./ลิตร ถือว่ามีอัตราเร่งและความประหยัดเชื้อเพลิงทำได้ดีทีเดียว 

ในเรื่องของระบบความปลอดภัยทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไข ซูซูกิ สวิฟท์ ให้มาเต็มด้วย ถุงลมนิรภัยถึง 6 ตำแหน่ง, ระบบเบรก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี เพื่อเพิ่มความสมดุล, ดิสค์เบรกทั้ง 4 ล้อ, ระบบควบคุมเสถีรภาพ ESP ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่โดยเฉพาะในขณะเข้าโค้ง ฯลฯ

 

ระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ช๊อคอัพแกส คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังแบบทอร์ชันบีม คอยล์สปริง ระบบรองรับที่เซทมาได้ดีมาก เป็นจุดเด่นจุดหนึ่งของรถรุ่นนี้เลย การควบคุมบังคับทำได้อย่างมั่นคง ควบคุมง่าย การเข้าโค้งเป็นไปได้ด้วยดี    

    
การทดลองขับครั้งนี้ เราก็จะมารีดเค้นสมรรถนะสูงสุดของซูซูกิ สวิฟท์ ดังที่กล่าวมา และนำออกมาใช้ที่สนามแข่งพีระ เซอร์กิต พัทยา แต่คราวนี้จะแปลกออกไปจากทุกครั้งที่เคยขับกัน เราจะวิ่งรอบสนามโดยขับสวนทางแบบทวนเข็มนาฬิกา โดยในจุดต่างๆ ในสนามจะมีไพลอนวางดักไว้เพื่อให้ขับรถหลบหลีก ได้ลองสมรรถนะ, อัตราเร่ง, การทรงตัว, การเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน, การหักหลบแบบฉุกเฉิน, การเข้าโค้งรูปแบบต่างๆ ที่ความเร็วสูง, ทดสอบการเบรก ฯลฯ


ในรอบแรกเราจะขับตามรถเจ้าหน้าที่เพื่อดูเส้นทาง วิธีการต่างๆ เมื่อพบเจออุปสรรคในระหว่างการขับวนรอบนสนาม เพื่อให้เกิดความเข้าใจในปฎิบัติได้อย่างถูกต้อง 


หลังจากนั้นก็จะเป็นการปล่อยออกไปขับเพื่อจับเวลาคนละ 1 รอบ มาแข่งขันกันว่าใครจะเป็นผู้ทำเวลาได้ดีที่สุด จึงเท่ากับว่า ทุกคนต้องเค้นสมรรถนะของรถออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ตามความสามารถของผู้ขับขี่แต่ละท่าน


ก่อนหน้าที่ผมจะได้ลงไปขับ ปรากฏว่ามีฝนตกลงมาจนต้องหยุดการทดสอบลงไปช่วงหนึ่ง เมื่อพื้นแทรคเริ่มแห้งหมาดๆ จึงลงไปขับกันต่อ ช่วงนั้นพื้นถนนยังมีความลื่นอยู่พอสมควร การขับต้องเพิ่มทักษะและความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย

เราออกตัวจากจุดสตาร์ทด้วยความรวดเร็ว จุดแรกที่ต้องทำคือขับวนขวารอบกรวย 360 องศา 1 รอบ ก่อนจะวิ่งตรงไปเข้าโค้งที่ลึก ด้วยความเร็วสูง จากนั้นเราก็จะพบกับการวิ่งซิกแซกไปตามไพลอนที่วางขวางทางวิ่งไว้ให้เราทดสอบทักษะการควบคุมรถและดูการยึดเกาะถนน ระบบรองรับ ระบบเบรก ซึ่งมีอยู่ 2 ช่วงด้วยกัน และในขณะวิ่งขึ้นเนินเขาจะมีสถานีให้เราหักหลบแบบกะทันหันโดยที่เรามีเวลาเตรียมตัวน้อยมากว่าจะหลบซ้ายหรือขวาตามทิศทางที่ผู้จัดเตรียมไว้

ต่อจากนั้นก็ขับลงเขามาถึงจุดที่เราต้องทดสอบการเบรกรถจนหยุดนิ่ง แล้ววิ่งต่อลงเนินชันพร้อมเข้าโค้งด้วยความเร็วในช่วงสุดทางตรงของสนามแข่งที่เราเคยขับกันแต่ในครั้งนี้องศาการเอียงรับของสนามที่ออกแบบไว้สำหรับการวนแบบตามเข็มจะถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเพราะเราขับสวนเส้นทางที่เคยขับกัน รถจะออกการเสียการทรงตัวได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น ทำให้เราต้องใช้ความระมัดระวังและตื่นตัวเพื่อรอรับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาไปจนถึงจุดสิ้นสุดการแข่งขัน



จากการที่ได้ทดลองขับรถซูซูกิ สวิฟท์ อย่างเต็มลิมิตในครั้งนี้ เราพบว่า รถรุ่นนี้มีอัตราเร่งที่ดี เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะขับในเมืองหรือวิ่งทางไกลบนทางเชื่อมระหว่างจังหวัด การขับแบบนี้เราอาจจะรู้สึกว่าระบบรองรับได้รับการเซทมานุ่มไปหน่อย แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปถือว่ารองรับการใช้งานได้อย่างสบายๆ แม้ว่าเราจะอามาใช้กับสถานการณ์การขับขี่ที่ค่อนข้างโหดหินในครั้งนี้ก็ยังพอรับมือไหว เพียงแต่เราอาจต้องใช้ทักษะเพิ่มขึ้นเพื่อให้รถเสียอาการน้อยลง ระบบตัวช่วยต่างๆ เช่น ESP ระบบเบรกเอบีเอส ฯลฯ ที่จะเข้ามาช่วยลดการเสียหลักโดยเฉพาะขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง และในช่วงพื้นถนนที่ลื่น ง่ายต่อการเสียอาการของรถ ระบบเหล่านี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี แก้อาการโดยอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็ว เป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับรถขนาดเล็กในระดับราคาขนาดนี้ที่ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้มาให้ด้วย


ซูซูกิ สวิฟท์ เป็นรถที่น่าใช้มาก ในราคาที่ไม่สูง ตัวรถมีความกะทัดรัด คล่องตัว ขับสนุก วัสดุต่างๆ มีคุณภาพดี สมราคา มีอุปกรณ์ทั้งในแง่อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยมาให้อย่างครบครัน      

สนใจรถรุ่นนี้ลองเข้าไปชมรถตัวจริงที่มีถึง 6 เฉดสีและ 4 รุ่นย่อยให้เลือก รวมไปถึงการทดลองขับกันได้ที่โชว์รูมซูซูกิซึ่งในขณะนี้มีครอบคลุมแทบจะทุกจุดทั่วประเทศแล้ว ในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 499,000 – 629,000 บาท  

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้