กิจกรรมทดลองขับรถ High Performance ตระกูล RS ครั้งแรกในประเทศไทย กับ Audi RS Driving Experience สัมผัสยนตรกรรรมตัวแรงจากอาวดี้ พร้อมเรียนรู้เทคนิคการขับขี่แบบเต็มสมรรถนะ

1249 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โดย: อัฐฒา นายเรือ

“Audi RS Driving Experience” จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์จากรถยนต์สมรรถนะสูงในตระกูล RS และเพิ่มทักษะการควบคุมรถ การขับขี่อย่างปลอดภัย ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ โดยมียนตรกรรมในตระกูล RS ทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยมาให้ทดลองขับอย่างเต็มสปีด

นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรือ อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “กิจกรรม “Audi RS Driving Experience” จัดขึ้นเป็นพิเศษแบบครบทั้งไลน์อัพครั้งแรกในประเทศไทยบนสนามแข่งจริง เพื่อให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้เข้าถึงประสิทธิภาพและสมรรถนะของยนตรกรรม RS ซึ่งเป็นรถในตระกูล High performance อย่างแท้จริงครบทุกรุ่น พร้อมเรียนรู้ประสบการณ์และเทคนิคในการขับขี่จาก Certified Instructor กับโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าใจตัวรถมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทดลองขับขี่แบบสลาลม การควบคุมพวงมาลัย การเบรก การเข้าโค้ง และการควบคุมรถ อันเป็นการเสริมสร้างทักษะการขับขี่ให้ปลอดภัยในสถานการณ์ต่างๆ และเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ในตระกูล RS อย่างมั่นใจ”

 

“Born on the track, Built for the road.” คือแนวคิดหลักในการพัฒนายนตรกรรม RS โมเดลทุกรุ่น ที่สะท้อนการถ่ายทอดเทคโนโลยี แรงบันดาลใจและประสบการณ์ความสำเร็จบนสนามแข่ง ซึ่งอาวดี้สามารถคว้าชัยรายการแข่งขันรถยนต์ระดับโลกมามากมาย สู่การพัฒนาสุดยอดยนตรกรรมให้มีความล้ำหน้าและสมบูรณ์แบบตอบโจทย์ทุกมิติ ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จการทำงานอย่างไม่หยุดยั้งของทีมวิศวกร Audi Sport GmbH ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด และทำการทดสอบอย่างเข้มข้น ยนตรกรรม Audi ทุกรุ่น จึงมีความลงตัวและสมบูรณ์แบบที่สุด   

สำหรับยนตรกรรมตระกูล RS ของ Audi ได้ถือกำเนิดขึ้นจากรถยนต์จากสนามแข่งมามากกว่า 27 ปี เริ่มจากความสำเร็จที่โด่งดังไปทั่วโลกของ RS 2 Avant ในปี พ.ศ. 2537 แสดงให้เห็นถึงปรัชญาอันมุ่งมั่นในเรื่องสมรรถนะของเครื่องยนต์อันทรงพลัง การมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และที่สำคัญสามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ



ในประเทศไทย อาวดี้ ประเทศไทย ได้นำยนตรกรรมรุ่น RS มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2562 เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ชอบความเร็ว และแสวงหายนตรกรรมอันทรงพลัง  ซึ่งทุกรุ่นได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม โดยความโดดเด่นที่มีการพูดถึงเสมอ คือ ความเป็น Super Car ในราคาที่จับต้องได้ เพราะเมื่อเปรียบเทียบความเร็ว แรงม้า และออฟชั่นที่ใส่มาในแต่ละรุ่นกับราคาที่ตั้งไว้  นับว่าคุ้มค่า และสัมผัสได้ถึง DNA แห่ง Racing Sport

 
กิจกรรม “Audi RS Driving Experience” จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 7-10 มีนาคม โดยลูกค้าและสื่อมวลชนจะได้รับฟังข้อมูลความโดดเด่นของยนตรกรรม Audi ตระกูล RS รวมถึงเทคโนโลยีสุดล้ำที่ใส่มาในแต่ละรุ่น โดยเฉพาะระบบความปลอดภัย โหมดการขับขี่ และการทำงานของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro รวมถึงทักษะการควบคุมรถในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การเข้าโค้งด้วยความเร็วในเส้นทางคดเคี้ยว หรือในสถานการณ์ที่ต้องเบรกกะทันหัน    ซึ่งลูกค้าและสื่อมวลชนสามารถเลือกลองขับรถได้ทุกรุ่น


 
TT RS Coupé  เครื่องยนต์แถวเรียง 5 สูบ TFSI ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ช่วงล่างแบบสปอร์ตพร้อมระบบ Audi magnetic ride ท่อไอเสีย RS sports Exhaust 



 
RS 4 Avant quattro ยนตรกรรม Avant ที่ถูกสร้างมาด้วย DNA ของรถแข่ง และนับเป็นสเตชั่นแวกอนที่มีสมรรถนะสูง เร้าใจเป็นที่สุด ด้วยเครื่องยนต์ V6 สมรรถนะสูงถึง 2,894 ซีซี เทอร์โบคู่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro all-wheel drive ให้กำลังสูงสุด 450 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ tiptronic 8 จังหวะ

 



RS Q3 Sportback quattro อีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่สะท้อนความสำเร็จของ Audi Sport GmbH กับ Optimum power delivery ให้เสียงคำรามสุดดุดัน ซึ่งเกิดจากการปรับแต่งระบบท่อไอเสียใหม่ ช่วงล่างแบบ RS sports ถูกตั้งค่าให้มีคาแรคเตอร์ของการขับขี่แบบสปอร์ต ให้พละกำลังสูงถึง 400 แรงม้า

 
RS 5 Coupé quattro สปอร์ตคูเป้ตัวแรง ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินแบบ V6 2.9 ลิตร เทอร์โบชาร์จ เกียร์ tiptronic 8 จังหวะ พร้อมประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection) ให้พละกำลังสูงสุด 450 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลสูงถึง 600 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องต่ำ และสามารถทำได้ในช่วงกว้าง ส่งผลให้การออกตัวดี ขับขี่สนุก เร้าใจ ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่สามารถทำได้ เพียง 3.9 วินาที ระบบเบรกแบบ RS ตกแต่งคาลิปเปอร์เบรกสีแดงหน้า-หลัง และให้ฟิลลิ่งเหมือนขับขี่อยู่ในสนามแข่งมากยิ่งขึ้นด้วยระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต (RS Sports suspension) มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro all-wheel drive  ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจในทุกช่วงความเร็วและทุกสภาพถนน 

 

RS 6 Avant quattro พละกำลังมหาศาลที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Mild hybrid (MHEV) แบบ V8 Twin-Turbo ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง เกียร์อัตโนมัติ Tiptronic 8 จังหวะ อัดแน่นด้วยแรงม้า 600 ตัว และแรงบิด 800 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.6 วินาที พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro with sports differential ติดตั้ง ระบบ All-wheel steering ซึ่งช่วยเพิ่มการทรงตัวขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วและลดรัศมีวงเลี้ยวในขณะใช้ความเร็วต่ำ เติมเต็มดีเอ็นเอความสปอร์ตด้วยระบบเบรก RS พร้อมตกแต่งคาลิปเปอร์เบรกสีแดง อีกทั้งยังสะดวกสบายไร้กังวลในการขับขี่ด้วยช่วงล่างสมรรถนะสูง RS Sports พร้อมระบบ Dynamic Ride Control (DRC) ที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมรถให้คมชัดมากยิ่งขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่แบบไดนามิก ช่วยในการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมแม้เข้าโค้งอย่างรวดเร็ว มาพร้อมกับ Audi drive select เลือกปรับโหมดการขับขี่ได้ทั้งแบบอัตโนมัติ หรือจะซิ่งสนุกกับ “RS MODE” ก็ทำได้ง่ายดาย ท่อไอเสีย RS Sport ขนาดใหญ่รูปทรงวงรีที่พร้อมเสียงคำรามจากเครื่อง V8 Twin-Turbo  โดยที่ราคาตั้งไว้ 9,890,000

 

นอกจากนี้ ทางอาวดี้ยังได้นำไอคอนยอดฮิตตลอดกาลอย่าง TT Coupé 45 TFSI quattro S line, A5 Coupe และ A5 Sportback 45 TFSI quattro S line Black Edition, Q3 40, Q3 Sportback 40 TFSI quattro S line Black Edition และล่าสุดกับ Plug-in Hybrid TFSI e ที่พึ่งเปิดตัวไปครบทั้ง Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition และ Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition มาให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้ทดลองขับกันตลอด 4 วัน   

 
Audi เป็นรถยนต์นำเข้าจากประเทศเยอรมันทุกรุ่น ลูกค้าที่ออกรถใหม่จะได้รับการดูแลจาก Audi Protection       การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน รถ Plug-in Hybrid TFSI e ใหม่ ทุกรุ่นรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี ลูกค้าอาวดี้สามารถมั่นใจกับงานบริการหลังการขาย ซึ่งมีมาตรฐานคุณภาพเดียวกันทุกสาขา โดยในช่วงสถานการณ์โควิดนี้ เปิดบริการในวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 08.00-18.00 น. วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-18.00 น.

 

AUDI RS DRIVING EXPERIENCE

 
ในกิจกรรมนี้ เราได้มีโอกาสทดลองขับรถถึง 5 รุ่นด้วยกันในสนามทดสอบคือ RS6 / RS5 COUPE QUATTRO / RS Q3 SPORTBACK QUATTRO / TT RS COUPE และ Q8 45e ซึ่งในแต่ละรุ่นก็มีบุคลิกในการขับขี่และความแรงที่แตกต่างกันไป

 
รุ่นที่แรงที่สุดในวันนี้และเราได้มีโอกาสขับประเดิมเป็นคันแรกคือ AUDI RS6 AVANT QUATTRO ติดตั้งเครื่องยนต์ วี8 สูบ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังถึง 600 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ที่มีราคาค่าตัวใกล้แตะ 10 ล้านบาท ช่วงลองอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วสุดๆ แรงจีที่ได้รับไม่ได้แตกต่างจากบรรดาซูเปอร์คาร์เลย ความแรงดึงให้ตัวเราติดตรึงอยู่กับพนักพิงหลังของเบาะบักเกทซีทหรูไปจนสุดทาง ระบบรองรับและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาแบบ QUATTRO ช่วยให้เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การควบคุมรถทำได้ง่าย แม้ในการเปลี่ยนทิศทางแบบกะทันหันตลอดเวลาแบบในช่วงทดสอบสลาลามก็สามารถขับผ่านไปได้ด้วยดี ระบบเบรกไว้ใจได้

 

ต่อมาก็ได้ขับ RS5 QUATTRO สปอร์ทคูเป้สุดหล่อ ที่มีกำลัง 450 แรงม้า จากเครื่องยนต์ วี6 สูบ 2.9 ลิตร เทอร์โบ ราคา 5,990,000 บาท เป็นรถที่เรารู้สึกชื่นชอบมากที่สุดในกลุ่ม RS ที่ได้ลองขับในวันนี้ พละกำลังเหลือเฟือ ไม่แรงจนเกินตัว ควบคุมง่ายแบบเป็นธรรมชาติทำให้ไม่รู้สึกเครียดในขณะขับบนสถานการณ์ต่างๆ ในสนามทดสอบที่ใช้ความเร็วค่อนข้างสูง แฝงไว้ด้วยความสบายในการขับขี่ แม้ว่าจะเป็นรถแบบคูเป้ แต่มีพื้นที่สำหรับผู้โดยสารเบาะหลังแบบ 2+2 ได้อย่างเหลือเฟือ ไม่รู้สึกอึดอัด คล้ายกับเรากำลังนั่งอยู่ในรถซีดานกันเลย

 


Q3 RS SPORTBACK QUATTRO คอมแพคเอสยูวี ที่มีความแรงจัดจ้านถึง 400 แรงม้า ในขนาดตัวที่กะทัดรัด แม้ว่าจะอยู่ในรูปทรงของรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีตัวรถค่อนข้างสูง แต่การขับก็ยังคงให้สมรรถนะและความเร้าใจไม่เบาในอารมณ์ของรถตระกูลอาร์เอส แม้ว่าการควบคุมบังคับจะไม่แม่นหรือคมเท่ากับรถแบบคูเป้หรือสเตชันแวกอนก็ตาม แต่ก็ถือว่าอาวดี้เซทรถรุ่นนี้มาได้ดี ขับสนุก มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ QUATTRO มาช่วยเพิ่มความสมบูรณ์แบบโดยเฉพาะในช่วงเข้าโค้งเร็วๆ โดยตั้งราคาค่าตัวไว้ที่ 4.85 ล้านบาท

 


 
TT RS  เครื่องยนต์ 5 สูบแถวเรียง เป็นรถที่มีขนาดตัวเล็กที่สุดในบรรดารถ RS ทั้งหมดที่นำมาทดลองขับในวันนี้ แต่มีพละกำลังถึง 400 แรงม้ามาให้ใช้ อัตราเร่งดีมาก ส่วนหนึ่งมาจากการที่ตัวรถมีน้ำหนักเบา และมีผลต่อการควบคุมรถโดยเฉพาะในช่วงสลาลมและเข้าโค้งกว้างๆ ด้วยความเร็วทำได้ง่าย ทิศทางของตัวรถเป็นไปตามการหมุนพวงมาลัยที่คมและแม่นยำ ความรู้สึกเดียวกับการที่ขับอยู่บนรถโกคาร์ทเลยทีเดียว แม้ว่าภายในรถจะค่อนข้างแคบแต่รถ TT RS คันนี้ขับได้สนุกจริงๆ กับราคาค่าตัว 5.399 ล้านบาท

 

Q8 60 TFSI e QUATTRO S LINE BLACK EDITION เป็นรถคันสุดท้ายที่เราได้ลองขับกันในวันนี้ เครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ปลั๊กอินไฮบริด 462 แรงม้า ชาร์จไฟ 4 ชม. สามารถวิ่งด้วยกำลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ราว 50 กม. ตัวรถมีขนาดใหญ่สไตล์รถอเนกประสงค์ แม้ว่าจะไม่อยู่ในรถตระกูล RS แต่อัตราเร่งก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันมากมาย ยังมอบการตอบสนองที่ดี ไม่อืดอาดเชื่องช้า เป็นรถที่ขับได้ทันใจทีเดียว เครื่องยนต์ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยขับเคลื่อนพารถร่างใหญ่ไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว การควบคุมบังคับก็ยังเป็นไปด้วยดี ไม่ยวบยาบให้ตัวจนน่ากลัว การเปลี่ยนทิศทางในโค้งแคบๆ ควบคุมรถได้ไม่ยาก โดยมี QUATTRO ขับเคลื่อนสี่ล้อติดตั้งมาให้เต็มระบบ แลกกับราคาค่าตัว 5,799,000 บาท  

 
รถในตระกูล RS ของอาวดี้ ปรับแต่งมาได้อย่างถูกใจผู้ที่ชื่นชอบรถสมรรถนะสูง รักการขับรถเร็วๆ แรงๆ ให้ความปลอดภัยในการควบคุมบังคับสูง ทุกอย่างปรับเซทมาจากโรงงานโดยที่เราไม่ต้องไปแต่งอะไรเพิ่มเติมเลย จ่ายเงินอย่างเดียวก็ซิ่งได้ไม่แพ้ใคร              

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้