นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ปรุงโฉมลุคโมเดิร์น..ขับสนุกเหมือนเดิม

598 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โดย ภาคิน ศิริชาติ

นิสสัน อัลเมร่า เครื่อง “พันซีซี เทอร์โบ” เปิดตัวปลุกกระแสรถในกลุ่มอีโคซีดานในปี 2019 พร้อมกับเครื่องยนต์บล็อกเล็กพ่วงระบบอัดอากาศเป็นเจ้าแรกในเมืองไทย สามารถกวาดยอดขายในระดับที่หน้าพอใจ เพราะด้วยรูปลักษณ์สปอร์ตซีดาน ห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย และอัตราเร่งที่จี๊ดจ๊าดไม่แพ้รถที่ใช้เครื่อง “พันห้า” เลยก็ว่าได้ ณ วันนี้ปี 2023 นับเวลาได้ 4 ปี ทางนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ได้มีการปรับโฉมของ อัลเมร่า ให้มีความสดใหม่ โดยเฉพาะทางด้านหน้าที่มีความโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น


การปรับลุคของ อัลเมร่า ใหม่ ในครั้งนี้ หลักๆ เน้นไปที่ดีไซน์ของชุดกระจังหน้าแบบ V-motion สะท้อนภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราจากคิ้วโคมเมี่ยม โดดเด่นสะดุดตาแม้มองจากระยะไกล เส้นสายของชุดกันชนหน้าดูโฉบเฉี่ยวขึ้นเล็กน้อย ชุดไฟตัดหมอกยังคงทรงเดิม ส่วนด้านข้าง และด้านหลังยังคงเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาอีก 1 อย่างเห็นจะเป็นเรื่องสีสันใหม่แบบทูโทน “เกรย์ สกาย เพิร์ล หลังคาดำ” Gray Sky Pearl


ภายในห้องโดยสารมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงดีเทลหลักๆ จริงๆ ก็เรื่องของการเพิ่มวัสดุแบบ “ซอฟท์ทัช” เน้นความนุ่มนวลในจุดสัมผัสสำคัญๆ อาทิ บริเวณคอนโซลหน้า แผงประตูทั้ง 4 บาน พิเศษขึ้นในรุ่น V และ VL บริเวณบุนุ่มเลือกใช้โทนสีน้ำเงินเข้มเพิ่มความเก๋ไก๋ เติมเต็มอารมณ์สปอร์ต ส่วนเบาะนั่งคู่หน้าในรุ่น V และ VL เปลี่ยนวัสดุเป็นแบบ Quole Modure ไม่สะสมความร้อนแม้ขณะเดินทางไกล หรือจอดตากแดด



เหนือสิ่งอื่นใดยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นความสะดวกสบายในขณะเดินทางอาทิ  ระบบชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charger พร้อมช่องเสียบชาร์จไฟแบบ USB A ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง(ถ้าเพิ่ม USB C ก็จะดีไม่น้อย) หน้าจอเครื่องเสียงยังคงเหมือนเดิมแบบ ทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบกล้อง 360 องศา แต่ในรอบนี้ได้เพิ่มเติมระบบ Nissan Connect ที่ไว้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ระบบ Android Auto กับ Apple CarPlay สามารถใช้ระบบนำทาง Google Map ได้แบบสบายๆ นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบ Nissan Connect Service ซึ่งเป็นระบบแอปพิเคชั่นอัจฉิรยะที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมหรือสั่งการรถได้จากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน รวมถึงขอความช่วยเหลือได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินผ่านปุ่ม SOS ที่ติดตั้งอยู่บริเวณหลังคาใกล้กับกระจกมองหลัง

ระบบ Nissan Connect Service เป็นระบบปฎิบัติการที่สามารถตรวจสอบสถานะรถยนต์ได้จากระยะไกลผ่านมือถือ ซึ่งสามารถตรวจสอบสถานการณ์ล็อคประตู สั่งล็อค หรือปลดล็อค สั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ สั่งกระพริบไฟหน้า และระบบแตร ช่วยทำให้เจ้าของรถสามารถหาตำแหน่งรถได้สะดวกแม้จอดในลานจอดรถที่แน่นขนัด รวมไปถึงระบบ My Car Finder ระบบค้นหาตำแหน่งของตัวรถ แจ้งเตือนเมื่อมีการโจรกรรม ตบท้ายกับการแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดในการนำรถเข้าเซอร์วิส ตรวจเช็คระยะทาง และเวลาของการใช้รถโดยละเอียดระดับ รายวัน รายเดือน และรายปี โดยระบบ Nissan Connect Service ทางนิสสันมอบสิทธิพิเศษนี้ให้กับ ท่านเจ้าของ อัลเมร่า ใหม่ ฟรีเป็นระยะเวลา 3 ปี หากพ้นระยะ 3 ปี ท่านเจ้าของรถสามารถสมัคร และซื้อบริการเพิ่มเติมได้ในราคาสบายกระเป๋าอีต่างหาก

นอกจากระบบ Nissan Connect Service แล้ว อัลเมร่า ใหม่ ยังเติมเต็มระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถในกลุ่ม อีโคซีดาน ไม่ว่าจะเป็นระบบ เซ็นเซอร์ตรวจสอบแรงดันลมยาง Tire Presser Monitoring System ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบแรงดันลมยางทั้ง 4 ล้อ ผ่านจอเรือนไมล์ได้ในขณะขับขี่ พร้อมการตั้งค่าแจ้งเตือนเมื่อแรงดันลมยางต่ำหรือสูงกว่าค่าที่กำหนดเอาไว้, ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist ปรับจากไฟสูงเป็นไฟต่ำทันทีเมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่ามีรถกำลังสวนเลนมา ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน และระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning จะส่งสัญญาณเตือนด้วยไฟกระพริบ รวมไปถึงการสั่นที่พวงมาลัยทันทีเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถโดยไม่ได้ตั้งใจ


ส่วนระบบความปลอดภัยดั่งเดิมไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังในขณะถอย Rear Cross Traffic Alert, เตือนเมื่อมีวัตถุเคลื่อนที่เข้ามาในขณะถอยหลัง, กล้องอัจฉริยะ 360 องศา Intelligent Around View Monitoring, ระบบตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวผ่านกล้องรอบคัน Moving Object Detection, ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า Intelligent Forward Collision Waring, ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Waring, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist

เทคโนโลยีปกป้องผู้โดยสารสูงสุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุอาทิ เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ, ถุงลมนิรภัย 6 ใบ(ทุกรุ่นย่อย), ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ VDC, ระบบป้องกันล้อล็อคตาย ABS, ระบบกระจายแรงเบรค EBD และระบบเสริมแรงเบรค BA  ตบท้ายเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็มอัตโนมัติ Cruise Control


ต่อกันที่เครื่องยนต์ของ อัลเมร่า ใหม่ ยังคงเป็นเครื่องยนต์รหัส MR 10 ขนาดความจุ 1.0 ลิตร แถวเรียง 3 สูบ ระบบหัวฉีด Central Injector พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงถึง 100 ตัว แรงบิด 152 นิวตัน-ม. จับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic และออยล์คูลเลอร์เกียร์ ในส่วนตัวเครื่องมีการปรับปรุงแค่วัสดุของท่อต่อทางเดินอากาศจากเทอร์โบเข้าสู่อินเตอร์คูลเลอร์ และจากอินเตอร์คูลเลอร์เข้าลิ้นปีกผีเสื้อ ส่วนการอัพเกรด ECU ไม่ได้มีการปรับแต่งใดๆ ทั้งเครื่อง และเกียร์


สมรรถนะเท่าที่ได้ลองสัมผัสสั้นๆ ในสนามปทุมธานี สปีดเวย์ อัตราเร่าถือว่าทำได้ดีแม้จะมีช่วงรอรอบสั้นๆ ในจังหวะช่วงกดคันเร่งทีแรก(ธรรมชาติของคันเร่งไฟฟ้า) การทำงานของชุดเกียร์ CVT ถือว่าไหลลื่น แม้จะมีบางจังหวะที่ต้องการเรียกความเร็วมีจังหวะชะงักแบบเล็กๆ แต่ถ้าค่อยๆ กดคันเร่งไล่รอบเครื่องจะมาแบบสมูทๆ แทบจะไม่รู้สึกถึงจังหวะชะงักในการทำงานของชุดเกียร์ แต่ภาพรวมถ้าคุ้นคันเร่ง คุ้นจังหวะการขับขี่ อัลเมร่า ใหม่ ให้ความสนุกในการขับขี่ดีไม่น้อย ทัศนวิสัยในการขับขี่ถือว่าโปร่งตาดีทีเดียว เพราะกระจกรอบคันค่อนข้างใหญ่ และมีกระจกชิ้นเล็กๆ ตรงเสา A-Pillar ช่วยลดมุมอับสายตาในขณะเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี



ระบบกันสะเทือนยังคงเลือกใช้ด้านหน้าแบบ อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม ช็คออัพ คอยล์สปริง ไม่ได้มีการเซ็ทอัพใหม่แต่อย่างใด เพราะของเดิมถือว่าเซ็ทมาได้ค่อนข้างลงตัวกับการใช้งานในเมือง เดินทางไกลแบบสบายๆ แต่หากเล่นกันแบบโหดๆ อาจออกอาการยวบไปนิด หน้าไถลหน่อยๆ แต่ยังคงเกาะถนนเพราะความกว้างฐานล้อหน้า และหลังกว้างมาก รวมไปถึงระบบช่วยการทรงตัวที่ทำงานได้ขยันดีทีเดียว


ล้อแม็กเลือกใช้ขอบ 15 นิ้ว กำลังเหมาะสมต่อการใช้งาน ระบบเบรคยังคงเลือกใช้แบบหน้าดิสค์ และหลังดรัมเบรค ซึ่งเพียงพอต่อการสยบพละกำลัง 100 ตัวให้อยู่ได้แบบไม่มีหวาดเสียว เท่าที่ได้สัมผัสแบบสั้นๆ กับการปรุงโฉม อัลเมร่า ใหม่ครั้งนี้ จัดว่าด้านหน้าของตัวรถดูมีสไตล์มากขึ้น จับกลุ่มตลาดได้กว้างกว่าเดิม เนื่องจากอ๊อฟชั่น และฟังก์ชั่น ที่ใส่เข้ามาถือว่าล้นปรี่เมื่อเทียบกับคู่แข่งในคลาสเดียวกัน


อัลเมร่า ใหม่ นอกจากนี้เวอร์ชั่นปกติแล้ว คราวนี้ยังมีเวอร์ชั่นปรับแต่งเพิ่มความสวยงามถึง 3 แบบ ประกอบไปด้วย ชุดแต่ง Ignite Package เติมลุคสปอร์ตด้วยชุดบอดี้พาร์ททั้ง สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตด้านหลัง โดยตัวชุดแต่งจะเป็นสีเดียวกับตัวรถตัดกับสีดำเงาแบบพรีเมี่ยม เติมอารมณ์สปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังแบบ Ducktail



ชุดแต่ง Iconic Package เพิ่มความเท่ด้วย กระจังหน้าสีดำ ครีบฉลามบนหลังคา ชุดแป้นเหยียบแบบสปอร์ต พรมปูพื้น และคิ้วบันไดสแตนเลส ตบท้ายด้วย ชุดแต่งแบบ Ultimate Package ยกระดับความเป็นสปอร์ตระดับพรีเมี่ยม โดยการผสมผสานระหว่างชุดแต่ง Ignite และ Iconic Package เข้าไว้ด้วยกัน และภายในห้องโดยสารเติมความเป็นพรีเมี่ยมด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ที่บริเวณแผงประตู และขอบประตูสีเงิน



หากท่านใดสนใจอยากชมตัวจริง หรือทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ สามารถชมตัวจริง และทดลองขับได้ที่โชว์รูม นิสสัน ทั่วประเทศได้แล้วตั้งแต่วันนี้    

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้