Hyundai IONIQ5 รถยนต์ไฟฟ้าจากเกาหลี ราคาแรงไปไหม มีอะไรน่าสนใจกว่าคู่แข่ง

255 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รถยนต์ Hyundai ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย จากบริษัท Hyundai Motor Thailand ที่อยู่ภายใต้ตัวแทนจำหน่ายกลุ่มทุนญี่ปุ่น Sojitz Corporation (โซจิสึ) เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2007 – 2023 ต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็นบริษัทแม่ จากเกาหลีใต้ ในชื่อบริษัท บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) ก็ได้ทำตลาดอย่างจริงจัง ล่าสุดได้มีการเปิดตัว และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ Hyundai IONIQ5  ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ได้จัดกิจกรรมทดสอบสมรรถนะ บนเส้นทางกทม.-อยุธยา ไปกลับรวมระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร


Hyundai IONIQ5 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งภายนอกถูกออกแบบมาให้ดูล้ำสมัย ด้วยลายเส้นที่เป็นเหลี่ยมสันชัดเจน ฝากระโปรงหน้าดีไซน์ให้มีความโค้งนิด ๆ รับกับไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์แบบ Parametric Pixel มือจับเปิดประตูเป็นแบบเรียบไปกับประตูรถ โดยจะกางออกเมื่อปลดล็อค ในรุ่นท็อปคือ First Edition จะมีเพิ่มหลังคา Vision Roof และเปลี่ยนล้อจาก 19 นิ้วในรุ่นรองเป็นขนาด 20 นิ้ว

ภายในมาพร้อมดีไซน์ทันสมัย พวงมาลัยเป็นแบบ 2 ก้าน พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่นควบคุมระบบต่าง ๆ และระบบ Adaptive Cruise Control พร้อมปุ่ม Drive Mode ที่เลือกได้ 3 Mode คือ Eco, Normal, Sport ด้านหลังพวงมาลัยติดตั้งก้าน Paddle Shift สำหรับปรับอัตราความหน่วง 3 ระดับ และ iPaddle เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า สามารถปรับเบาะอุ่นและเย็นได้ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวา

ส่วนจอกลางสำหรับแสดงข้อมูลการขับขี่และเครื่องเสียงขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมลำโพง BOSE นอกจากนี้ยังมีจุดชาร์จ USB 4 Port พร้อม Wireless Charger ที่ด้านหน้า

ในการทดสอบครั้งนี้ เราได้ขับ Hyundai IONIQ5 รุ่น First Edition หรือรุ่นท็อป โดยเส้นทางการทดสอบจะพบกับสภาพการจราจรที่หลากหลาย ทั้งรถติด ทั้งทางโล่ง ๆ บนทางด่วน ดังนั้นจึงสามารถทดสอบสมรรถนะของรถได้หลายรูปแบบ ในช่วงแรกที่เจอกับรถติดบนถนนสุขุมวิท เราพบว่า IONIQ5 เป็นรถที่ออกตัวได้นุ่มนวล เร็วแต่ไม่กระชากเหมือนรถไฟฟ้าหลาย ๆ รุ่น ขับง่าย ขับสบาย เบาะนั่งกระชับตัว มีตัวดันหลังที่ช่วยให้นั่งสบายมากยิ่งขึ้น ในการขับขี่มีความคล่องตัว พวงมาลัยแม่นยำ น้ำหนักพวงมาลัยดี ไม่เบาเกินไป ในจังหวะที่ต้องเร่งก็ตอบสนองได้ดี เมื่อลองใช้ Paddle Shift ปรับค่าความหน่วงก็ใช้งานได้ดี

เมื่อขึ้นทางด่วน ในจังหวะที่ถนนโล่ง เมื่อลองเร่ง IONIQ5 ในโหมด Eco ก็ตอบสนองกับคันเร่งได้เป็นอย่างดี มาไว แต่ไม่กระชาก มาแนวขับสบาย ๆ แต่เมื่อลองคิกดาวน์ ก็พุ่งพอสมควร เพียงพอกับการขับใช้งาน เร่งแซงไม่ต้องลุ้น ต่อจากนั้นกเมื่อทดลองปรับโหมดการขับขี่ จาก Eco ในตอนแรก มาเป็น Normal ก็พบว่าอัตราเร่งดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ยิ่งในโหมด Sport ยิ่งแตกต่าง รถจะดึงมากขึ้นขับสนุกมากขึ้น ในย่านความเร็วสูงบนทางด่วน พบว่าช่วงล่างของรถคันนี้ มาในสไตล์แน่น หนึบ เกาะถนน เข้าโค้ง หรือเปลี่ยนเลนเร็ว ๆ ได้อย่างมั่นใจ เบรกดี แม่นยำ


ในความเร็วสูง IONIQ5 ถือเป็นรถที่สามารถกันเสียงจากภายนอกได้ดี ทำให้ภายในรถเงียบ ในช่วงความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็พบว่ายังสามารถพูดคุยกับผู้ร่วมทดสอบในรถได้แบบสบาย ๆ

เมื่อลองระบบตัวช่วยต่าง ๆ เช่น ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ก็สามารถทำได้ดี เมื่อทดสอบด้วยการค่อย ๆ ขับเซไปหาเส้นถนนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว รถก็ดึงกลับแบบเนียน ๆ ส่วนระบบ Smart Cruise Control with Stop and Go ก็ทำงานได้ดี การปรับความเร็วตามรถคันหน้าค่อนข้างนิ่มนวล แม่นยำ สามารถปรับระยะห่างระหว่างคันได้ 4 ระดับ

สำหรับอัตราสิ้นเปลืองนั้น ในการทดสอบครั้งนี้เป็นการทดสอบที่วิ่งบนเส้นทางที่หลากหลายสถานการณ์ ทั้งรถติด รถโล่ง ซึ่งทั้งหมดเป็นการทดสอบแบบใช้งานจริง มีการทำความเร็วในหลายช่วง ความเร็วเฉลี่ย 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ไม่ได้เน้นทดสอบความประหยัด ซึ่งเมื่อจบระยะการทดสอบประมาณ 220 กิโลเมตรกว่า จากพลังงาน 100% ตอนออกตัว เมื่อกลับมาคืนรถ ก็พบว่าพลังงานเหลือ 47% ซึ่งก็หมายความว่าหากใช้งานจริงรถคันนี้น่าจะวิ่งได้เกือบ 400 กิโลเมตรเลยทีเดียว


Hyundai IONIQ5 แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย โดยมีขุมพลัง และแบตเตอรี่ให้เลือกดังนี้
รุ่น Premium มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 8.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 185 กม./ชม. ขนาดแบต 58 kWh วิ่งได้ 384 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) ชาร์จ 0-100% ใช้เวลา 4.59 ชม.

รุ่น Exclusive มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 217 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 7.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 185 กม./ชม. ขนาดแบต 72.6 kWh วิ่งได้ 481 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) ชาร์จ 0-100% ใช้เวลา 6.09 ชม.

รุ่น First Edition มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 217 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 7.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 185 กม./ชม. ขนาดแบต 72.6 kWh วิ่งได้ 451 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) ชาร์จ 0-100% ใช้เวลา 6.09 ชม.

ทั้ง 3 รุ่น สามารถรองรับไฟ DC ได้ถึง 350 kW ชาร์จ 10-80% ใช้เวลา 17.16 นาที


IONIQ5 มาพร้อม Hyundai SmartSense เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงซึ่งพัฒนาขึ้น เพื่ออีกระดับของความผ่อนคลายและมั่นใจในการขับขี่ทั้ง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Smart Cruise Control with Stop and Go และระบบเตือนจุดอับสายตา Blind-spot Collision Warning

Hyundai IONIQ5 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าใช้อีกคันหนึ่ง ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัย ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย การขับขี่ที่ดี อัตราเร่งดี ช่วงล่างนุ่มนวล นั่งสบาย แต่เกาะถนน มีระบบความปลอดภัยล้ำสมัยครบครัน แม้ราคาแอบแรงไปหน่อย คือ Premium ราคา 1.699 ล้านบาท, Exclusive ราคา 1.899 ล้านบาท และ First Edition ราคา 2.399 ล้านบาท แต่ถ้าใครไม่ติดเรื่องงบประมาณรถรุ่นนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีอีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้