TANK 300 Diesel เติมเต็มช่องว่างที่ขาดหาย

146 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ก่อนงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2025 สักประมาณ 2 อาทิตย์ ค่าย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จำกัด ได้ทำการเปิดตัวรถตรวจการณ์สไตล์ SUV ตัวลุย อย่าง TANK 300 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซ,บล็อกใหม่ล่าสุดของทางค่าย ที่กล้ารับประกันระยะทางสูงถึง 1 ล้านกิโลเมตร และเป็นการเติมเต็มช่องว่างของ TANK300 ที่เปิดตัวครั้งแรกกับขุมพลังในรูปแบบของ เบ็นซิน ไฮบริด ซึ่งทำให้ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างสูง เพราะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถในรูปแบบนี้ แล้วอยากได้เครื่องยนต์ดีเซล ทำให้มียอดจองในงาน บางกอก อิงเตอร์เนชั่นแนล 2025 ไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากการเปิดตัวไม่นานทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะของรถรุ่นนี้ โดยใช้เส้นทาง กรุงเทพ-อยุธยา ระยะทางไปกลับเกือบ 200 กิโลเมตร

 รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้เปลี่ยนไปจากตัวไฮบริด 


รูปโฉมภายนอกของ TANK300 Diesel ดีไซน์ของตัวรถมาในรูปแบบทรงกล่อง เน้นความเหลี่ยมสัน สไตล์เดียวกับตัวลุยย้อนยุคของฝั่งอเมริกัน แต่ปรับสไตล์ให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ่น และเตะตาตั้งแต่เปิดตัวในรุ่นของ เบ็นซิน ไฮบริด แล้ว ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า Intelligent LED ทรงกลม ที่มาพร้อมกับไฟ Daytime Running Light  กันชนหน้าขนาดใหญ่สีดำ สอดรับกับชุดกันชนหน้า โป่งล้อหน้า-หลังขนาดใหญ่สีดำ  สอดรับกับชายบันไดข้าง และกันชนหลังสีดำ ทำให้ตัวรถดูแข็งแกร่งบึกบึน สไตล์ตัวลุยขนานแท้ กระจกมองข้างทรงเหลี่ยมแนวตั้ง พร้อมไฟเลี้ยวที่มุมกระจกมองข้าง มีรูฟแร็คมาให้จากโรงงานเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มีซันรูฟมาให้เสร็จสรรพ ฝาท้ายเปิดแบบบานสวิง ติดตั้งยางอะไหล่ที่ฝาท้ายสไตล์รถตรวจการณ์ขนานแท้

 ภายในห้องโดยสารปรับนิดหน่อย 

ภายในห้องโดยสารของ TANK300 Diesel เรียกได้ว่าเลย์เอ้าท์เหมือนกับตัว เบ็นซิน ไฮบริด แทบจะทุกกระเบียดนิ้ว พวงมาลัยทรงสปอร์ต 3 ก้าน(ปรับ 4 ทิศทาง) พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่น และแป้นแพดเดิ้ลชิฟท์ที่พวงมาลัยมาให้ครบถ้วน จอมาตรวัดเรือนไมล์แบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว ที่บอกฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ของเครื่องยนต์ไว้ครบครัน และใกล้ๆ กันจะมีจอกลางแบบ Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว เท่ากับจอเรือนไมล์ ซึ่งหน้าจอกลางรอบนี้มีการอัพเดทซอฟท์แวร์ใหม่ ทำให้การกด Touch Screen ทำงานได้ว่องไวมากขึ้นกว่าเดิม ตัวจอกลางรอบรับ Apple Car Play และ Android Auto และมาพร้อมกับชุดลำโพงจาก Infinity 8 ตำแหน่ง


แอร์ยังคงเป็นทรงกลมเน้นความคลาสสสิค  บริเวณคอนโซลเกียร์ มีการปรับเปลี่ยนเปลี่ยนตำแหน่งของปุ่มฟังก์ชั่นการทำงานของตัวรถนิดหน่อย มีปุ่มปรับโหมดขับเคลื่อน 2WD มาเป็น 4WD ทั้ง 4Hi และ 4Lowคันเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter เบาะนั่งทุกตำแหน่งหุ้มด้วยหนัง Nappa สีดำ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Memory Seat และผู้โดยสารตอนหน้า 4 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารตอนหลังปรับพับแยก 60:40 เพิ่มพื้นที่ในการเก็บสัมภาระได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีช่องแอร์ทางด้านหลัง และช่องเสียบชาร์จไฟแบบ USB Type A และ Type C มาให้อย่างล่ะ 1 ช่อง



 เครื่องดีเซล 2.4 ดีเซลเทอร์โบ พร้อมโหมดการขับขี่ 7 แบบ 


ขุมพลังของ TANK300 รอบนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกใหม่ล่าสุดของทางค่าย เกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยพื้นฐานเป็นเครื่องยนต์บล็อค แถวเรียง 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ 2.4 ลิตร จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ คอมมอนเรล-ไดเร็คอินเจ๊กชั่น พ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบแปรผัน VGT ให้แรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-ม. ที่รอบเครื่องยนต์ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ซึ่งทางวิศวกรของเกรท วอลล์ มอเตอร์ แจ้งมาว่า ที่รอบเครื่องยนต์ 1,000 รอบต่อนาที มีแรงบิดให้ใช้งานระดับ 250 นิวตัน-ม. กันเลยทีเดียว



โดยเครื่องยนต์บล็อคนี้จับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งแบบ 2 ล้อหลัง และขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD Dual Speed นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่ถึง 7 แบบด้วยกัน อาทิ Normal, Sport, Eco, Mud, Sand, Snow, 4L คร่าว ก่อนประมาณนี้ นอกจากนี้ยังได้ทำการติดตั้งระบบล็อคเฟืองท้าย Rear Electric Differential Lock มาให้เสร็จสรรพ(ถ้ารุ่น HEV จะมี Front Electric Lock มาให้ด้วย) เหนือสิ่งอื่นใดยังมีระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด Off-Road Cruise Control และระบบ TANK Turn เป็นต้น

 ระบบกันสะเทือนพร้อมลุย 


ทางด้านระบบกันสะเทือนของ TANK300 Diesel ถูกออกแบบมาเพื่อเอาไว้ลุยโดยเฉพาะ โดยช่วงล่างทางด้านหน้าเป็นอิสระ Double Cross Arm สตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง และทางด้านหลังเป็นแบบ คานแข็ง คอยล์สปริง ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบ แร็คแอนด์พิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง ระบบเบรกเป็น ดิสค์เบรกทั้ง 4 ล้อ โดยที่ชุดหม้อลมเบรคยังคงเป็นแบบแวคคั่มจากเครื่องยนต์ตามปกติ ไม่ได้เป็นแวคคั่มไฟฟ้าแบบตัว HEV ล้อแม็กที่ติดมาให้เป็นขอบ 17 นิ้ว รัดไว้ด้วยยางแบบ H/T ขนาด 265/65 R17

 คันเร่งดีเลย์..ลอยลำดี..ช่วงล่างกระด้างไปนิด 


หลังจากทราบข้อมูลตัวรถ TANK300 Diesel ไปแล้ว เข้าสู่การทดลองขับบนเส้นทาง กรุงเทพ-อยุธยา-กรุงเทพ สัมผัสแรกเมื่อก้าวขึ้นไปนั่งในห้องโดยสารจะพบว่าทัศนวิสัยในการขับขี่ถือว่าโปร่งตาดี ตำแหน่งของเบาะนั่งทำได้ดี ส่วนรองนั่งสั้นไปนิด แต่พอเดินทางไกลกลับไม่รู้สึกเมื่อยล้าเท่าใดนัก ตำแหน่งของพวงมาลัยถือว่าดี น้ำหนักของพวงมาลัยจัดว่าค่อนข้างเบา แม้จะปรับน้ำหนักของพวงมาลัยให้หนักสุดแล้วก็ตามที ตำแหน่งของแป้นคันเร่ง และแป้นเบรควางตำแหน่งที่ใช้งานถนัดเท้า การตอบสนองของแป้นเบรคนั่น ค่อนข้างไว ต้องปรับตัวสักพักนึงถึงจะคอนโทรลน้ำหนักเท้าในการกดแป้นแบรคให้สมูทมากยิ่งขึ้น

กลับกันในเรื่องของสมรรถนะของเครื่องยนต์นั่น ในจังหวะออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง คันเร่งไฟฟ้ามีอาการดีเลย์ค่อนข้างมาก พอถึงจังหวะการทำงานของคันเร่งรถจะมีการกระชากออกตัวจากแรงบิดของเครื่องยนต์ ทำให้ช่วงแรกการกะจังหวะในช่วงออกตัวจากจัดหยุดนิ่ง ตอนขึ้นเนิน หรือตอนยูเทิร์นรถต้องกะระยะน้ำหนักในการกดคันเร่งให้พอดีๆ แม้จะปรับการตอบสนองของคันเร่งเป็น Sport แล้วก็ตาม กลับกันในจังหวะลอยลำช่วงความเร็วต่ำ-ปานกลาง การตอบสนองของคันเร่ง และเครื่องยนต์ให้ความกระฉับกระเฉงมากยิ่งขึ้น แรงบิดระดับ 480 นิวตัน-ม. มีให้ใช้งานอย่างเหลือเฟือ หรือบางครั้งในจังหวะเร่งแซงเพียงปลายนิ้วแตะแป้นแพดเดิ้ลชิฟท์เพื่อลดตำแหน่งเกียร์เพื่อเอาอัตราเร่งแซง การทำงานของเกียร์ถือว่ากระฉับกระเฉงดีทีเดียว

ฟิลลิ่งของระบบกันสะเทือนในช่วงที่คลานๆ ในเมืองหลวง ถือว่านั่งกำลังสบาย แต่พอเจอถนนที่ไม่เรียบหรือเป็นลอนคลื่น อาการกระเด้ง กระดอน ของช่วงล่างจะปรากฏขึ้นตามสไตล์ของรถที่ใช้ช่วงล่างด้านหลังแบบคานแข็ง(บางท่านอาจมองหาความนุ่มนวลมากกว่านี้) แต่สำหรับ TANK 300 Diesel ถือว่ากระเด้ง กระดอน มากไปนิด ทำให้การเดินทางไกล อาจทำให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารออกอาการเหนื่อยล้าได้(ตอนหลังสอบถามทางวิศวกรของทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ปรากฏว่า ช่วงล่างชุดนี้ไม่ได้มีการเซ็ทอัพให้แตกต่างจากตัว HEV แต่อย่างใด) ดังนั่นน้ำหนักตัวรถที่หายไป 200 กิโลกรัม เลยกลายเป็นดาบ 2 คม เมื่อวิ่งบนถนนที่ไม่เรียบ แล้วตัวรถจะกระเด้ง กระดอน ค่อนข้างมาก แต่ๆๆ ในจังหวะโยกเปลี่ยนเลน หรือเข้าโค้งด้วยความเร็ว ช่วงล่างชุดนี้กลับให้ความรู้สึกมั่นใจว่าเอาอยู่ ตัวรถไม่มีอาการโคลงเคลงให้รู้สึกหวิวๆ แต่อย่างใด

อัตราทดพวงมาลัยถือว่าให้ความเฉียบคมในระดับนึง เวลารถวิ่งเจอถนนที่เป็นลอนเป็นคลื่น พวงมาลัยจะไม่มีอาการวอกแวกให้ความมั่นใจสูง วงเลี้ยวค่อนข้างแคบเมื่อเทียบกับรถในสไตล์นี้อยู่ที่ 5 เมตรนิดๆ การตอบสนองของระบบเบรคถือว่าฝากฝังความปลอดภัยได้ดีในระดับที่น่าพอใจ การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารถือว่าทำได้ดี เสียงเครื่องยนต์ในช่วงรอบเดินเบาถือว่าเงียบกว่า FORD Everest แต่จังหวะรีดเค้นรอการทำงานของเครื่องยนต์ เสียงของเครื่องยนต์ก็ไม่ได้ดังเข้ามาในห้องโดยสารมากจนเกินรับ แต่จะมีเสียงของลมที่เล็ดลอดเข้ามาแทน อันนี้เข้าใจได้ เพราะด้วยสไตล์ของตัวรถที่เป็นทรงกล่องมันต้านลมอยู่แล้วนั่นเอง

ทั้งหมดนี้คือ ความรู้สึกคร่าวๆ ที่ได้สัมผัส TANK300 Diesel กับระยะทาง 200 กม. ยังไม่มีโอกาสได้ลองสมรรถนะในรูปแบบของ Off-Road ว่าจะแจ่มแจ๋วขนาดไหน หากมีโอกาสดีๆ ทางเราจะยืมมาทดสอบอีกครั้งว่า สมรรถนะในภาพของรถรุ่นนี้จะเด็ดขนาดไหน TANK300 Diesel มีจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่น Pro 2WD ราคา 1.029 ล้านบาท, รุ่น ULTRA 2 WD ราคา 1.179 ล้านบาท และรุ่น ULTRA 4 WD ราคา 1.279 ล้านบาท สนใจสมรรถนะของ TANK 300 Diesel สามารถไปทดลองขับได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทั่วประเทศ   

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้